21 กรกฎาคม 2549 21:13 น.

นิทาน....เมื่อวันวาน

เศษทาน

นิทาน..เมื่อวันวาน
      ไก่ย่าง
ไก่ครับไก่  ซื้อไหมครับจะกลับแล้วไก่  ไก่ขายถูกๆแถมกระดูกกับไม่เสียบไก่   .....
ไม่รู้ว่ามีใครเคยได้ยินเพลงนี้กันบ้างไหม  แต่สำหรับผมแล้วเมื่อตอนวัยเด็กถ้าได้ยินเพลงนี้แล้วละก็จะรีบวิ่งลงจากบ้านทันที  เพราะจะต้องมายืนรอรับกลิ่นเจ้าไก่ย่างที่รถเร่ขายกำลังจะขับผ่านหน้าบ้านไป  ประมาณว่าไม่ได้กินหอมกลิ่นก็ยังดีอะไรทำนองนี้แหละ   สำหรับบ้านนอกยี่สิบปีที่แล้วนะตอนนั้นผมยังเป็นเด็กอยู่เลย  ถ้าเอ่ยถึงไก่ย่างแล้วน้ำลายมันหกเลยแหละ  ไก่ย่างไม้ละสองบาทนี่แหละชวนให้น้ำลายไหลยิ่งนัก  รสชาติไก่ย่างสมัยนั้นอร่อยจริงๆนะไม่รู้ว่าเขาหมักแบบไหน  หากใครเคยได้กินคงจำได้ดีว่ารสชาตินั้นอย่าบอกใคร เอาว่า เคเอฟซี สมัยนี้เทียบไม่ได้ว่างั้นเถอะ   
กว่าจะได้กินไก่ย่างแต่ละทีนะ  ลำบากยากเย็นจริงๆสมัยนั้น  ถ้าแม่ไม่ให้ตังค์ไว้นะไม่ได้กินหรอก  เงินก็หาเองไม่ได้   ไอ้ที่ได้ไปโรงเรียนวันละ สอง บาท  ก็หมดตั้งแต่เที่ยงแล้วหล่ะ   วันไหนรถขายไก่ย่างมาตรงเวลาเลิกเรียนแล้วมีเฮเลยนะกะเพื่อนๆ   ไปยืนรอกันเป็นกลุ่มกะเพื่อนๆแล้ววิ่งตามรถไปกันเป็นขบวนไล่ดมควันไก่ย่างกัน  นึกแล้วก็สนุกแอบขำ  ไม่น่าเชื่อว่าเราจะทำไปได้ แต่อย่างว่าแหละเด็กนี่รู้อะไรมากเล่า  กินเล่นนอน  แค่นั้นเอง
แต่ไม่รู้ว่าสมัยนี้ยังรถขายไก่ย่างแบบนี้อีกหรือเปล่าไม่รู้นะ  ไก่ย่างสูตรไทยๆที่ขายไม้ละสองบาท   สามไม้ห้าบาท   มีข้าวเหนียวห่อใบตองด้วยห่อละสองบาทอีกเหมือนกัน     กินไก่ย่างหมดแล้วก็นึกเพลงอีกท่อนนึงที่เรียกว่า ท่อนฮิตติดหูเลย ที่ว่า......กระดูกเอาไปชิงโชคไปเที่ยวรอบโลกกับคนขายไก่...............ใครเคยได้กินไก่ย่างและได้ยินเพลงนี้บ้าง  ลองมาเล่าสู่กันบ้างสิว่ามีใครแอบวิ่งตามรถดมควันไก่ย่างแบบผมกันบ้าง    ไม่น่าอายที่จะเล่าสู่กันฟัง  แต่เป็นวันวานอีกวันหนึ่งที่น่าจดจำ       
                                                      สวัสดี            
                                   นาย   นิทาน               ป่านไหม
                                   ๔   มิถุนายน    ๒๕๔๙				
5 กุมภาพันธ์ 2549 09:37 น.

เพื่อนยามยาก

เศษทาน

เพื่อนยามยาก
     เพื่อน  หากใครก็ตามที่เอ่ยคำคำนี้ออกมาหรือได้ยินก็ตาม  ย่อมเข้าใจความหมายของคำคำนี้ได้เป็นอย่างดี  เพราะเพื่อนนั้นมีความสำคัญและมีบทบาทและมีอิทธิพลต่อตัวเราอย่างมากในแต่ละบุคคลในแต่ละวันที่เราได้อยู่ร่วมกันและใช้ชีวิตประจำวันในโลกมายาหรือโรงละครขนาดใหญ่แห่งนี้  
    เพื่อน   เขาจึงได้เปรียบเทียบไว้ให้เป็นอีกหนึ่งกัลยาณมิตรที่อยู่ใกล้ตัวเรา   หากใครมีเพื่อนดีก็มีแต่สิ่งที่ดีๆเกิดขึ้นกับตน   หากใครมีเพื่อนไม่ดีก็ประหนึ่งคบคนพาล  ซึ่งมีคำบุราณแต่กาลเก่าเขาเปรียบเทียบไว้ว่า เพื่อกินหาง่าย  เพื่อนตายหายาก  นั้นยังใช้ได้ดีไม่ว่ายุคสมัยใดก็ตาม
    ยิ่งในยุคปัจจุบันนี้เรายิ่งเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น  ที่คนในยุคนี้จะมีเพื่อนแท้ๆที่ไว้ใจได้มาอยู่ข้างกายสักคน  มันยากยิ่งกว่าหาเพชรน้ำหนึ่งเสียอีก
   เพื่อนนั้นหาง่ายบางครั้งเราไม่ต้องแสวงหาเพื่อนก็มาหาเราเองก็มี  มีเพื่อนเป็นร้อยแต่จะมีซักหนึ่งไหมที่จะเป็น    เพื่อนยามยาก  ของเราได้อย่างแท้จริง
   เพื่อนยามยาก    นั้นแบ่งได้เป็น ๒ ประเภท คือ
เพื่อนยามยาก  ประเภทที่๑นี้ คือ  ในยามที่เรากำลังตกระกำลำบากยากไร้อยู่นั้น ได้มีเพื่อนมาคอยช่วยเหลือค้ำจุนเราโดยที่เรายังมิได้เอ่ยปากขอร้องสักคำเดียว  แต่กลับกุลีกุจอเป็นภาระหน้าที่คอยช่วยเหลือเราตลอดเวลาจนเราสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่ง และเพื่อนประเภทนี้จะไม่มีมายุ่งแวะข้องเกี่ยวกับเราเลยในยามที่เราสุขสบายแต่เรากลับหาได้ในยามที่เราลำบาก
    เพื่อนยามยาก   ประเภทที่ ๒ในยามที่มีทุกข์เพื่อนประเภทนี้จะไม่มาเกี่ยวข้องแวะกับเราเลย  แต่จะมาหาเราเองในยามที่เขานั้นทุกข์ระกำลำบากเพื่อร้องขอให้เราช่วยเหลือ  ต่างๆนานาพร้อมยกเรื่องราวในอดีตมากมายมากล่าวอ้างเพื่อผุกสัมพันธุ์กับเราใหม่ในฐานะของคำว่า เพื่อน
            สรุป แล้ว ตอนนี้เพื่อนรอบตัวเราเป็นแบบใดกันเล่า
   เราเคยเป็นเพื่อนยามยากของใครบ้างหรือเปล่า และ เป็นแบบใด
และ
   เราเคยมีเพื่อนยามยากบ้างไหม และ มีแบบใด
            ขอให้โชคดีทุกๆคน
                        เศษทาน				
25 มกราคม 2549 13:50 น.

ชีวิตคู่ คู่ชีวิต

เศษทาน

ชีวิตคู่     คู่ชีวิต
       จากชื่อเรื่องข้างบน    ผมใคร่ขอถามว่า   คุณอยากมี
                            ชีวิตคู่    หรือ   คู่ชีวิต
       หากคุณเลือก   ชีวิตคู่   ทำไมคุณจึงอยากมี  ชีวิตคู่ ?
       หากคุณเลือก   คู่ชีวิต   ทำไมคุณจึงอยากมี  คู่ชีวิต?
                                        แล้ว.....
ชีวิตคู่  กะ   คู่ชีวิต   มันต่างกันยังไง   หลายคนอาจสงสัย   เพราะสองคำนี้ความหมายมันจะน่าจะเหมือนกัน  คุณว่าไหม   
            แต่.................
ในความคิดผม  ของผมคนเดียวนะ  ผมคิดว่า คำสองคำนี้แตกต่างกันแน่นอนครับ   ทำไม ? จึงแตกต่าง  แล้ว  แตกต่างกันยังไง  งั้นลองคุณมาอ่านความคิดของผมกันดูนะ   แล้ว แสดงทัศนคติวิจารณ์ออกมาเพื่อแลกเปลี่ยน  โลกทัศน์ของกันและกันดู   เผื่ออาจจะมีประโยชน์บ้างในวัยข้างหน้า
          ชีวิตคู่   ในความคิดของผมเองนั้น  ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ง่ายๆในสังคมปัจจุบันนี้นะ   เพราะหลายๆคนใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันแต่ไม่เคยคิดถึงอนาคตหรือคู่ชีวิตกันเลยสักนิด   เจอหน้ากัน  ถูกใจ  พบปะพูดคุย  สนิทกัน  แล้วก็ไปใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน   ใหม่ๆอะไรก็ดีไปหมด แต่พอนานๆไปเริ่มเข้ากันไม่ได้  สุดท้ายเป็นไง  ได้เลิกรากันไปอีกแล้ว  ชีวิตคู่ก็จบลงตรงนั้น
         คู่ชีวิต   นั้นผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากมายเลยนะ  เพราะการที่เราจะได้ คู่ชีวิต มาเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะ   คุณว่าไหม  มันต้องผ่านอุปสรรคนานาสารพัดสารพันปัญหาที่ถาโถมโรมรันพันพัว  เข้ามาใส่ชีวิตคู่ คู่นั้นๆไม่รู้กี่ฝนกี่ร้อนหนาว  ให้เขาสองคนนั้นต้องเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ทุกคราวไป  แต่เขาสองคนนั้นกลับฝ่าฟันอุปสรรคนานาเหล่านั้นไปได้  จนใครคนหนึ่งล้มหายตายจากกันไป ตามวาระเวลาของแต่ละบุคคลนั้นๆ
        ยิ่งในปัจจุบันนี้เราจะได้พบเห็นการใช้  ชีวิตคู่  มากกว่าจะได้เห็น  คู่ชีวิต  นะ    บางคนกว่าจะเจอ คู่ชีวิต  ก็ไปหลงอยู่ใน  ชีวิตคู่   หลายครั้งก็มี  เพราะความเจริญทางด้านวัตถุเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรานั่นเอง  เราจึงไม่ค่อยคิดอะไรลึกซึ้งแบบคนสมัยก่อนเก่า   
       แต่ก็หวังไว้ในใจลึกๆว่าในอนาคตอันใกล้นี้  เราฐานะคนปัจจุบันคงยอมรับได้กับอนาคตที่จะเกิดขึ้นกับเราเองและคนที่ใกล้ชิดเราในวันข้างหน้าได้   ในเมื่อเราก็รับค่านิยมด้านวัตถุนี้เหมือนกัน
        หากคุณหรือใคร  เจอ  คู่ชีวิต   ที่เขาผ่าน   ชีวิตคู่  มาแล้วนั้นขอให้คุณหรือใครยอมรับความจริงเสียเถอะครับ   เพราะมันคือ  ความจริง    ที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วในอนาคตอันใกล้นี้  
                                   เศษทาน
                                  25/01/49				
15 มกราคม 2549 08:07 น.

นิทาน...นาย นิทาน

เศษทาน

นิทาน...นาย  นิทาน
                             ตอน     น้ำข้าว
      แม้ฤดูนี้จะเป็นหน้าร้อนแต่เมื่อคืนก็นอนหลับอย่างสบายบนห้างในไร่หลังนั้น  เพราะสายลมที่พัดเอื่อยๆอย่างเฉื่อยฉ่ำในยามค่ำคืนของราตรีที่เงียบสงัดถึงแม้นานๆครั้งจะมีเสียงอันไม่พึงปรารถนาจะดังสอดแทรกเข้าบ้างเป็นระยะๆแต่พวกข้าก็หลับสนิทหาได้ยินเสียงเหล่านั้นแต่อย่างใด   มารู้สึกตัวลืมตาตื่นอีกครั้งเมื่อไอ้โต้งตัวเอกมันกระพือปีกพั่บๆพร้องขับเสียงใสๆโก่งคอขันอยู่บนหลังคอกงัวเพื่อปลุกให้ทุกคนรับรู้ว่าใกล้จะถึงเวลาเช้าของวันอีกใหม่แล้ว
      แม่ข้าจึงจำเป็นต้องลุกจากที่นอนก่อนใคร  เพื่อต้องเตรียมหุงหากับข้าวกับปลาเพื่อเลี้ยงปากท้องคนในครอบครัวตามหน้าที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในวิถีชีวิตประจำวัน   ทุกๆวันทุกๆเวลามานานนับเดือนนับปีที่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไรจะหมดเวลาวาระลงเสียที
     ต่อจากนั้นพ่อข้าก็ลุกจากที่นอนอันแสนอบอุ่นแม้จะไม่อยากลุกก็ตามที เพราะในเวลาหนึ่งวันที่ได้พักผ่อนแบบสบายใจที่สุดก็มีเพียงเวลาที่ได้เอนกายพักผ่อนหลับนอนยามค่ำคืนเท่านั้นกระมัง  ที่บรรเทาความเหนื่อย  ความปวด  เมื่อยล้า  จากการที่ต้องตรากตรำทำงานทั้งวันในวิถีแห่งชาวนาไร่  วิถีท้องทุ่ง  วิถีไร่นา  อยู่กับป่าเขาลำเนาไพร  และผืนแผ่นดินทองอันอุดมสมบูรณ์ที่บรรพบุรุษได้พลีเลือดเนื้อชีวิตและวิญญาณปกปักรักษามาจนถึงลูกหลานเหลนโหลนนับร้อยๆปีผ่านมา
      แต่เราอนุชนคนรุ่นหลังหาได้รู้คุณบุญแผ่นดินไม่  จ้องจะทำลายทำร้ายผืนแผ่นดินถิ่นกำเนิดที่ให้ชีวิต  ให้เลือดเนื้อ  ให้วิญญาณ  ให้อาหาร  ให้ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างแก่มวลมนุษย์อย่างเท่าเทียมทัน  โดยที่ไม่เคยเรียกร้องสิ่งตอบแทนจากเราทั้งหลายเลยแม้แต่น้อยนิด  หากแต่เราต่างหากที่คอยจ้องทำลายสิ่งที่ให้ชีวิตและหล่อเลี้ยงเรามาจนปีกกล้าท้าตาวัน  ได้อย่างสง่าผ่าเผย  ไยเลยเราท่านทั้งหลายไยไม่ตระหนักกันบ้าง   ในบุญคุณแผ่นดินที่เราได้เหยียบยืนอย่างองอาจ
        เมื่อพ่อข้าลุกไปได้สักพัก   ข้าก็ได้ยินเสียงแม่ร้องเรียก    ไอ้น้อง !สงกรานต์เอ้ย  น้ำข้าวได้แล้วเน้อ.....เท่านั้นข้าก็หูผึ่งรีบลุกออกมาจากที่นอนทันที  โดยที่แม่ไม่ต้องเรียกซ้ำบอ่ยๆ  เพื่อรีบมากินอาหารเช้าที่โปรดปรานยิ่งนัก  มันช่างแสนอร่อย  เลิศรส เสียยิ่งกว่าเครื่องดื่มอะไรต่อมิอะไรในสมัยนี้เสียอีกกระมัง
       ใช่แล้ว   มันคือ  น้ำข้าว   น้ำที่ได้จากการหุงข้าวเตาฟืนหรือเตาถ่านเมื่อก่อนนี้  ที่เดี๋ยวนี้แทบไม่มีแล้วเพราะต่างเครื่องใช้ไฟฟ้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันไปเสียสิ้น   ทำให้ลืมกลิ่นน้ำข้าวที่แสนจะหอมหวลอวลอบตลบคลุ้งยามก้มหน้าลงไปสูดกลิ่น  
     ข้าเองนั่งอยู่ตรงหน้าชามน้ำข้าว  ซึ่งเป็นชามโห้งสังกะสีสีขาวและช้อนสังกะสีสีเขียวอีกคันนึง   แม่เอาเกลือเม็ดใส่ในชามน้ำข้าว 2-3 เม็ดเพื่อให้มีรสเค็มนิดๆ  แล้วข้าก็นั่งกวนจนเกลือละลายจนหมด  จึงทำให้รสชาติของน้ำข้าวเค็มๆมันๆและหอมหวลยิ่งนัก  ยามตักน้ำข้าวใส่ปากกลิ่นลอยมาปะทะจมูกต้องนั่งนิ่งสูดเอากลิ่นเข้าไปพร้อมกับซดน้ำข้าวเสียงดัง  โพรดดดดดดดดด
     ไม่มีอะไรอร่อยกว่านี้อีกแล้วกระมัง   น่าเสียดายยิ่งนักที่ปัจจุบันนี้แทบไม่มีแล้วการหุงข้าวเตาฟืนเตาถ่านที่ต้องรินน้ำ  อย่าว่าแต่มีน้ำข้าวให้กินเลย  ข้าวสวยที่ได้ยังหอมกว่าหุงหม้อไฟฟ้าเสียอีกกระมัง   คนปัจจุบันนี้ไม่ได้กินแล้วหล่ะ    ข้าเองอาจจะเป็นรุ่นสุดท้ายก็ได้มั้งที่ยังทันได้กินน้ำข้าวที่เลอรส
                                     
                                            เศษทาน				
29 ธันวาคม 2548 20:16 น.

นิทาน...นาย นิทาน

เศษทาน

นิทาน...นาย  นิทาน
                               ตอน...ตะวันลับท้ายไร่
           ชีวิตในช่วงเยาว์วัยที่ได้อาศัยอยู่ในไร่ห้วยนางทอง  ที่เต็มไปด้วยป่าเขาลำเนาไพรที่บริสุทธิ์สดใส  ในกลิ่นอายของธรรมชาติที่ข้าเองลืมมิได้นั้น  มันช่างเป็นมนต์เสน่ห์ที่ติดตรึงตราในใจยิ่งนัก  
          เริ่มจากยามเย็นที่เราได้เห็นตาวันค่อยๆคล้อยเอนต่ำลงลับเหลี่ยมเขาที่มองจากหลังห้างที่ข้าได้อาสัยหลับนอนในยามค่ำคืน   มันช่างสวยเสียนี่กระไรหากวันนั้นข้ามีกล้องคงได้ถ่ายรูปเก็บไว้มากมายในทุกๆวินาทีที่ฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากแสงแดดที่ร้อนแรงจ้าแล้วค่อยๆอ่อนลงๆจางลงทีละนิดๆจากตาวันดวงเล็กๆที่แจ่มแจ้งด้วยแสงสูรย์จนมองเห็นเป็นดวงใหญ่สีส้มโตอยู่บนยอดเขาไรๆเห็นหมู่มวลแมกไม้ที่ขึ้นหนาแน่นบนยอดเขาไกลๆโน่น
       หากแต่น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถบันทึกไว้ได้  ทำได้แค่เพียงบันทึกด้วยกล้องสองตาที่มีอยู่แล้วเก็บข้อมูลเหล่านั้นใส่แผ่นซิปสมองไว้  รอวันและเวลาให้มานั่งนึกย้อนอดีตแต่ก่อนเก่า   มาบรรยายผ่านตัวหนังสือเป็นเรื่องเล่าให้นึกถึงวันวานที่ผ่านมา  ในเรื่องแห่งความทรงจำเมื่อครั้งอดีต   แล้วมันจะได้อะไรเล่าจากความทรงจำนั้นๆ   ไม่เลยไม่เคยคิดหวังอยากได้อะไรทั้งสิ้น  เพียงแค่แอบคิดว่า   หากเป็นไปได้เราอยากให้วันนี้ย้อนไปหาวันวานได้   แล้วเราจะเป็นสุขยิ่งนัก   เราได้อยู่ใกล้ธรรมชาติที่แสนงดงาม   ดื่มด่ำความบริสุทธิ์ที่ธรรมชาติของโลกพลีมอบให้มวลมนุษย์ทุกผู้ทุกคนได้รับอย่างเท่าเทียมกัน   ไม่แบ่งชนแบ่งชั้นว่ายากดีมีจน  ธรรมชาติพลีมอบให้เท่าเทียมกัน
         หากแต่มนุษย์ต่างหากเล่าที่แก่งแย่งกันเอง  เอาเปรียบธรรมชาติ  รุกรานข่มเหง  ย่ำยี   จนธรรมชาติทั้งหลายทั้งมวลไม่อาจทานน้ำมือของคนได้
        ตาวันจะลับลาฟากฟ้า  นกกาผกผินบินกลับรวงรัง   ต่างส่งเสียงเซ็งแซ่บนต้นปูข้างห้างของข้า   ข้าคิดในใจว่ามันคงพูดคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆที่มันได้ออกไปพบมาในวันนี้กระมัง    เสียงจักจั่นก็ร่ำร้อง  หริ่งหรีดเรไร  ต่างขับขานประสานเสียงเป็นบทเพลงที่ไม่สามารถหาฟังได้ง่ายๆ   ใบตองกล้วยที่ปลูกไว้เป็นแนวเขตแดนแบ่งเนื้อที่ว่าใครเป็นเจ้าของนั้นสะบัดกวัดใบตามแรงลมปะทะเสียงสั่นพั่บๆพั่บๆชวนให้น่ากลัวยิ่งนัก   เจ้าฝูงไก่ขันเรียกร้องพวกพ้องให้ขึ้นคืนคอนบนหลังคอกงัวบ้าง   เข้าไปนอนในเล้าที่ทำไว้บ้าง   บางตัวก็ขึ้นไปนอนบนกิ่งต้นปูที่ย้อยต่ำระย้าลงมา   แสงตาวันลับขอบฟ้าเปลี่ยนจากเวลากลางวันเป็นกลางคืน   เจ้านกเค้าตัวเขื่องที่หลับใหลในยามวันลืมตาตื่นขึ้นมาร้อง  ฮูกๆอยู้บนต้นปูใหญ่  เป็นสัญญาณให้รู้ว่าถึงเวลาของนักล่ายามราตรีต้องออกหากินแล้ว   หลังจากหลับใหลมาตลอดทั้งวัน   
      ยิ่งดึกยิ่งเงียบยิ่งได้ยินเสียงแปลกๆแปร่งๆยิ่งนักยามอยู่ท่ามกลางป่าเขา   มองออกไปไกลๆเห็นแสงตะเกียงรำไรๆจากห้างของเพื่อนไร่ที่ยังไม่หลับนอน  บางคราก็ได้ยินเสียงคนร้องเรียกตะโกนดังกึกก้อง   สอดแทรกเสียงแห่งราตรี  เสียงยุงที่บินหวี่ๆจากตัวเดียวรวมกันหลายๆตัวจนเปลี่ยนเสียงเป็นดังกังวานไปทั่วรอบๆห้าง   ยามนั่งกินข้าวต้องคอยปัดยุงไปกินไปท่ามกลางแสงตะเกียง   มันช่างสุนทรีย์ยิ่งกว่าไปกินดินเนอร์ใต้แสงเทียนในโรงแรมหรูราคาแสนแพงเสียอีก   พ่อแม่ลูกนั่งกินข้าวล้อมวงนั่งขัดตะหมาดปุ้มข้าวด้วยมือใส่ปาก  กินอย่างเอร็ดอร่อย   มีน้ำพริกถ้วยน้อย  กับแกงส้มผักที่เก็บเอาปลายไร่  และต้มผักแกมอีกอย่างสองอย่าง   
       กินข้าวอิ่มแล้วสิ่งที่ลืมไม่ได้คือไอ้เพื่อนยากที่มันนอนรออยู่ข้างล่างรอเศษข้าวปลาอาหารจากเราผู้เป็นนายนำลงไปขุนไปได้กินอิ่มให้อิ่มหนำตามประสาคนกะหมาที่อยู่ด้วยกันแบบชาวไร่ชาวนา   กระนั้นมันก็ยินดียิ่งนักยามเราเอาหม้อข้าวหิ้วลงไปเทใส่รางให้มันได้กิน   มันสะบัดหางร้องหงิงๆแลบลิ้นเลียปากวิ่งไปรอที่รางข้าวของมัน   ใช่สิถึงแม้มันจะเป็นเพียงเศษอาหารที่เหลือจากเราผู้เป็นนายได้กินแล้วหากแต่มันผสมด้วยน้ำข้าวที่เลิศรส  มันจึงชอบยิ่งนัก  อย่างน้อยๆไอ้ขาวเพื่อนยากของข้ามันก็อ้วนหัวหลิม   แม้มันจะไม่เคยชิมอาหารหมาเลิศรสอย่างหมาๆในปัจจุบันก็ตามที
         (โปรดติดตามตอน*น้ำข้าว*ได้ในตอนต่อไปขอรับกระผม)
                          เศษทาน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเศษทาน
Lovings  เศษทาน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเศษทาน
Lovings  เศษทาน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเศษทาน
Lovings  เศษทาน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเศษทาน