28 เมษายน 2550 14:34 น.
เล่ากอกอ
รักเริ่ม และเดิมที...
รักก็มี แค่เราสอง
พอเดิน ตามครรลอง
พลันมากมี ผู้ร่วมทาง
ข้างเธอ ก็มากมี
ข้างฉันนี้ ก็มากมาย
ฉากหวาน เป็นวุ่นวาย
ด้วยมากคน มาแต่งเติม
เสริมมา ทุกแง่มุม
ถ้อยคำสุม อย่างฮึกเหิม
ฉากขม ก่อหวอดเริ่ม
ในก้นใจ เราสองคน
สาละวน คนมากมาย
สาระใจ เริ่มสับสน
รักเอย ใช่สองคน
ใยมากมาย วุ่นวายจัง
สะสาง ใจดวงน้อย
รู้จักปล่อย รู้จักวาง
รักมี ใน-นอก-ข้าง
ต้องดูแล และเยือกเย็น
รักเป็น ดั่งสภา
ใครเข้ามา ต้องรู้เห็น
เพียงแต่ รู้ให้เป็น
สภารัก จักมั่นคง
.......เหอ เหอ.........
28 เมษายน 2550 13:31 น.
เล่ากอกอ
รับรู้ ควรเท่าใด
จึงนำใจ ให้เปี่ยมสุข
รู้มาก ก็มักทุกข์
ด้วยที่รู้ มันกวนใจ
จำได้ พุทธทาส
ธรรมโอวาท เคยให้ไว้
จักสุข ต้องคุมใจ
ให้รับรู้ เพียงที่ควร
ทบทวน อดีตผ่าน
เป็นเช่นนั้น ที่ปั่นป่วน
รู้ใด ให้ทบทวน
ใดควรเก็บ เข้ากล่องใจ
เรื่องใด ให้ควรลบ
ต้องรีบกลบ อย่าหวั่นไหว
ไม่รู้ แล้วเป็นไร
รู้แล้วงัย ได้ใดดี
เช่นนี้ จึงพาสุข
เหตุแห่งทุกข์ ต้องกล้าชี้
รับรู้ แต่เรื่องดี
แล้วชีวี จะสุขเอย..
........เขียนบทนี้..รู้สึกตัวเองแก่(ลง)จริงๆ...อิอิ
27 เมษายน 2550 10:39 น.
เล่ากอกอ
ยายคนหนึ่ง กับรถเข็น เก่าๆ คันหนึ่ง
ใต้ร่มไม้ต้นหนึ่ง ที่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง
"น้ำไหมลูก" น้ำเสียงอ่อนโยนลึกซึ้ง
"ผมเป๊บซี่" "หนูน้ำส้ม" "ผม.." ครับ-ค่ะ ยาย
ในรถเข็น ที่เห็นเป็นกระติกเก่าๆ
และถุงกระดาษจางขาว มีขวดน้ำอัดลมข้างใน
แก้วพลาสติก ใส่น้ำแข็ง วางเรียงรายไว้
ดูยังงัย ก็ไม่คล้าย รถขายน้ำดื่มในเมือง
สิ้นเสียงเด็ก ยามก็นั่ง พิงต้นไม้ใหญ่
สายตาทอดไกล ไม่เคลื่อนไหว ดั่งกลัวโลกเอียง
โลกแห่งความหวัง ที่กำลัง เดินอย่างพอเพียง
แม้เม็ดเงินเพียงนิด แต่จิดใจ ยายได้มากกว่า
ยามได้ยินเสียงเด็ก ตาเวิ้งว้างทอดไกล คู่นั้น
มีประกายทันควัน เรี่ยวแรง ไม่รู้มาจากที่ไหน
กุลีกุจอ ไม่รั้งรอ บริการทันใด
ท่าทีตอนยื่นแก้วให้ โลก ณ ตรงนั้น สว่างไสว งดงาม
....แล้วจะมาต่อภาค 2 นะจ๊ะ..อิอิ ปายธุระก่อน..เด๊อ
25 เมษายน 2550 01:30 น.
เล่ากอกอ
ยามจันทร์ กระจ่างฟ้า
ทาบแสงทา ยอดใบอ่อน
ดั่งแก้มสาว ยามเง้างอน
เจ้าเรืองเรื่อ ด้วยนวลใย
ทุกคืน จันทร์กระจ่าง
ใจเคว้งคว้าง ได้อาศัย
มายืนแอบ ใต้พุ่มใบ
แสงจันทร์เจ้า เว้าคำวอน
ลมร้อน ใกล้ล่วงผ่าน
คนสาบาน ใกล้คืนย้อน
ฝนแรก จะคืนดอน
นี่ก็จวน ใกล้เวลา
สาธุ แสงจันทร์เจ้า
อย่าให้เขา ทิ้งสัญญา
นิยายรัก หนุ่มบ้านนา
จบด้วยเศร้า ไม่อยากเป็น
เห็นใจ เถิดแสงจันทร์
ทุกโทษทัณฑ์ โปรดละเว้น
ฝนมา ให้ข้าเห็น
หน้าคนรัก ที่เฝ้ารอ
จักขอ ให้สัญญา
หากเขามา ดังร้องขอ
ปุ๋ยน้ำ จะเตรียมรอ
รดให้เจ้า ทุกเช้าเย็น
23 เมษายน 2550 09:04 น.
เล่ากอกอ
มะคืนผ่าน ฉันเดินเล่น ในสวนฟร็อก
พูดไม่ออก เลยล่ะ ประคุณเอ๋ย
บุปผาดอก ละอ่อนช่อ ไม่คุ้นเคย
สะบัดกลีบ อย่างละเลย ความเหนียมอาย
ภุมริน บินสยาย หัวใจหื่น
เสียงครืนครืน ดั่งหมู่มวล เจ้าโจรร้าย
แทะเล็มเลีย ด้วยถ้อยคำ และโถมกาย
อนิจจา บุปผาเจ้า กลับรื่นเริง
เอียงซ้ายนิด เอียงขวาหน่อย ปล่อยกลีบหุ้ม
ให้ร่วงพรู กองสุม ไม่สะเทิ้น
สะบัดกาย ลีลาไหว อย่างชวนเชิญ
โอ้บุปผา สองพันเจ็ด โฉมเจ้าเอย
ตะลึงมอง เหล่าบุปผา จนเกือบเช้า
ถะ โถเรา ก็รุ่นราว ใกล้แล้วเหวย
ได้ผ่านพบ ยังอดใจ ไม่ได้เลย
แล้วลูกหลาน ที่ผ่านเจอ จะอย่างไร
เฮ้อ...เนอะ..ไปนอนละ..เหอ เหอ