13 ธันวาคม 2545 11:40 น.
เวทย์
โคมนับร้อยลอยพรูสู่ฟากฟ้า
แสงเจิดจ้าแจ่มหาวดุจดาวใส
ค่ำคืนวันจันทร์เพ็ญเด่นอำไพ
งามตรึงใจเนิ่นนานถิ่นล้านนา
งานยี่เป็งประเพณีปีละครั้ง
เปี่ยมมนต์ขลังสั่งให้ใจโหยหา
บรรยากาศสดชื่นภาพตื่นตา
ชวนให้มาเชียงใหม่ได้ทุกปี
แสงประทีปรายทางพร่างพราวแสง
โคมแขวนแต่งใต้ฉากพลุหลากสี
ณ ผืนน้ำกระทงน้อยลอยวารี
ผืนฟ้ามีโคมประดับวะวับวาว
แว่วคำซอคลอซึ่งช่างซึ้งซาบ
น้ำค้างอาบไอหมอกหยอกลมหนาว
หวานลำนำคำเมืองเล่าเรื่องราว
เสน่ห์น้าวเสนาะหูมิรู้เลือน
โอ้แม่เอยแม่ปิงอ้อยอิ่งไหล
ฝากรักในกระทงน้อยที่คล้อยเคลื่อน
อธิษฐานกับสายน้ำให้ย้ำเตือน
ว่าคนเยือนคิดอยากขอฝากกาย
เพราะทุกปีที่ผ่านมาเหมือนอาภัพ
รักลอยกับกระทงที่หลงหาย
ขอครั้งนี้อีกสักครั้งหวังอย่าวาย
กระทงสายเราทั้งสองประคองลอย
6 ธันวาคม 2545 14:27 น.
เวทย์
มิ่งแม่โดมโน้มใจให้อ่อนน้อม
แม้ไม่ยอมสยบให้ใครทั้งสิ้น
เลือดเหลืองแดงตามองดาวเท้าติดดิน
มั่นดวงจินต์จะก้าวไปรับใช้ชน
อยู่ในใจประจำคือธรรมจักร
สัญลักษณ์แห่งผู้รู้เหตุผล
ไม่ผยองมองข้ามเหยียดหยามคน
แต่เตือนตนให้ใจสูงอย่างยูงทอง
อุดมการณ์เกินเข้มเต็มสำนึก
ฝังจารึกจำหลักในใจเราผอง
ธรรมศาสตร์สถิตมั่นธรรมครรลอง
สายเลือดของลูกวังหน้าท่าพระจันทร์
สืบตำนานนักสู้ยุคสู่ยุค
ก้าวสู่ทุกถิ่นย่านเพื่อสานฝัน
กี่ขวากหนามขวางหน้าพร้อมฝ่าฟัน
ด้วยใจอันองอาจไม่ขลาดกลัว
จิตวิญญาณธรรมศาสตร์ไม่ขาดสาย
ยืนหยัดฝ่ายตรงข้ามกับความชั่ว
ไม่ใจแคบคิดแค่เห็นแก่ตัว
ไม่เมามัวลาภยศไม่คดโกง
( แด่..สายเลือดเหลืองแดงทุกคน
เนื่องใน วันธรรมศาสตร์ 10 ธันวาคม )
3 ธันวาคม 2545 09:30 น.
เวทย์
กางตำรามาจำแนกข้อแตกต่าง
ไหนอวดอ้างอวดรู้ดูสับสน
บ้างเหลวไหลเลอะเทอะเปรอะเปื้อนปน
บ้างตั้งตนเจ้าลัทธิอภิปราย
แม้บันทึกประวัติศาสตร์ยังคลาดเคลื่อน
บ้างบิดเบือนผิดพลาดบ้างขาดหาย
ก็แค่อ่านผ่านตาอย่างมงาย
อย่าให้กลายเป็นกรอบครอบงำเรา
ต่างมุมมองตรองตามต่างความคิด
ถูกหรือผิดหากถือมั่นนั่นแหละเขลา
เป็นชนชั้นปัญญาอย่าใจเบา
รู้จักเอาสมองคิดอย่าติดตม
อะไรคล้าย อะไรคือ แก่นหรือเปลือก
เธอต้องรู้ต้องเลือกให้เหมาะสม
คุณค่าหรือสักแต่ว่าค่านิยม
อย่าโง่งมยึดติดปิดหูตา
สหวิทยาการผสานผสม
แนวนิยมสนับสนุนสร้างคุณค่า
จนแตกกิ่งต่อก้านสานปัญญา
ใช้วิชาความรู้อุ้มชูชน
เป็นบัณฑิตคิดคำนึงถึงผลลัพธ์
วิชากับอวิชชาอย่าสับสน
ต้องรู้จักพูดจาภาษาคน
อย่ายกตนข่มท่านลาญตัวเอง