26 กันยายน 2551 13:10 น.
เฮาชาวดอย
เห่แปลญวนหย่อนสายสหายป่า
ทานอเมริกาอย่างกล้าแกร่ง
ด้วยสองมมือนี้ไม่มีแรง
แต่ใจแห่งคนกล้าไม่ปราชัย
ยวนยาเห่ไปอาลัยเพื่อน
จงย้ำเตือนเห่ขวัญอย่าหลับไหล
ท่านผู้สู้สู่สวรรคลาลัย
คนรุ่นใหม่ต้องสืบเหตุเจตนา
โปรยฝนเหลืองเครื่องบินทมิฬชาติ
ร่างเปลือยขาดโรคภัยใครรักษา
ระเบิดบราวด์ 2000 พรั่นน้ำตา
เห็นทุกครายิ่งเกรียดแทนเวียดนาม
จรวด อาร์ พี จี รีเข้าใส่
ระเบิดลุกเป็นไฟใฟ้เกรงขาม
เป็นดอกเห็ดเข่นฆ่าอย่างนาปาล์ม
เขาคงถามประชาชาติอำนาจใด
อเมริกันตัวเก่งนักเลงโลก
ความโสโครกขมขื่นสำเร็จใคร่
ถูกทารุณอย่างนี้ทุกทีไป
สิทธิสตรีมีไว้ไฉนกัน
จากเวียดนามจำจดหลายทศวรรษ
หลายล้านนัดพัดพรั่งดังสนั่น
ยังก้องหูกรอกหูอยู่ทุกวัน
ปล้นน้ำมันอิรักนักเลงพาล
เป็นนักเลงข่มเหงใครไปเสียทั่ว
ความโฉดชั่วส่ำสัตว์ประหัตประหาร
ทั้งนักเสือกตัวร้ายทุกรายการ
สร้างกฎศาลโสโครกโลกของใคร
ความลืมตีนตนว่ามหาอำนาจ
ก่อนเป็นทาสอังกฤษทำฤทธิ์ใหม่
รุกรานอินเดียนแดงถอยแรงไป
ประเทศใหม่กาฝากกากแผ่นดิน
จากวันนั้นวันนี้หนีไม่พ้น
เป็นเผ่าชนรุกรานทุกฐานถิ่น
สันติธรรมน้ำตาทุกธานินทร์
ไม่รู้สิ้นเสียงปืนที่ครืนดัง
เป็นผู้ก่อการร้ายสายพระเอก
และเป็นเฉกนักฆ่าเบื้องหน้าหลัง
พ่อนักบุญจุนเจือเหลือกำลัง
แท้จริงหวังประโยชน์เหตุเป็นเลศนัย
เป็นหมาหมู่รุมร่ายหลายประเทศ
น่าสมเพชสิทธิอยู่ที่ไหน
สิทธิชอบทำนั้นมีอยู่ที่ใด
ที่ชอบใจอเมริกันเท่านั้นพอ
ขอกราบเรียนเขียนปากกาภาษาพูด
ท่านจอร์ชบูชบูดเน่าเราวอนขอ
อันสงครามสันติวิธีให้รีรอ
เพราะว่าบ่อน้ำมันนั้นไม่มี
เชิญท่านฟังยวนยาเลเห่ไพเราะ
ให้เสนาะเพราะพริ้งทุกสิ่งที่
ฟังมนต์รักนาปาล์มอาร์ พี จี
พวกท่านมีเมตตามาทิ้งไว้
นอนเถิดหน้ายาหยีพี่จอร์ชบูช
ตีนตบตูดขาวผ่องอย่าร้องไห้
บ่อน้ำมันได้แล้วนะแก้วใจ
เอาอะไรอีกเล่าเฒ่าทารก
26 กันยายน 2551 12:59 น.
เฮาชาวดอย
เมื่อยามแล้งดินซุยเป็นผุยผง
แสงแดดร้อนโลมลงตรงกลางทุ่ง
ลูกชาวนาทิ้งนาเข้ามากรุง
ต่างก็มุ่งหน้ามาหางานทำ
ทิ้งพ่อแม่แก่เฒ่าเอาไว้บ้าน
เฝ้ารอคอยลูกหลานกาลเช้าค่ำ
บ้านฟากไผ่เอียงเอนเหมือนเวรกรรม
สุดจะนำพาไปด้วยไร้แรง
กาลเวลาพาไปวัยแก่เฒ่า
รอวันเน่าเฒ่าชราไม่กล้าแกร่ง
มีเพื่อนจันทร์และเทียนไม่เปลี่ยนแปลง
จนถึงวาระแห่งการสิ้นลม
ย่างเข้าสู่เหมันต์อันหนาวเหน็บ
ร่างซีดเจ็บกายาไร้ผ้าห่ม
คิดถึงลูกอาลัยใจตรอมตรม
ป่านนี้ขมขื่นไหมใจคนรอ
สายลมหนาวพราวสายพระพายเป่า
เนื้อผู้เฒ่าระริกไหวข้างไฟก่อ
ลมเหมันต์บรรเลงคล้ายเพลงซอ
ที่เร่งล้อเริงร่าไม่ปราณี
รุ่งแสงทองส่องภพกลบความหนาว
ร่างซีดราวขาวฝ้ายเหมือนตายสี
ก็สังเวยความหนาวร้าวฤดี
กลางผืนนาผืนนี้หามีใคร
เถียงนาร้างเปลี่ยวไร้ใครจักอยู่
รวงทองชูขึ้นเปลี่ยวเกี่ยวไฉน
คงรกร้างทึบแท้แต่นี้ไป
เมื่อเจ้าของลาไกลจากไปแล้ว
ซอสายลมบรรเลงเพลงกรรแสง
ช่อหรีดแห่งข้าวรวงร่วงแผ่วๆ
กลางผืนทรายพรายผ่องดั่งทองแพรว
ต่างโลงแก้วแพรวพราวของชาวนา
26 กันยายน 2551 12:52 น.
เฮาชาวดอย
เทิบหมอนเรียงท่อนไม้ โปงลาง
พิสุทธิ์โสตสตับมิจาง วิจิตแท้
ทวยเทพจากสรวงนภางค์ พิสุทธิ์ ประสิทธิ์
เสียงอื่นหมื่นโลกแม้ มาตรฟ้าห่อนเทียม
เสงี่ยมศิลป์ศาสตร์ซร้อง สุนทรา
งามอ่อนฟ้อนงามตา แช่มช้อย
ปานไทเทพเทวา สวรรค์ทิพย์ เทียมนา
ยาตรเคลื่อนลินลาศคล้อย คืบฟ้ามาดิน
กาฬสินธุ์ถิ่นนาฏล้ำ คำศิลป์
ภูมิภาคเกียรติแผ่นดิน แผ่นด้าว
คงคุณค่าธานินทร์ คงค่า
คงเกียรติประวัติกร้าว เกียรติกล้ากาฬสินธุ์
อิทิสังฉันท์ ๒๐
แลวิไลวิเศษวิสุทธิคุณ สดับประทับสำเนียงสุน-
ทราเสียง
ซร้องก็ซร้องประพัฒน์เสนาะสำเนียง เถลิงสุตับประทับจำเรียง-
จำรัสใจ
กล่อมจรุงมนัสประพัฒน์สมัย สำเนียงดุรีริยางคไทย-
อิศาณเฮา
แต่งชมวงโปงลางโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ เนื่องนวโรกาส
แข่งโปงลางได้ที่หนึ่งของประเทศ ในระดับ ม.ต้น
9 กันยายน 2551 05:20 น.
เฮาชาวดอย
คุณครูไพชยนต์
ร่มขี้เหล็กเขียวเหลืองเรืองอร่าม
บานงดงามชูดอกบ้างออกผล
ร่มขี้เหล็กร่มใหญ่ครูไพชยนต์
ทะนงต้นแผ่เงาแก่เรามา
ท่านคือครูผู้เป็นเหมือนเช่นพ่อ
ผู้ถักทอสืบสานการศึกษา
ทุกคำสอนทุกทุกคำจำนรรจา
มีคุณค่าในชีวิตลูกศิษย์นี้
แหละแล้วถึงเมื่อกาลวารเกษียณ
โลกกลับเปลี่ยนอาลัยไปทุกที่
เราไม่อาจย้อนเวลาทวนวารี
แต่ความดีจักสถิตนิรันดร
สถิตบานหวานไว้ในใจศิษย์
ชั่วชีวิตจดจำคำสั่งสอน
ยังจดจำสายตาความอาทร
ศิษย์ขอวอนเทพทวยอวยพรชัย
คุณครูยังอยู่ในหัวใจศิษย์
ตราบชีวิตลมปราณกาลสมัย
แม้มิอาจคู่หล้านภาลัย
ครูอยู่ในใจศิษย์นิจนิรันดร์
9 กันยายน 2551 05:16 น.
เฮาชาวดอย
รำลึกคุณครูไพชยนต์ ภูตาโก
เปิดประตูห้องปกครองฉันมองผ่าน
เห็นเก้าอี้อาจารย์ตระหง่านอยู่
เมื่อสบแววตาเห็นท่านเอ็นดู
ท่านคุณครูไพชยนต์ครูคนจริง
เป็นแม่พิมพ์ที่ดีเป็นศรีชาติ
ขาวสะอาดโปร่งใสในทุกสิ่ง
ทั้งเป็นครูเป็นร่มหลักศิษย์พักพิง
ร่มเย็นอิงปกป้องลูกศิษย์มา
ทุกคำสอนคือห่วงใยใส่ใจศิษย์
ทุกแนวคิดเพื่อทุกงานการศึกษา
ทั้งสองมือปลูกปั้นสร้างปัญญา
ทั้งสองตาสอดส่องปกป้องภัย
สองมือท่านที่ป้องประคองลูก
สัมพันธ์ผูกปลูกปั้นนั้นไฉน
มิอาจว่าหน้าที่ที่ทำไป
แต่คือใจที่กระทำชี้นำพา
ผ่านเดือนปีถึงกาลท่านเกษียณ
จากโรงเรียนลางานการศึกษา
ล่วงเลยปีที่ผ่านกาลเวลา
สร้างคุณค่าในแผ่นดินปราชญ์วิญญู
แลในห้องปกครงเคยมองผ่าน
เห็นเก้าอี้อาจารย์ตระหง่านอยู่
จักเหมือนเดิมอย่างไรเมื่อไร้ครู
จักมองดูหาใครท่านไปแล้ว
วาระเกษียณ
อาจารย์ไพชยนต์ ภูตาโก ท่านเป็นรองผู้อำนวยการ กลุ่มงานปกครอง
โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ท่านใจดีมากเลยครับ