25 กุมภาพันธ์ 2546 14:40 น.
เวทย์
เป็นเครื่องมือสื่อสารผ่านอักษร
ทุกวรรคตอนแต้มแต่งแสดงอรรถ
วรรณกรรมล้ำค่าศรัทธาทัศน์
เครื่องชี้วัดมาตรฐานแห่งการคิด
กับกฎเกณฑ์กรอบกั้นฉันทลักษณ์
แม้เป็นหลักแต่ทว่าอย่ายึดติด
ทุกถ้อยคำสำนวนควรพินิจ
หากเพี้ยนผิดธรรมชาติอาจย่อยยับ
ต้องเริ่มจากรู้จริงสิ่งที่สื่อ
จากนั้นคือเรียงความตามลำดับ
ให้เกิดการเรียนรู้แก่ผู้รับ
ให้ซึมซับกำซาบเห็นภาพพจน์
อย่าวุ่นวายวกวนจนเวียนหัว
อย่าพร่ามัวเลอะเลือนหรือเปื้อนปด
แทรกคุณค่าวาทะมธุรส
ให้หมดจดแจ่มแจ้งแจกแจงชัด
บนแนวทางสร้างสรรค์วรรณศิลป์
หวังฝากดินฝากฟ้ากล้ายืนหยัด
ยอมเหนื่อยยากพากเพียรอย่าเรียนลัด
เริ่มจากหัดคิดอ่านมองการณ์ไกล
22 กุมภาพันธ์ 2546 09:49 น.
เวทย์
คล้ายแรมทางกลางป่าอันว้าเหว่
คนลังเลหลงทางอย่างเหน็บหนาว
ในห้วงแห่งความมืดช่างยืดยาว
ทุกช่วงก้าวทรมานกับการคอย
นิยายรักวรรคตอนความอ่อนล้า
ส่งความหมายสายตาโหยละห้อย
ก็นับวันมันเหมือนฝันเลื่อนลอย
คนใจน้อยเลิกรอเพราะท้อใจ
เรากำลังกลายเป็นเส้นขนาน
ความอ่อนหวานทาบซ้อนความอ่อนไหว
ปวดร้าวมากเมื่อเห็นความเป็นไป
โดยที่ไม่มีทางหยุดยั้งมัน
อวลกลิ่นดอกลั่นทมพรมไอหนาว
บนช่วงก้าวอ่อนระโหยโรยแรงฝัน
หลังจากอุดช่องว่างระหว่างกัน
ยิ่งผลักดันเราห่างกว่าอย่างเคย
อาจคือความถูกต้องของความรัก
ที่จะหักใจลาอย่างชาเฉย
ปล่อยวันวัยแสนหวานให้ผ่านเลย
พร้อมกับเอ่ยอำลามันอย่างมั่นใจ
พรุ่งนี้และต่อไปในภายหน้า
คือเวลาที่ต้องแอบร้องไห้
แต่ริ้วรอยที่เหลือของเยื่อใย
จะปลอบในสำนึกหวานลึกซึ้ง