23 พฤศจิกายน 2552 19:06 น.

ไหมผู้ไท

เฮาชาวดอย

ไหมผู้ไท

		รอยขิดรอยคัดมัดไหม
	มัดใจมัดจิตสนิทแน่น
	ผูกไทอีสานดินแดน
	เป็นหลักเป็นแกนกลมเกลียว
		ใยไหมผสานสอดเส้น
	มือน้อยค่อยเน้นแน่นเหนียว
	จากด้ายเป็นผ้าผืนเดียว
	งามดั่งดอกดาวเด่นดวง
		ชาวดินใช้ด้ายทำผ้า
	ค้ำคูนทูนค่าเลอสรวง
	ค้ำคูนอีสานทั้งปวง
	ล้ำเลิศเชิดชูผู้ไท
		สีพันดอนผ่านดอนมาผ่านผ้า
	ศรีศรัทธาแน่วแน่แต่ปางไหน
	ศรีฮีตครองครองมาแต่คราใด
	ศรีสไบไหมสะบัดด้วยศรัทธา				
31 ตุลาคม 2552 22:40 น.

วีรบุรุษคนกล้าของธานิน

เฮาชาวดอย

สงครามนี้มีผู้ชนะ

		สงครามนี้มีผู้ชูธงชนะ
	คือผู้ที่เสียสละจะยิ่งใหญ่
	สละตนเพื่องอกงามและอำไพ
	เพื่อเป็นร่มไม้ใหญ่ทะนงยืน
		
		ชายผู้นี้ชื่อ นวมทอง  ไพรวัลย์
	ผู้ตั้งหน้าฝ่าฟันและฝ่าฝืน
	ผู้ท้าทายรถถังทั้งปากปืน
	ผู้ทวงคืนคำว่าอธิปไตย
		
		จากโรงงานการไฟฟ้ามาแท็กซี่
	มาสู้เพื่อเสรีในเมืองใหญ่
	คือประทีปเทียนทองแห่งผองไทย
	คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในแผ่นดิน
		
		เขาเกิดมาตอบแทนแผ่นดินนี้
	ตายเป็นหลักศักดิ์ศรีไม่มีสิ้น
	วีรบุรุษคนกล้าของธานิน
	ต้านทมิฬด้วยสัจจะประจัญประจญ
		
		ชายผู้ชูธงชัยให้ประชา
	เขาเป็นเพียงต้นหญ้าในแห่งหน
	ตายเพื่อหญ้าลามลุกทุกมณฑล
	เป็นดอกผลสีแดงแห่งเสรี
		
		วันนี้ไม่มีลุงนวมทอง
	แต่จักมีพี่น้องในทุกที่
	สหายผู้ชีพพร้อมจักยอมพลี
	เพื่อศักดิ์ศรีแห่งมหาประชาไทย
		
		อุดมการณ์ท่านนี้ไม่มีสิ้น
	ตราบจนชั่วฟ้าดินยุคสมัย
	คนเป็นล้านทั้งบ้านเมืองจักเรืองชัย
	เขาคงไม่หลับตาดอกหนาลุง				
31 ตุลาคม 2552 20:06 น.

คืนนี้ที่ฝัน คืนนั้นที่ใฝ่

เฮาชาวดอย

คืนนี้ที่ฝัน  คืนนั้นที่ใฝ่


		ค่ำคืนนั้นฉันมองดูท้องฟ้า
	เห็นแสงดาวพราวจ้าจรัสสี
	เห็นโค้งฟ้ากอดรัดปัถพี
	ตาฉันก็เริ่มหรี่แล้วหลับลง
		
                                            ฉันฝันเห็นนักสู้ชายผู้หนึ่ง
	กับร่างซึ่งโทรมทรุดดุจเศษผง
	หากต้องลมฤาฝืนให้ยืนยง
	สายลมคงพัดร่างอันบางเบา
		
                                             มือที่กร้านการยุทธมิหยุดพัก
	ใจที่แหลกด้วยรักแม้นจักเก่า
	มรดกทุ่งนามาแต่เยาว์
	กระด้างแดดแผดเผาเป็นผงทราย
		
                                              สองมือแห่งนักสู้ชายผู้นี้
	รังสรรค์ให้ปฐพีมีความหมาย
	ด้วยศรัทธาเหนือศรัทธาอันท้าทาย
	ที่ทุ่มเทแรงกายลงกรำงาน
		
                                              เนรมิตทุ่งแล้งในแหล่งหล้า
	กำเนิดกล้าข้าวใหม่อันไพศาล
	ฤดูหนาวข้าวรวงเหลืองตระการ
	จึงบรรจงลงจานจรุงใจ
		
                                                เพียงฉับพลันดวงตาฉันมาตื่น
	กลางค่ำคืนแสงสีที่สดใส
	ไม่มีแล้วลานฝันอันพิไล
	มีตึกใหญ่ขึ้นมาทับนาแล้ว

                                                                                                                     นายฉัตรสุมาลย์  ภูแต้มนิล
                                                                                                                                                ประพันธ์				
29 ตุลาคม 2552 22:16 น.

ระแนงดง

เฮาชาวดอย

ป่าผืนนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก
	คนเขามักเรียกขานแต่นานโข
	ดงระแนงเหนือใต้หลายกิโลฯ
	มาเว้าโหว่หายวับไปกับตา
		
                                           ข้าเกิดมาในดงพงไพรพฤกษ์
	จิตสำนึกข้ารักตระหนักค่า
	ข้ารักป่านี้เป็นเช่นชีวา
	วันนี้ป่าผืนนี้ไร้ชีวิต
		
                                            อาณาจักรสัตว์ป่ามาแตกพ่าย
	จากมือที่ท้าทายความถูกผิด
	จากเมืองที่ล้ำรุกอยู่ทุกทิศ
	ทรยุควิปริตอันผิดคน
		
                                           ซากต้นไม้ใครโค่นเหลือโคนไว้
	ทะเลไฟใครเล่าเผาทุกหน
	นั่นซากใครนอนตายคล้ายทุกทน
	ในกองเพลิงร้อนรนจนขาดใจ
		
                                           จากป่ารกจับจองเจ้าของที่
	ล้อมรั้วไว้อย่างดีเป็นที่ไร่
	ที่เขาเรียกดงระแนงอยู่แห่งใด
	เห็นแต่รอยคราดไถไว้ทำกิน
	                  
                                          ป่าสงวนแห่งชาติประกาศติด
	อนาถจิตอนิจจามาร้างสิ้น
	เหมือนเมืองนี้ไร้กฎหมายในแผ่นดิน
	เหมือนกาฬสินธุ์ไร้วิญญู
		
                                          กรมป่าไม้เมืองนี้ไร้ชีวิต
	ฤาเก่งแต่ทุจริตคิดอดสู
	ฤาเก่งแต่เลียนายหมายเชิดชู
	รับสินบนกินอยู่สุขสบาย
		
                                          จงหลับตาให้สนิทเถิดเพื่อนจ๋า
	เพื่อนเป็นเพียงสัตว์ป่าจงอย่าหมาย
	เพื่อนจงปล่อยคนป่าให้ท้าทาย
	ปัญญาชนทั้งหลายตายหมดแล้ว				
26 ตุลาคม 2552 22:22 น.

รักหมา เพราะน่ารัก

เฮาชาวดอย

ในกรงเหล็กล้อมรอบเหมือนกรอบขัง
	เสียงที่ฟังไร้ศัพท์เกินนับเสียง
	กับถ้อยคำบางคำเปล่งสำเนียง
	บอกชีพเพียงสินค้าหมาแลกครุ
		ชีพของทาสนับสิบที่ริบหรี่
	ในกรงที่เขากั้นห้องบรรจุ
	เตรียมจะดับลับวัยในอายุ
	กับน้ำเดือดร้อนระอุในหม้อแกง
		ตะกายร่างหนีร้อนในน้ำเดือด
	เขาแทงคอเอาเลือดจนเว้าแหว่ง
	จากแผลแล้วแผลเล่าที่เขาแทง
	เลือดสีแดงละเลงลานประจานเมือง
		กับชีวิตที่สิ้นไปในวันนี้
	ยังจะมีไม่พออีกต่อเนื่อง
	จากศพแล้วซากเล่าก็เปล่าเปลือง
	ไร้ประทีปประเทืองในถิ่นทอง
		ย้อสกลแกวสกลคนกินหมา
	อนิจจาอนาจารบ้านเมืองหมอง
	นี่คือความศิวิไลซ์ในครรลอง
	ใครจะมองกินหมาว่าน่าอาย
		ใช่เป็นสอใส่เกือกเสือกเรื่องหมา
	แต่ปัญหาอัปยศข้อกฎหมาย
	คนยังคงกินหมาอย่างท้าทาย
	ศีลธรรมทำลายท้าทายกรรม
		หากเราเสือกเลือกหมาเป็นนายก
	อาจรบรอยสกปรกนรกต่ำ
	จากสมัยสู่สมัยไร้คนทำ
	ให้หมานำเสียบ้างเป็นอย่างดี
		นักการเมืองของไทยทำอะไรบ้าง
	เร่เลือกข้างพ่างโผงโกงภาษี
	ใช่ตัวตอหัวด๊อก(เตอร์)หลอกทุกที
	เป็นภูติผีหลอกประชาอายหมาเอย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฮาชาวดอย
Lovings  เฮาชาวดอย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฮาชาวดอย
Lovings  เฮาชาวดอย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเฮาชาวดอย
Lovings  เฮาชาวดอย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเฮาชาวดอย