2 พฤศจิกายน 2546 19:15 น.
เสี้ยว
วันนั้น ในหน้าฝน ฉันทำสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตัวเองจะต้องทำ
ฉันนั่งเก็บ ซ า ก ที่แห้งตายคาระเบียงห้องนอนของฉันเอง
นานเท่าไหร่แล้วนะที่ฉันไม่ได้เปิดประตูไปเหลียวแลระเบียงนั้นเลย
ซากนั้น เคยชุ่มฉ่ำในสายแดดอันร้อนแล้ง
ซากนั้น เคยให้ฉันระบายทั้งความทุกข์ และความสุข
ซากนั้น ที่ฉันเคยคุยด้วย และร้องเพลงให้ฟัง
ซากนั้น ที่ฉันเคยประคบประหงมราวกับลูกในไส้ก็ไม่ปาน
ซากนั้น บัดนี้ไม่มีอีกแล้ว
ต้นไม้ของฉัน
น่าเจ็บใจแค่ไหน ที่ต้นไม้ของฉันแห้งตายในฤดูฝน
เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง ที่ต้นไม้ของฉันยืนหยัดอยู่ได้กลางสายแดดในสายลมร้อน
โดยอาศัยความฉ่ำเย็นของสายน้ำที่ฉันบรรจงรินรดให้ทุกเช้าเย็น
พอย่างเข้าหน้าฝน ความไว้ใจในธรรมชาติ ผสานกับความมักง่ายของตัวเอง
ทำให้ฉันดูแลต้นไม้ของฉันน้อยลง
อนิจจา
มันคงคล้ายกับความรัก
ยามที่รักนั้นดูจะยากลำบาก มากด้วยอุปสรรคนานัปการ
เราก็มักจะฝ่าฟัน เอาชนะมันด้วยความมุ่งมั่น
เป็นสายน้ำที่รินรดท่ามกลางสายแดด
แต่เมื่อใดที่ความรักนั้นมันเพียบพร้อม เรากลับไม่ค่อยเห็นคุณค่าของมัน
ในที่สุดความรักก็จะเลี้ยวออกจากถนนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบนั้น จากเราไป
เหมือนกับที่ฉันสูญเสียต้นไม้ของฉันไปในหน้าฝน
การสูญเสียครั้งนี้ แลกกับบทเรียนที่สอนฉันว่า
การแสดงออกซึ่งความรักนั้น ไม่ต้องเลือกวันเวลา
คนที่เรารักนั้น ยังต้องการรับรู้ว่า
เรายังรักเขาอยู่.. แล้วรักนั้นจะไม่เฉาตายไป
แสดงความรักซึ่งกันและกันเถิด
อย่าปล่อยให้ความสมบูรณ์ เพียบพร้อมทำลายความรัก
อย่างที่ฉันปล่อยให้สายฝนทำลายต้นไม้ของฉันเลย