26 มกราคม 2554 12:29 น.
เหนือดอย
1. หลงใหลกับสิ่งไม่แท้จริง
ถามตัวเองดูนะว่าคุณละเลยความจริง ความสวยงามแท้จริง ชีวิตในด้านลึกรึเปล่า วันๆเรามัวแต่เสพสิ่งต่างๆ ทั้งข้าวของต่างๆที่เราพากันอยากได้ จนทำให้เราลืมนึกถึงเรื่องจิตใจกันไป นานเข้าก็เบื่อ เบื่อโน่นเบื่อนี่รวมทั้งเบื่อการต้องไปเดทด้วย ก็เลยทำให้คุณไม่อยากไป แล้วอย่างนี้จะมีความรักได้อย่างไรกันล่ะคะ หันกลับมาสนใจกับชีวิตในความเป็นจริงกันเถอะค่ะ
2. ไม่เข้าใจเพศตรงข้าม
เดี๋ยวนี้เรื่องความเท่าเทียมกันของผู้หญิงผู้ชายมาแรงมาก ใครๆก็พูดกันถึงแต่เรื่องนี้ ผู้หญิงทำงานเก่งขึ้นทุกวัน บางครั้งมันเลยทำให้เราขาดความเคารพในความแตกต่างของเพศหญิงและชายไป เรามองข้ามไปว่าหญิงและชายสามารถสร้างความรัก ความรวมกันเป็นหนึ่งได้เมื่ออยู่ด้วยกัน ความห่างระหว่างเพศสูงขึ้นเรื่อยๆ เราเลยอาจรู้สึกว่า "ฉันเจ๋งกว่าเธอ" หรือ "ผู้ชายไม่มีวันทำให้ฉันมีความสุขได้หรอก" เราก็เลยไม่เปิดรับเพศชายเข้ามาในชีวิตเสียที เอาล่ะ เรายอมรับกันได้ในส่วนหนึ่ง แต่โดยเนื้อแท้อย่าลืมว่าผู้ชายเกิดมาเพื่อปกป้องผู้หญิง ให้เขาทำหน้าที่ของเขาเถอะนะ
3. ฉันอยู่คนเดียวได้
คุณอาจรู้สึกว่าก็ไม่เห็นจะต้องการใครในชีวิตเลย ถ้าเราต้องการใครมาให้ความรัก อยู่ข้างๆเรา หรือคอยปลอบใจเรานั่นหมายถึงว่าเราเป็นผู้หญิงอ่อนแอ และมันเหมือนเป็นบัญญัติของสังคมที่คอยบอกเราตลอดว่าผู้หญิงอ่อนแอน่ะ เป็นสิ่งไม่ดี คุณก็เลยพยายามทำตัว โอเคว่าฉันเข้มแข็ง ไม่มีใครฉันก็อยู่ได้ต่อไป แต่ในที่สุดก็รู้สึกเหงาจนได้
4. ไม่กล้าเปิดใจ
ความไร้เดียงสาอย่างหนึ่งของคนเราก็คือ เวลาเราได้เปิดใจ เปิดเผยความรู้สึกลึกๆกับใคร มันอาจเป็นความกลัวที่สุดที่ซ่อนอยู่ก็ได้ แต่ทุกวันนี้พวกเรากลับเลือกปิดกั้นความรู้สึกจริงๆตรงนั้นไว้ พยายามทำตัวปกติ และนั่นล่ะเป็นตัวทำลายวิญญาณที่แท้จริงของเราไป ก็ในเมื่อเราไม่เปิดใจก่อน แล้วใครเขาจะมาเข้าใจ เขาจะก้าวเข้าสู่ความเป็นคุณได้อย่างไรล่ะ
5. ตัดสินคนง่ายไป
"โอ้ย! แค่สิบห้านาทีฉันก็รู้แล้วว่าหมอนี่เป็นคนยังไง" ประโยคนี้คุ้นๆกับคุณไหม ทุกครั้งที่คุณเจอชายหนุ่มคุณจะกำลิสท์ความต้องการในตัวชายหนุ่มของคุณในมือไว้ตลอด และมันยังเป็นความต้องการที่ต่อรองไม่ได้ด้วยนะ เช่น เขาจะต้องเป็นผู้ชายสูง เขาจะต้องจบปริญญาโท เพียงแค่เขาไม่มีคุณสมบัติตามลิสท์คุณ คุณก็จะบอกว่า "ไม่เอาแล้ว คนนี้ไม่ใช่แน่นอน" คุณยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีมุมมองความรักเป็นยังไง เขามองโลกยังไง เขาอาจจะเป็นคนที่ดีที่สุดของคุณก็ได้ การที่เราไปตัดสินคนอย่างรวดเร็วเนี่ยก็เหมือนคุณสร้างกำแพงให้ตัวเองนั่นแหละ มันเป็นทางที่ง่ายที่สุดและเร็วที่สุดเพื่อคุณจะได้ป้องกันได้ว่าเขาจะไม่ตัดสินคุณไปก่อนไง คุณจะไดไม่ต้องรู้สึกแย่กับตัวเอง
6. ความสัมพันธ์ฉันต้องดีที่สุด
คุณอาจจะมีความสุขในงานที่ทำ คุณประสบความสำเร็จในชีวิต คุณมีครอบครัวที่อบอุ่นมาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องตั้งความหวังว่าความสัมพันธ์คุณจะต้องดีมากๆๆๆๆ ผู้ชายคนนั้นจะต้องเพอร์เฟคสุดๆไปด้วย เพราะลองถามตัวเองจริงๆ คุณอาจได้คำตอบว่างานที่ฉันทำก็ไม่ได้ดีที่สุดกว่าคนอื่นตรงไหน ฉันเองก็ไม่ได้มีชีวตสมดุลไปซะทุกอย่าง และที่สำคัญฉันก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงเพอร์เฟคที่สุดซักหน่อย เพราะฉะนั้นแทนที่เราจะมองหาแต่สิ่งที่ดีที่สุด ลองเปลี่ยนเป็นมองสิ่งที่ดีเฉยๆก็พอดีมั้ย และใครจะรู้ สิ่งนั้นล่ะอาจะเป็นความมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตคุณก็ได้
7. จะมีความรักต้องพร้อม
อีกเหตุผลหนึ่งที่คุณไม่มีความรักก็อาจเป็นเพราะว่า คุณมักรอให้ความรักเข้ามาตอนที่คุณต้องพร้อมในทุกด้านก่อน คุณต้องรอเวลาให้เรียนจบ มีอาชีพที่ดี และมีความเป็นอยู่แบบที่คุณอยากจะเป็น เหล่านี้จะมาก่อนความรักของคุณ ลองมองย้อนไปที่ความรักของพ่อแม่เราดูสิ ว่านั่นน่ะเป็นความรักที่เกิดขึ้นผิดเวลาก็ได้ ผิดสถานที่ก็ได้ ความสำคัญของการที่เราได้อยู่กับคนที่ใช่มันจะมาก่อนเหตุผลอื่นเสมอ เรื่องมีความรัก เรื่องแต่งงานเลยเป็ฯเรื่องไม่ยากเย็นอะไรนัก
8. ใช้หัวคิดมากกว่าหัวใจ
ยิ่งนานวันเข้า ก็ยังไม่มีความรัก เราก็จะต้องคอยไปหาหนังสืออ่านบ้าง พยายามคุยกับผู้รู้ทั้งหลาย ยิ่งถ้าเจอเพื่อนคนไหนแต่งงานสำเร็จไป เราก็จะยิ่งเจอความคิดมากมายชวนสับสนยิ่งนัก เอ! แล้วฉันจะดำเนินการตามแผนไหนดี ความรักมันเลยกลายเป็นเรื่องของหัวคิดมากกว่าหัวใจไปซะงั้น เหตุผลต่างๆจะมาก่อนความรู้สึกจริงๆ จากใจ ไฟรักเลยมอดหายไปได้
9. วางแผนมากไป
แทนที่ความรักจะเป็นเรื่องของธรรมชาติหัวใจ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ปล่อยให้หัวใจพาไป ความรักกลับกลายมาเป็นเรื่องการวางแผน คุณจะคอยมีความคิดอยู่ในหัวว่า "โอ้! อาทิตย์หน้าฉันก็สามสิบแล้ว ปีหน้าเนี่ยล่ะเหมาะที่สุดที่ฉันจะมีความรัก" หรือ "ฉันมีเวลาว่างแค่ชั่วโมงเดียวหลังจากเรียนโยคะที่จะไปออกเดท เพราะหลังจากนั้นฉันต้องไปเรียนศิลปะอีก" ความรักเลยเป็นเหมือนงานอดิเรกของคุณไป คุณเลือกจะไปเดทตอนคุณสะดวกเท่านั้น ถ้าตารางคุณยุ่งแล้วก็อย่าหวังว่าหนุ่มไหนจะแทรกเวลาของคุณมาได้แล้วกัน
26 มกราคม 2554 00:16 น.
เหนือดอย
ดูแลความรัก หมั่นเติมความรักอยู่เสมอ อย่าลืมเลือกเวลาเหมาะ ๆ เพื่อใช้ในการพูดคุยกัน หมั่นแลกเปลี่ยนความคิดกันบ่อย ๆ
กล้าหาญกับความรู้สึก คุณควรจะเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงของคุณกับคนที่อยู่ข้างตัวบ้าง
คิดก่อนพูด เพราะคำพูดที่หลุดออกมาจากปากนั้น ไม่สามารถย้อนกลับคินได้
มีการให้เวลานอก เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มอึดอัด เบื่อหน่าย หรือเกิดการขัดแย้งที่ชักจะบานปลายเป็นเรื่อง หรือเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พร้อมที่จะตอบคำถาม ไม่มีการกดดันกันให้เวลาเพื่อพักโดยไม่ถามเหตุผล ให้โอกาสในการพูดเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของแต่ละคนตามความพร้อม
ฟังกันบ้าง ถ้ารู้จักฟังจะทำให้ความเข้าใจตรงกัน เมื่อไม่เข้าใจกันก็จะได้ถาม ได้อธิบาย ทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากขึ้น
เพิ่มรักให้เหนียวแน่น เช่น เอ่ยชมกันและกันบ่อย ๆ การ เอ่ยชมคนรักบ่อย ๆ ไม่เพียงแต่จะทำให้เขารู้สึกดีเท่านั้น แต่จะมีผลในแง่ความรู้สึกของคนที่ชมด้วย
หัดใจเย็นมากขึ้น เมื่ออารมณ์ขุ่นมัว ตัดสินใจอะไรผิด ๆ ได้ง่าย การทำตัวเย็นจะทำให้ฝ่ายเกรงใจ
คอยตักเตือนในสิ่งที่เขาทำผิดพลาด เมื่อเห็นว่าเขาทำอะไรไม่ค่อยเข้าท่า ก็อย่าลืมคอยเตือนเขาไว้บ้าง เตือนด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ไปตำหนิเขา
เมื่อทะเลาะกันไม่มีคำว่าฉันหรือเธอ แต่ความเป็นคำว่าเราทั้งคู่ จะทำให้รู้สึกว่าทั้งสองคนยังมีค่าพอสำหรับกันและกัน อย่างน้อยก็ยังไม่แบ่งแยกแบบตัวใครตัวมัน จะทำให้ดีกรีความรุนแรงเมื่อทะเลาะกันน้อยลง
ขอร้องเมื่อต้องการไม่ใช่สั่ง หลายเรื่องที่บางครั้งเราไม่พอใจ และอยากให้เขาเปลี่ยนแปลงบางอย่างให้ถูกใจเรา ให้ขอร้องเราดี ๆ ด้วยเหตุผล อย่าสั่งเด็ดขาด
25 มกราคม 2554 23:49 น.
เหนือดอย
การ ไม่ได้เป็นที่ หนึ่ง ในใจคนที่เรารักนั้น
ไม่ได้ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสมอไป
การเป็นที่สอง ในใจเขานั้น ย่อมดีกว่าการเป็นที่สาม ที่สี่
หรือถึงแม้ว่า . . . เราจะเป็นที่สุดท้าย
แต่มันก็ยังดีกว่า การที่เราไม่ได้อยู่ในใจเขาคนนั้นเลยไม่ใช่หรือ
จงยิ้มให้ความรัก และ รักต่อไปเถอะ
แม้ ว่า . . . รักนั้นอาจไม่ใช่ที่หนึ่ง
จนกว่าที่เรา จะบอกกับตัวเองว่า . . .
เราทนอีกต่อไป ไม่ได้แล้ว
เรา เหนื่อยกับรัก ที่เป็นเช่นนี้เหลือเกิน
การรักใครสักคนนั้น . . .
ง่ายกว่าการตัดใจ จากใครสักคนนัก
การสบตา จากใครสักคนนั้น . . .
ย่อมมีความสุข กว่าการหลบตาใครสักคน เป็นแน่แท้
จะ มีสักกี่คน ที่สามารถทำให้เรายิ้มได้ . . .
... อย่างสุดหัวใจ และเศร้าได้อย่างสุดหัวใจ...
อย่า . . . โทษเขา ที่ไม่ได้รักเรา
อย่า . . . โทษพรหมลิขิตที่ทำให้เราเจอกัน แต่ไม่ได้ทำให้เรารักกัน
อย่า . . . โทษหัวใจตัวเองที่ไปรักเขา
อย่า . . . โทษกาลเวลาที่ทำให้เราเจอกันช้าไป
จงมีความสุข และยิ้มให้กับสิ่งต่าง ๆ เถอะ
ยิ้มให้กับคนที่เขาไม่รักเรา . . .
เพราะอย่างน้อยเขาก็คือ คนที่ได้รับความรักจากเรา
ยิ้มให้กับ พรหมลิขิต ที่ทำให้เราเจอกันถึงแม้เราจะไม่ได้รักกัน . . .
เพราะ อย่างน้อยพรมลิขิต ก็ยังได้ทำให้เราได้รู้จักกัน
ยิ้มให้กับหัวใจตัวเอง ที่ไปรักเขา . . .
เพราะ อย่างน้อยหัวใจของเรา ก็ยังได้เรียนรู้กับความรัก
ยิ้มให้กับกาลเวลา ที่ทำให้เราเจอกันช้าไป . . .
เพราะอย่างน้อย ก็ยังทำให้เราได้เจอกัน
เราควรดีใจ ไม่ใช่หรือ ที่อย่างน้อยเรายังยิ้มให้กับคนที่เรารักได้......