18 ตุลาคม 2548 17:12 น.

หน้าที่สุดท้าย สู่ปลายฝัน

เสียงพิณที่ชานเรือน

     มองแมลงเคลิ้มหลับกับยอดหญ้า
เหมอมองฟ้าเมฆยิบยับพยับฝน
มองทุ่งหญ้าปลิวไสวต้องสายลม
อีกเดี๋ยวฝนคงหลั่งลงพรมพร่างพราย

     เหงื่อรินหลั่ง รินไหลลง ตรงใบหน้า
มีทั้งเหงื่อและน้ำตามาเป็นสาย
มองหนทางข้างหน้ายังห่างไกล
ต้องรีบไปให้ถึงซึ่งเธอคอย

     เธอที่ซึ่งเคยรักอยู่เป็นคู่ชื่น
วันเดือนคืนกลับกลายให้เสื่อมถอย
สิบกว่าปีที่พี่เฝ้าแต่คอย
โอ้ว่าน้อยใจนักเจ้ารักลวง

     เจ้าหนีไปสดชื่นกับคู่ใหม่
หัวใจไหม้ขื่นขมตรมช้ำหมอง
หนึ่งปีผ่านคู่ของใจเข้าทำนอง
พอเจ้าท้องเขาก็ทิ้งไม่จริงจัง

     ต้องซมซานกลับมาอยู่ที่บ้านแม่
กายช้ำแน่ใจช้ำหนักรักขื่นขม
ร่างกายก็ผ่ายผอมเพราะตรอมตรม
เหลือแต่ลมหายใจที่รวยริน

     เช็ดน้ำตาที่ชานเรือนเตือนตัวซะ
ว่าเราจะไม่ทุกข์โศกวิโยคถวิล
เปิดประตูเข้าไปพบความจริง
ใจที่นิ่งยังพริ้วไหวนั่นใครกัน

     ร่างที่เคยสวยใสเหมือนนางแก้ว
ตาใสพราวพร่างพรายหายไปไหน
เหลือแต่ร่างซูบผอมเพราะตรอมใจ
พร้อมกับลมหายใจที่รวยริน

     เธอยกมือขึ้นพนมบรรจงไหว้
น้ำตาไหลรินหลั่งดั่งกระสินธุ์
ยกมือรับจับมือปลอบยอดชีวิน
แล้วแย้มยิ้มปลอบขวัญเจ้าเยาวมาลย์

     ว่าน้องเอ๋ยทุกคนมีหน้าที่
ไม่อาจหนีหน้าที่ ที่เรียกขาน
พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเยาวมาลย์
แม้พบพานความตายอย่าได้หวั่น

     ความตายเป็นหน้าที่ครั้งสุดท้าย
สู่จุดหมายปลายทางของความฝัน
หลับตาลงเสียเถอะยอดชีวัน
เธอหลับพลัน ยิ้มพราย หยุดหายใจ

     สายฝนลงพร่างพรูสู่พื้นหญ้า
กายอ่อนล้าน้ำตาพรายใจสั่นไหว
เธอเดินทางไปแล้วสู่แดนไกล
พร้อมหัวใจรักของฉันนิรันดร				
14 ตุลาคม 2548 18:50 น.

ริมคลอง น้ำใส ใจสุข

เสียงพิณที่ชานเรือน

     ลมโชยพัดสัมผัสกายสบายจิต
นั่งหยุดคิดปลดปล่อยใจไหลตามสาย(น้ำ)
นั่งริมคลองมองเรือผ่านแสนสบาย
นั่นเรือขายก๋วยเตี๋ยวพายเลี้ยวมา

     โอ้ลุงจ๋าขอเชิญทางนี้หน่อย
พายค่อย ๆ ตามสบายไม่รีบหนา
พอลุงจอดฉันก็สั่งก๋วยเตี๋ยวปลา
ใส่เกี๋ยวซ่าน้ำขลุกขลิกพริกไม่เอา

     เอ้าหลาน ๆ ก๋วยเตี๋ยวมาจอดท่าแล้ว
ยินเสียวแจ๋ววิ่งพรูพร้อมขับขาน
ก๋วยเตี๋ยวมาปล่อยให้หิวเสียตั้งนาน
เอ้าหลาน ๆ ค่อย ๆ สั่งตังค์อามี

     เอ๊ะนั่นเรือกาแฟ เรือไอ้ติม วิ่งมานั่น
ใครมีตังค์เลี้ยงอาบ้างอย่าได้หนี
หลาน ๆ ต่างยกมือว่าหนูมี
อากินซีหนูกินด้วยช่วยออกเงิน

     เรานั่งยิ้มน้ำตารื่นชื่นใจเด็ก
แม้ตัวเล็กแต่น้ำใจไม่ตื้นเขิน
ไม่เหมือนคนตัวใหญ่ซิเหลือเกิน
เราเผชิญคนน่าชังหันหลังมา

     กลับมาสู่ บ้านเดิม เป็นเรือนพัก
มาตั้งหลักตั้งตัวไม่มัวหา
ความจริงใจที่นี่เหลือคณา
ทั้งลุง ป้า พ่อแม่ ล้วนแคร์กัน

     ไม่ต้องหาสิ่งใดจากไหนแล้ว
วิมานแก้วริมน้ำคือบ้านฉัน
หลานชายหญิงก็อยู่พร้อมหน้ากัน
ทุกคนปันความสุข ความทุกข์กัน

     แต่ว่าเอ๊ะ เสียงแจ้วไป ไหนหมดแล้ว
เฮ้ยมันแจวไปอยู่ที่แห่งหน
มองไม่เห็นนั่งอยู่ซักกะคน
หนอยเจ้าคนช่วยออกตังค์ นี่กลับมา

     ลมโชยพัดสัมผัสกายใจรวยรื่น
คอยหลานตื่น หลับเรียงราย ข้างกายฉัน
พอหลานตื่นจะเล่นน้ำสนุกกัน
ชีวิตฉันพอแค่นี้ นี่สุขใจ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสียงพิณที่ชานเรือน
Lovings  เสียงพิณที่ชานเรือน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสียงพิณที่ชานเรือน
Lovings  เสียงพิณที่ชานเรือน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสียงพิณที่ชานเรือน
Lovings  เสียงพิณที่ชานเรือน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเสียงพิณที่ชานเรือน