27 ตุลาคม 2547 07:18 น.
เสือยิ้มมุมปาก
วันฟ้าใส..อุ่นกระไอ..ฟ้าสว่าง
ชมฟ้ากว้าง..สีคราม..งามสดใส
ดวงตะวัน..ฉายส่อง..ทั่วถิ่นไทย
พลังใจ..ไทยฟื้น..พร้อมแสงทอง
อีกคราแล้ว..อีกครา..ยะลาเดือด
เหตุนองเลือด..อีกครั้ง..ยังสยอง
ศพแรกหก..ผันกลาย..มากก่ายกอง
โอ้!เมืองทอง..เหตุไฉน..อาเพศร
7 ตุลาคม 2547 10:59 น.
เสือยิ้มมุมปาก
ลมแทบจับตอนรับสมุดเกรด
กลัวทุเรศ..รับไม่ได้เสียจริงหนอ
..ขนลุกตั้งชูชันกระหวั่นคอ..
ถ้าติดร.ปรางต้องตาย..ใต้บาทา
..แต่ก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
..เกรดสี่วิทย์อังกฤษฝรั่งฯสังคมภาษา
..แต่พระพุทธแห่งองค์พระปฏิมา
..ปรางได้ 2 ..โธ่!!ไม่น่า..ไม่น่าเลย
คณิตศาสตร์..มารร้าย..ปรางได้ 2
ก็เกลียดเลข..เป็นกอง..เท่าภูเขา
เกลียด..เกลี๊ยด..เกลียด..เกลียดจริงๆ สมองไม่เอา
..จำนวนจริงแสนเศร้า..ทำไม่เป็น
ภาษาไทยงานหลักได้เจ็ดสิบหก
ไม่ตระหนก..กลับดีใจ..ไม่ไขสือ
ทั้งสายชั้นได้ 4 แค่หยิบมือ
บอกซื่อๆ..แค่นี้..แสนพอใจ
นอกจากนั้น..ศุภวัลย์..รับเกรด 4
แสนสุขีดีใจ..ได้หรรษา
ได้กลืนข้าวลงคอ..ได้เจรจา
ไม่ขายหน้าไพร่ฟ้า..ประชาชี (เท่าไรนัก)
เกรดเฉลี่ยรวม สามจุดหกเก้า (3.69)
ได้แล้วเราแค่นี้..ภูมิใจเหลือ
แม้จะเป็นศิลป์ฝรั่ง..ไม่จิ้มเกลือ
เด็กสายวิทย์..เมินหน้าเบื่อ..เด็กเหลือเดน
แสนจะเซ็ง..คนพูดว่า..แค่สายศิลป์
เรียนแล้วทำไรกิน..ละแกเอ๋ย
ได้เกรดมาก..วิชาง่าย..สบายเลย
ทำมาอวด..ชวดเชย..ให้วิทย์ชม
..ในฐานะเด็กศิลป์..อยากขอกล่าว
สมองเราแบ่งราวเป็น 2 ด้าน
ซีกขวาศิลป์ ซีกซ้ายวิทย์..ครรลองกาล
เราไม่โง่..ไม่ดักดาน..รู้ไว้เลย
....((น้อยใจ..เด็กวิทย์ชอบพูดว่า..ก้อมันเป็นพวกสายศิลป์..ยังไงเกรดมันก็ต้องมากกว่าเด็กวิทย์อย่างเราอยู่แล้ว..เด็กวิทย์เรียนยากกว่า..((กรูอยากจะบอกนะเฟ้ยว่า ถ้าให้พวกเมิงมาเรียนสายศิลป์ มานั่งเรียนภาษาฝรั่งเศส เรียนภาษาไทย(งานเขียนวรรณกรรม) พวกเมิงทำได้มั้ย..เห็นวิ่งโร่มาให้กรูแปลบทความอังกฤษให้ ให้กรูเขียนความเรียงอังกฤษให้ ให้กรูแปลนั่นแปลนี่ ให้กรูแต่งกลอน แต่งเรื่องให้..แล้วทำไมจะต้องมาดูถูกกันอีกล่ะ..)) .. สังคมไทยนี้ก็เหมือนกัน..ยกย่องให้ความสำคัญกับเด็กสายวิทย์มากกว่า..ตัวการเด่นชัดกมาจากผู้ใหญ่นี่แหละนะ..พอถามเด็กว่าถนัดอะไร..พอเด็กบอกว่า..ทุกอย่างที่ไม่ใช่คำนวณ ..พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายก็เมินหน้า..หาว่าเราคงไปเรียนอะไรไม่รอด..))..แล้วคอยดูนะ..สักวัน..ฉันจะใช่ความสามารถในด้านศิลป์ที่มีอยู่..แสดงออกนำเสนอสู่สายตาประชาชนให้รู้กันว่า..เด็กศิลป์ก็มีความสามารถเท่าเทียมกับเด็กวิทย์..แต่เรานำมาใช้..ในรูปแบบที่ต่างกันนั่นเอง เพราะเรายืนอยู่บน ความเหมือนที่แตกต่าง
5 ตุลาคม 2547 18:44 น.
เสือยิ้มมุมปาก
พรุ่งนี้ไปโรงเรียน
จะอาเจียนออกให้ได้
พกยาหม่อง..ยาดม..พิมเสนตั้งมากมาย
..เผื่อ..เป็นลม..เป็นรัยไป..ได้ช่วยทัน
เพราะพรุ่งนี้ตัวเราต้องเอาเกรด
คงทุเรศน่าขันไม่หรรษา
ขอแค่หนึ่งสองสามสี่..นั่งภาวนา
อย่าติด 0 ร (รอ) เลยหนา..ไม่ต้องการ
เอาเหอะนะ..เท่าไหร่ก็เท่านั้น
ตั้งใจมั่นเริ่มต้นในเทอมใหม่
รู้เริ่องบ้างไม่รู้บ้างไม่เป็นไร
เรียนด้วยใจทำให้ดีก็คงพอ
28 กันยายน 2547 08:23 น.
เสือยิ้มมุมปาก
สายรุ้งงาม..วามแวว..แพรวระยับ
ดาวประดับ..ส่องฟ้า..ระย้าเห็น
ระยิบห้อย..พลอยฝน..ฟ้ากระเซ็น
น้ำค้างเล่น..ร่อนลง..ตรงหญ้างาม
|ฯ|
อันภูผา..ฟ้าสูง..จูงหมอกวิ่ง
อันทะเล..เกลือกกลิ้ง..เม็ดทรายขาว
อันป่าฝน..โรนร่อน..ใบเขียวคาว
อันน้ำตก..ส่องสกาว..กระสาดเซ็น
|ฯ|
27 กันยายน 2547 07:49 น.
เสือยิ้มมุมปาก
คลิกหัวข้อเรื่องสั้นมะได้อ่า..มะรุทามมายเหมือนกัน..ลงในนี้แทนนะ อยากให้ได้อ่านโดยทั่วกันนะ..เอามาจากฟอร์เวิร์ดเมลล์น่ะ
ถ้าเราจับเด็กแผนวิทย์(หัววิทย์สุดๆ)มาตีกับเด็กแผนศิลป์(นี่ก้อศิลป์สุดๆ)อารายจะเกิดขึ้น???..
***เริ่มด้วยการคิด..
วิทย์: วางแผนเป็นขั้นเป็นตอน.. เริ่มจาก ตั้งสมมติฐาน>>ตั้งปัญหา>>ทดลอง>>บันทึกผล>>สรุปผล (นั่นแหล่ะ วิทสุดๆ)
ศิลป์: ไม่วางแผนอารายทั้งน้านนน.. ลุยเลยยยยย... ย๊าก!!!~ (มันเป็นเรื่องจิง)
***ต่อด้วยอาวุธ
วิทย์: ก้อมีแค่ ขวดบีกเกอร์ แท่งแก้ว อ่า.. หลอดทดลอง อย่างเก่งก้อ ตะเกียงแอลกอฮอล์
ศิลป์: สารพัดที่จะสรรหา.. ตั้งแต่ ไม้หน้าสาม ยัน เรือรบ ไม่รู้มันไปเอามาจากไหนกัน??
***ด้านพลัง
วิทย์: ก้อมันเอาแต่นั่งทดลอง จะได้ใช้กำลังอะไร??..ยกอุปกรณ์ทดลองล่ะมั้ง!!!
ศิลป์: ด้วยความสามารถพิเศษ มันทั้งโดด(เรียน) ทั้งวิ่ง(หนีอาจารย์) แล้ว..มีเวลาถมเถกับการซ้อม.. โดยการไปหาเรื่องโรงเรียนข้างๆ เพื่อฝึกทักษะการตี!!!
[เทียบกับแผนวิทย์แล้ว.. อย่าว่าตีกันเล้ยย เจอหนูในบีกเกอร์ซักตัวก็วงแตก...]
***ด้านมันสมอง
วิทย์: เด็กชาววิทย์นั้น ถือว่ามันสมองนี่เรื่องใหญ่.. คงจะเอาไว้คิดว่า ถ้ามันถือไม้หน้าสามยาว 2 เมตรมา งั้นข้าก็ต้องถือ ไม้หน้าสามที่ยาวกว่า 2 เมตรมั้ง..???(2 เมตรกะอีก 1 เซนฯ)
ศิลป์: ตีกันจะใช้อะไรมาก ขอแค่ข้ารอดวันนี้ไปได้ก้อเกินพอ..!!!
***สุดท้าย.. หลังตีกัน
วิทย์: พยายามรักษาร่างที่บาดเจ็บ ให้หายเป็นปกติมากที่สุด เพื่อกันพ่อแม่รู้ (เด็กดีก้องี้!!!)
ศิลป์: วิ่งหนีให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหนีอาจารย์ และ ตำรวจ...
>>จะให้ทำไงก้อตัวชั้นนั้นมันเด็กวิทย์หัวใจศิลป์นี่!! แต่เรื่องบางเรื่องชั้นก้อว่าเด็กศิลป์เค้ามีอะไรดีกว่าที่เห็นนะ.. อย่างความคิดของเค้าจะเป็นอิสระมากกว่าเด็กแผนวิทย์.. ชั้นว่า..
เราอย่าปิดกั้นเด็กด้วยวิทย์หรือศิลป์.. ผู้ใหญ่บางคนอดถามไม่ได้ว่าวิทย์หรือศิลป์
จะถามไปทำไม??.. ไม่เข้าใจคนแก่เจรงๆ... เฮ้อ.. แบ่งๆกันอ่านนะ ^^