5 ตุลาคม 2545 09:20 น.
เวทย์
ดอกงิ้วแดงแต่งช่อล้อลมหนาว
สีแดงพราวสะพรั่งเต็มทั้งต้น
เสน่ห์แห่งดอกไม้ช่างร่ายมนต์
ชวนให้คนคลั่งเพ้อชะเง้อมอง
แต่ลำต้นที่ห่มด้วยคมหนาม
คล้ายคอยห้ามห่วงเฝ้าอย่างเจ้าของ
หนามที่คมมีค่าดังตราจอง
ทำให้ต้องยับยั้งอยู่ตั้งนาน
กับเชื้อไฟวัยหนุ่มชุ่มเลือดเนื้อ
รับลมเหนือหนาวจัดที่พัดผ่าน
เหลือบตาดูงิ้วแดงแข่งกันบาน
บ่มความร่านลืมตัวของหัวใจ
โดยสายลมราวกับรุมจับต้อง
ทุกกลีบของดอกงิ้วจึงพลิ้วไหว
กลีบอวบอิ่มที่อวดท้าสายตาใคร
คือเปลวไฟโชนเผาจนเร่าร้อน
คมหนามจึงปรามใจไว้ไม่อยู่
อยากเรียนรู้รสเสน่ห์แห่งเกสร
งิ้วที่ช่างอวดช่ออรชร
น่าเฟ้นฟอนทุกซอกกลีบดอกงาม
เธอคือดอกงิ้วแดงแห่งความฝัน
ดอกที่ฉันเผลอรักเกินหักห้าม
ทุกวันนี้หัวใจเหมือนไฟลาม
ยอมถูกหนามบาดเนื้อได้เพื่อเธอ
4 ตุลาคม 2545 17:18 น.
เวทย์
เคยดื้อรั้นดันทุรังทั้งที่โง่
เทียบรอยเท้าเราก็โตเลยโอหัง
ใครจะบอกอะไรไม่เชื่อฟัง
เถียงเขาทั้งยังต้องรอหาข้อมูล
จะโกรธมากหากเขาว่าเราเด็ก
ยิ่งน้องเล็กเรียกเราเฮียยิ่งเสียศูนย์
บอกตัวเองไม่อาศัยใครเกื้อกูล
เรื่องเทิดทูนยกย่องใครไม่เคยคิด
มีแต่ฉันกับเธอเสมอภาค
จะพูดจาขวานผ่าซากก็เป็นสิทธิ
ถึงเลยเถิดไปหน่อยเรื่องน้อยนิด
ว่าฉันผิดไม่ได้ไม่รับฟัง
ใครผิดหูนิดเดียวก็เกรี้ยวกราด
อาละวาดขึ้นมาเหมือนบ้าคลั่ง
ไม่รู้ตัวว่าทำสิ่งน่าชิงชัง
เพียงเพราะยังอ่อนเยาว์เบาปัญญา
เป็นวัยรุ่นจำเป็นไหมต้องใจร้อน
ไม่เคยย้อนคิดว่านั่นแหละปัญหา
อยู่ในโลกมืดมิดปิดหูตา
ยังหวังว่าคนอื่นเขาต้องเข้าใจ
จนผ่านร้อนผ่านหนาวยาวนานหน่อย
จึงค่อยค่อยเรียนรู้เป็นผู้ใหญ่
มีสองหูสองตามาทำไม
ถ้าเราใช้อยู่มากแค่ปากเดียว
3 ตุลาคม 2545 08:40 น.
เวทย์
เติมน้ำชาลงในถ้วยที่เต็มปรี่
ชาอย่างดีก็ล้นออกมานอกถ้วย
เทียบผลลัพท์กับการทำไม่อำนวย
ไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดี
ยิ่งเจอถ้วยชนิดที่ปิดฝา
จะเทชาลงไปตรงไหนนี่
อาจช่วยให้เปียกตรงฝาสักนาที
ซึ่งไม่มีคุณค่าให้น่าทำ
คำเปรียบเปรยว่าเป็นคนชาล้นถ้วย
ต่อให้ช่วยฉุดอย่างไรก็ใฝ่ต่ำ
คนแบบนี้ที่เราควรสงวนคำ
ถือว่ากรรมของเขาเท่านั้นพอ
1 ตุลาคม 2545 16:50 น.
เวทย์
ยอดภูเสียดสู่ฟ้า ฟากทิพย์
พระธาตุยิ่งละลานละลิบ เลื่อมรุ้ง
คือเทพท่านบรรจงหยิบ มาแต่ง เติมเฮย
ฝากชื่อภูพิงค์ฟุ้ง เฟื่องด้าวคุงแดน
งามแสนธรรมชาติสร้าง กลางไพร พฤกษ์แฮ
น้ำตกโตรกธารไหล หล่อเลี้ยง
ชวนชนจากแดนไกล มาชื่น ชมนา
งามพระราชนิเวสน์เพี้ยง พรากฟ้ามาดิน
ทวยถวิลทำนุไว้ คู่เวียง
ประดับแผ่นดินเชียง ใหม่นี้
งามภูคู่เมืองเคียง คือมิ่ง เมืองเทอญ
งามจิตใจห่อนลี้ กระหึ่มล้นคนเมือง
1 ตุลาคม 2545 10:09 น.
เวทย์
จากแรกเริ่มดรุณวัยไร้เดียงสา
มือไขว่คว้ายึดมั่นฉันเจ้าของ
โตมาเสาะสินทรัพย์แย่งจับจอง
พาให้ต้องทุกข์ท้นทุรนทุราย
หลงอัตตาตัวตนจนเกินเหตุ
เป็นประเภทฟั่นเฟือนเลือนจุดหมาย
ปล่อยใจตามความอยากที่มากมาย
ชีวิตกลายกลัดกลุ้มไฟสุมทรวง
ท่ามกลางการแก่งแย่งการแข่งขัน
การแบ่งปันมิอาจแทนการแหนหวง
จนสังคมจมบาปหลงภาพลวง
พลอยผลพวงชักพาถึงฆ่าฟัน
ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เคยแลเห็น
ก็กลายเป็นเปลืองเปล่าให้เขาหยัน
เป็นจุดอับจุดอ่อนซ่อนโทษทัณฑ์
กลายจุดผันผลักไสให้เลวทราม
คือรากเหง้าเหล่านี้ที่เห็นทั่ว
คนลืมตัวลืมตรองกลับมองข้าม
โลภโกรธหลงเหลวไหลเฉกไฟลาม
ยากมีความสุขสงบให้พบพาน
ขอสักเศษส่วนเดียวเสี้ยวสำนึก
ได้รู้สึกรู้สาหาแก่นสาร
เลิกปล่อยใจจมปลักความดักดาน
หลุดจากการโง่เง่าหลงเงาตัว