26 สิงหาคม 2546 13:15 น.
เวทย์
กี่บันทึกรันทดกดขี่ราษฎร์
กี่อนาถชะตากรรมระส่ำระสาย
กี่ชีวิตสังเวชเภทภัยกราย
กี่เลวร้ายอำนาจข้าราชการ
เป็นรากเหง้าอิทธิพลช่วยคนชั่ว
คอยเกลือกกลั้วทุจริตวิตถาร
ศักดินาฐานันดร์อันธพาล
ยังกินบ้านกินเมืองอย่างเฟื่องฟู
เบื้องระบบอุปถัมภ์ค้ำตำแหน่ง
กลายเป็นแหล่งคนคดน่าอดสู
รวมพวกชั่วมั่วสุมไว้อุ้มชู
ทั้งกฎหมู่กฎหมายลวดลายพราว
ควรที่จะสะสางหาทางแก้
กลับทำแค่ไขสือจนอื้อฉาว
ค่อยคลี่คลายปลายเหตุเลศเรื่องราว
ไม่สืบสาวหลังฉากถอนรากโคน
พอลูบหน้าปะจมูกลืมถูกผิด
ก็ปกปิดความชั่วใต้หัวโขน
พฤติกรรมช่ำชองเอากลองโยน
โทษทัณฑ์โอนให้แพะแบ๊ะแบ๊ะรอ
ก่อนโครงการข้ามชาติจะขาดช่วง
ช่วยกันทวงอีกทีดีไหมหนอ
เผื่อชาตินี้ที่น้ำหยดรดหัวตอ
แล้วฉลฉ้อคอรัปชั่นบรรเทาลง
16 สิงหาคม 2546 10:10 น.
เวทย์
หวานแววตาอาทรยิ้มอ่อนหวาน
หลังประสานตาเธอถึงเพ้อหา
เฝ้าทบทวนความหมายของสายตา
แอบหวังว่าใช่แล้วแววไมตรี
รอยลักยิ้มผลิแย้มสองแก้มปลั่ง
บวกมนต์ขลังน้ำคำฉ่ำเหลือที่
ลอบเปรียบเธอเทพธิดาผู้อารี
เป็นเทวีแสนหวานซึ้งซ่านใจ
เธอช่างสวยบริสุทธิ์ในชุดขาว
ทุกย่างก้าวงามสง่าน่าเลื่อมใส
กิริยาอบอุ่นละมุนละไม
ชวนหลงใหลละเมอหาทุกท่าทาง
ได้เธออยู่ดูแลตั้งแต่ต้น
จึงส่งผลพาให้ไข้กายสร่าง
แต่ไข้ใจแทรกซ้อนซ่อนอำพราง
แถมค่อนข้างหนักหนาตามอาการ
เพราะแทบทุกนาทีที่เพ้อหา
ไม่เห็นหน้าทีไรใจพลุ่งพล่าน
กระสับกระส่ายทุกข์ท้อทรมาน
จนเธอผ่านมาหน่อยค่อยบรรเทา
แว่วเสียงหมอกำชับกลับบ้านได้
ฟังแล้วใจแหลกยับโลกอับเฉา
เวรหยุดเธอเสียด้วยซวยเลยเรา
เดินซึมเศร้าออกมาน้ำตาคลอ
15 สิงหาคม 2546 08:32 น.
เวทย์
อะไรที่เราทำอยู่ซ้ำซาก
มักฝังรากกลางจิตติดนิสัย
ยิ่งปล่อยนานตรึงแน่นแก่นหทัย
ก็เรียกใหม่สั้นสั้นว่าสันดาน
วิธีฝึกอบรมบ่มความคิด
อย่าเผลอผิดเพียงให้นั่งฟังโวหาร
ยิ่งผ่านหูรู้มากยิ่งยากนาน
กลับดื้อด้านอวดดีมากมีมา
หากเมื่อในวัยเยาว์ลืมเกลาขัด
ต้องฝืนดัดไม้แก่แก้ปัญหา
ตามแบบดึกดำบรรพ์ภูมิปัญญา
ท่านสอนว่าทำได้โดยไฟลน
โดยอาศัยไฟจ่อพอให้ร้อน
ดัดให้อ่อนทีละน้อยค่อยเห็นผล
เปรียบแนวทางแก้ไขนิสัยคน
หากผ่อนปรนปล่อยปละจะเสียการ
ต้องบังคับเคี่ยวเข็ญอยู่เป็นนิจ
ย้ำจนติดนิสัยวินัยทหาร
ความเคยชินเลื่อนชั้นเป็นสันดาน
ถึงเนิ่นนานแน่นอนไม่คลอนแคลน
อย่าแค่เพียงเลี้ยงดูอุ้มชูลูก
ควรฝังปลูกให้ดีงามตามแบบแผน
อย่ามัวรอราชการท่านทำแทน
เพราะคุกแน่นแทบล้นด้วยคนเลว
12 สิงหาคม 2546 10:15 น.
เวทย์
ความฝันใฝ่วัยเด็กดูเล็กน้อย
จนมิค่อยมีใครไปตามฝัน
และบ่อยครั้งพลั้งเผลอเพ้อพกกัน
ว่าสวรรค์ลิขิตชีวิตคน
เมื่อไม่มีจุดหมายปลายทางฝัน
แต่ละวันอยู่กับความสับสน
หลงความสุขซึ่งหน้าพาวกวน
ลืมเตือนตนยั้งคิดไร้ทิศทาง
ก็กลายเป็นชีวิตผิดแบบแผน
ทั้งคับแค้นลำบากติดขวากขวาง
ความสำเร็จไกลเหมือนฝันเลือนลาง
โลกเวิ้งว้างมืดมิดทุกทิศไป
เพราะลืมทำแผนที่ทางชีวิต
จึงหลงทิศนอกทางอย่างเหลวไหล
บ้างเข้าพงเข้ารกน่าตกใจ
จนกว่าใครเมตตามาชี้นำ
ใครเล่าช่วยชี้ทางต่างเข็มทิศ
ชี้ถูกผิดหลุมพรางอาจย่างถลำ
ตนเองเป็นที่พึ่งพึงจดจำ
เราไม่ทำแล้วจะไปพึ่งใครกัน
เป้าหมายอยู่จุดไหนคิดไว้บ้าง
ดูเส้นทางถ้วนถี่ขมีขมัน
เคล็ดไม่ลับข้อหนึ่งซึ่งสำคัญ
ต้องวาดฝันสวยงามบนความจริง
8 สิงหาคม 2546 13:01 น.
เวทย์
ถ้าเอาความประณีตมากีดกั้น
คงไม่ทันเวลาต้องค้าขาย
จากตุ้มข่าวิจิตรร้อยห้อยตรงชาย
ก็เลยกลายเป็นประดาสุมาลี
จากดอกพุดผุดผาดสะอาดสะอ้าน
แซมตระการกลีบผกามาแต่งสี
สับหว่างเกี้ยวทรงกลมสมส่วนดี
เหลือแค่มีมะลิลามาร้อยรวม
ด้วยสนนราคาน้อยกว่าน้อย
คนนั่งร้อยชีพล่มทุกข์ถมท่วม
ทางชีวิตมืดดำหวังกำกวม
หัวอกอ่วมอัดอั้นแทบกลั้นใจ
พวงมาลัยริมทางช่างรันทด
มิว่าอดหรืออิ่มต้องยิ้มไหว
ต้อนรับอย่างอบอุ่นละมุนละไม
ชักชวนให้ซื้อหาหน้าชื่นบาน
อะไรหรือสุนทรีย์แห่งชีวิต
ตอนนี้คิดแค่หาค่าอาหาร
และเผื่อขาดเผื่อเหลือพอเจือจาน
ลูกที่บ้านยังเยาว์ต้องเล่าเรียน
ใช่มาร้อยมาลัยด้วยใจรัก
ภาระหนักข้างหลังกุมบังเหียน
ทนหลังขดหลังแข็งล้าแรงเพียร
เอาศิลป์เปลี่ยนเป็นสินค้าน่าเห็นใจ