24 ตุลาคม 2552 11:21 น.
เสมอจุก
ฟ้าสลัวมัวเมฆมาบังแสง
ทินกรอ่อนแรงแฝงไศล
ดูอึมครึมซึมเซาด้วยเงาไพร
โศลกใจสลัวลางอยู่กลางทรวง
สลดหวนครวญหาสุดาขวัญ
แต่จากกันสามปีที่เลยล่วง
โอ้กรรมหนอก่อเกิดสุดาดวง
แล้วใยลวงสุดาดับลงกับดิน
ณ ปลายฟ้าสุดาน้องจะร้องหา
ด้วยพี่ยาอยู่ไหนให้ถวิล
จะเหลียวซ้ายแลขวาผวาจินต์
ดูอ้างว้างร้างสิ้นจะยินยล
จะครวญขลุ่ยสารถีที่เจ้าชอบ
ประโลมปลอบมิ่งขวัญสักพันหน
ให้เนื้ออ่อนผ่อนคลายกายกมล
เถอะทุกข์ทนทรมานจงผ่านไป
ตะวันสิ้นแสงโสมประโลมส่อง
โสมจะคล้องสองเราให้เข้าใกล้
หลับเถิดหนาขวัญสุดาอย่าอาลัย
พี่จะกล่อมดวงใจให้นิทรา
.....................................................
22 ตุลาคม 2552 18:18 น.
เสมอจุก
เป็นน้องใหม่ใคร่อยากจะฝากตัว
กับครอบครัวแสนสุขสนุกสนาน
ขอซุกร่างข้างระเบียงเพียงนอกชาน
สดับกานท์ขานขับประทับใจ
ดูผู้บ้านย่านล้วนชวนให้รัก
เจรจาทายทักกันขวักไขว่
อยู่ต่างดินถิ่นแดนไกลแสนไกล
ส่งสายใยไมตรีไม่รีรอ
ยินผู้บ่าวผู้สาวเว้าคำหวาน
บ้างขับขานสนานใจให้หัวร่อ
บ้างเอ่ยซึ้งตรึงอุราน้ำตาคลอ
บ้างเยินยอต่อเสริมเติมกำลัง
อบเรือนอุ่นกรุ่นไปด้วยไอรัก
สัมพันธ์ถักทอรอบขอบผนัง
ไมตรีมอบปลอบร้อนผ่อนประทัง
ประหนึ่งดังพี่น้องร่วมท้องคลาน
เสมอจุกเสมอใจเสมอจิต
เสมอมิตรเสมอมิ่งสมัครสมาน
เสมอกันสมานเกลอเสมอกาล
เสมือนสานสมานใจสมัยเดียว
ขอฝากใจไว้บ้านกลอนตอนใกล้แก่
ด้วยเหมือนแพลอยคว้างกลางธารเปลี่ยว
มามีเพื่อนเคลื่อนผ่านธารคดเคี้ยว
จะตกเลี่ยวเชี่ยวไหลไม่หวั่นแล้ว
ตั้งนะโมมโนน้อมมนัสการ
พระไตรรัตน์ชัชวาลประทีปแก้ว
ส่องสกนธ์กมลหมองให้ผ่องแพรว
ภัยมิแผ้วทุกทุกท่านที่บ้านกลอน ...