28 มกราคม 2546 19:00 น.
เอม่า
****แด่เธอ*****
ส่งอักษรถึงดวงใจคนในฝัน
ผูกสัมพันธ์ด้วยรักสมัครสมาน
ความจริงแท้มอบแด่เธอกิรติการ
ดั่ง คำมั่น สัญญา ส่งมาให้
ร้อยลำนำลิขิตความคิดถึง
เธอคือหนึ่งคนนั้นอย่าหวั่นไหว
ขอคนดีอย่าเศร้าร้อนร้าวใจ
เธอหาใช่รักสำรองอย่าหมองมัว
นับจากนี้มีแต่เธอคอยเพ้อพร่ำ
เลิกตอกย้ำน้ำใจให้ปวดหัว
อย่ากังวลดวงจิตหรือคิดกลัว
รักมิใช่มีไปทั่วอย่ากลัวเลย
***เพื่อฉัน****
ถึงวันนี้ไม่ประจักษ์ความรักแท้
ที่เธอให้มาเพียงแต่คำเฉลย
เหมือนลมลอยเคว้งคว้างเช่นอย่างเคย
ปกปิดไว้ไม่เปิดเผยไม่เอ่ยความ
แต่หัวใจหนอหัวใจกลับไม่สน
ดูร้อนรนไฉนอยากไต่ถาม
หรือรักเขาแบบเฝ้าคิดเฝ้าติดตาม
สุดหักห้ามความรักความภักดี
****สำหรับเรา***
เมื่อเหตุการณ์เปลี่ยนไปเริ่มใจหวั่น
อนาคตภายหน้านั้นไม่คงที่
หากเธอกลับคืนคำคงช้ำฤดี
ขอรักอยู่อย่างนี้ตลอดไป
สัญญากันจะฝันฝากในรักแท้
ใจแน่วแน่ซึ้งสลักประจักษ์หมาย
มีสองเราเป็นดังเงาเคียงคู่กาย
ให้สุดท้ายเป็น รักยิ่งนักเอย
24 ตุลาคม 2545 15:29 น.
เอม่า
อีกด้านหนึ่งของฉันในวันนี้
คือคนที่ไร้ญาติขาดพี่น้อง
ไม่มีทั้งพ่อแม่และคู่ครอง
ชีวิตต้องโดดเดี่ยวและเดี่ยวดาย
ข้างกายนั้นว่างเปล่าจนหนาวเหน็บ
ต้องกลืนเก็บความเหงาแอบเอาไว้
ยิ้มสู้เหมือนเก่งกล้ามิกลัวภัย
ดูมุ่งมั่นมิหวั่นไหวใจทะนง
มาวันนี้วันที่ฉันนั้นต้องล้ม
ความทุกข์ตรมภายในจิตส่อพิษสง
กำลังใจถดถอยเริ่มน้อยลง
ที่เคยหลงว่าแน่แท้ลวงกัน
มองทางไหนหาไม่เห็นคนเป็นเพื่อน
ตาพร่าเลือนซวนเซเพราะเสียขวัญ
ดวงชะตาฟ้าลิขิตหรือไรนั่น
ให้เกิดมาทำไมกัน ฉันคนเดียว
6 กันยายน 2545 20:31 น.
เอม่า
ตัวหนังสือปรากฏบนทีวี
ถ้าเรียกพี่มีเงินให้หมื่นห้า
แม้อยากได้เป็นพันนั้นต้องอา
แต่ทว่าน่าเสียดายอายเหลือทน
อยากเอื้อนเอ่ยเรียกพี่ตามที่บอก
ดูจะหลอกตัวเองเกรงสับสน
ไม่มีเสียงออกจากปากคนจน
ช้ำเหลือล้นคนอย่างเราเขาไม่แล
นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยใจหวัง
อยากเอ่ยบ้างคำว่าพี่คงดีแน่
หากบอกไปต้องวานให้ใครช่วยแปล
คนคงเบื่อระอาแท้..ว่าแค่นี้
จะให้บอกอย่างไรโอ้ใจเอ๋ย
ไม่คิดเลยมันลำบากจนอยากหนี
แค่ให้เรียกสั้นสั้นกันว่าพี่
ยังไม่มีปัญญาน่าเสียใจ
ขอเธอจงเมตตาสักคราเถิด
ตัวฉันเกิดมารับกรรมเคยทำไว้
อยากได้เงินหมื่นพันนั้นแทบตาย
แต่เป็นใบ้...ทำไง.ใครบอกที
11 สิงหาคม 2545 19:02 น.
เอม่า
เหม่อมองดูสายน้ำในยามเหงา
ไอเย็นเบาเหวงหวิวปลิวมาต้อง
คลื่นกระแทกแตกกระเซ็นเป็นใยยอง
เกิดเป็นฟองลอยล่องต้องผิวกาย
ครั้นอาทิตย์ฉายส่องท้องนที
ดุจดังมีดวงดาวพราวเฉิดฉาย
ดังเกร็ดแก้วแพรวมณีที่เพริศพราย
ส่องประกายสำแดงแสงสกาว
ฝูงมัจฉาว่ายเวียนมาดูน่าชม
เฝ้าภิรมย์เคียงคู่ว่ายใต้บัวขาว
กุ้งกั้งก้อยลอยเต้นเป็นบางคราว
นกขายาวยางน้อยคอยจับปลา
ธรรมชาติกล่อมไพรวิไลลักษณ์
แจ้งประจักษ์จรรโลงไว้ให้คุณค่า
เป็นภาพจินต์แก่ใจนัยนา
ประหนึ่งว่าทิพย์วิมานม่านพงไพร
ค่าความงามจักอยู่คู่ไพรพฤกษ์
ด้วยสำนึกเพียงนิดจิตฝันใฝ่
ป่าจะงามตามหวังดังฤทัย
ดำรงไว้ด้วยสองมือถือร่มเย็น
9 สิงหาคม 2545 19:14 น.
เอม่า
ความทรงจำครั้งเก่าเฝ้าตามหลอน
ทุกบทตอนเปรียบละครย้อนชีวิต
ความมืดมนต์มาเยือนเหมือนฟ้าปิด
คือนิมิตลางร้ายไร้ทิศทาง
วันที่เตาเผาร่างทุกอย่างสิ้น
จบชีวินแสนอาลัยให้หม่นหมาง
แหงนดูควันเลื่อนลอยค่อยค่อยจาง
อายุช่างสั้นแท้โอ้แม่เรา
เปรียบดังแพแตกไปในครานั้น
ความเปลี่ยนผันของโลกความโศกเศร้า
สุดร้อนรุ่มกลุ้มใจไม่บรรเทา
พบทั้งเหงาทั้งระแวงคลางแคลงใจ
ทุกย่างก้าวทางไกลต่อไปนี้
แม่คนดีสู่สวรรค์ทิ้งฉันไว้
ให้ยืนสู้ดูโลกอย่างเดียวดาย
จะพบร้ายหรือดีที่มีมา
ถึงวันแม่คราใดใจสะกิด
เฝ้าครวญคิดถึงท่านฝันโหยหา
ขอวอนเทพสรวงสวรรค์ในชั้นฟ้า
เกิดชาติหน้าขอแม่อยู่ดูโลกนาน