30 เมษายน 2547 17:28 น.
เสือยิ้มมุมปาก
ไอ้ชาติหมาเลวจริงๆยิงอยู่ได้
ก่อการร้ายทั่วแคว้นแดนสยาม
ปัตตานีนราธิวาสต้องครั่นคราม (..ยะลาด้วย..)
ยังลุกลามสะบ้าย้อยพลอยนาทวี
ตายกลาดเกลื่อนเถื่อนเมืองเรืองสีเลือด
แม่ง!ดุเดือดกันจริงๆยิ่งผวา
สปาตาร์ฆ่าฟันเหมือนผักปลา
แต่รู้บ้างไหมว่า...นั่น...ชีวาคน
อนิจจา!พ่อแม่พี่น้องต้องร้องไห้
น้ำไหลกรรแสงร่ำพร่ำโหยหา
โอ้เลือดเนื้อเชื้อไขต้องจากลา
เพระพวกบ้าระห่ำ..อยากครองเมือง
เกิดเป็นไทยอยู่ขวานทองสนองสนาน
เดินบนดินถิ่นสราญขวานทองเหลือง
ยังทำตัวไร้สาระบ้าสิ้นเปลือง
ไม่กระเดื่องกระดากใจอย่างไรฤา...??
** อาจจะรุนแรง แต่ก็แฝงด้วยความรู้สึกจริงๆ **
27 เมษายน 2547 07:19 น.
เสือยิ้มมุมปาก
บทกวีของฉัน
ถ้าการไม่ร้องไห้คือความเข้มแข็ง
ฉันคงเป็นแค่คนไร้เรี่ยวแรง ที่อ่อนแอ
คราวใดที่ต้องพ่ายแพ้
ก็ได้แต่ร้องไห้ หลั่งน้ำตา
ถ้าความเข้มแข็งเป็นเช่นนั้น
ฉันคงไม่เคยเข้มแข็งมาก่อน
ทุกครั้งที่เจ็บปวดร้าวรอน
จึงได้แต่นอนร้องไห้ทุกที
27 เมษายน 2547 07:08 น.
เสือยิ้มมุมปาก
เหมือน...ใบไม้ปลิดขั้วทิ้งตัวร่วง
เหมือน...ดาวดวงกลุ่มหนึ่งซึ่งไร้แสง
เหมือน...นกน้อยตกจากฟ้าเพราะราแรง
เหมือน...หยดเลือดสีแดงแปลงสีไป
16 เมษายน 2547 23:05 น.
เสือยิ้มมุมปาก
ดอกไม้แสนสวยงาม แวววะวามกลางสายลม
แมลงรุมตอมดม แย่งชื่นชมให้สมใจ
อิ่มสมอารมณ์หมาย ต่างย้ายแยกแหวกบินไว
เหลือไว้กลิ่นคราบไคล ไร้เยื่อใยให้เดียวดาย
16 เมษายน 2547 22:35 น.
เสือยิ้มมุมปาก
ไม่สายเกินไปใช่ไหม
สำหรับการเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง
จำได้ไหมใครคนหนึ่งผู้ซึ่งยัง
ฝากความหวังไว้แด่เธอเสมอมา
ยามใดที่เธอร้าวรวด
เขาคนนั้นจะเจ็บปวดไม่น้อยกว่า
ยามที่เธอชอกช้ำหลั่งน้ำตา
ใจของเขาก็ปวดปร่ามิแพ้กัน
อะไรอะไรในชีวิต
เราย่อมมีสิทธิ์ลิขิตฝัน
แต่ฝันนั้นใช่จะจริงทุกสิ่งอัน
รักจะฝันรักจะใฝ่ต้องไม่กลัว
จำได้ไหม
วันที่ฟ้าสดใสกลับมืดสลัว
วันที่สายชลหม่นมัว
วันที่เธอรู้ตัวว่าเสียใจ
โลกนี้ใช่มีเพียงเราเดียว
ที่หน้าเซียวอยู่ใต้ฟ้าอันกว้างใหญ่
ยามที่เธอเหว่ว้าทอดอาลัย
ยังมีคนอีกถมไปที่ทุกข์ทน
มองซิจ๊ะโน่นขอบฟ้า
ยามเย็นย่ำสนธยาก็มัวหม่น
ครั้นแสงทองส่องหล้านภาดล
ความมืดมนก็จางหายมลายไป
อดทนเอาไว้อีกนิดเพื่อชีวิตงดงามสดใส
หนทางข้างหน้ายังไกล
มาเถิดก้าวไปด้วยกัน