7 เมษายน 2547 23:39 น.
เลิฟลี่
ค่ะ สาวน้อยวันมอต้นตอบรับป้าแก่ๆคนหนึ่งที่เป็นภารโรงของโรงเรียนนี้ เธอก้มลงไปล้างเอาครีมโฟมล้างหน้าอันแพงหูฉี่ออกไปจากหน้าอันแสนสวยของเธอที่อ่างล้างหน้าหน้ากระจก
นี่ตัวเองๆ ป้าเค้าไปไหนแล้วละ มีอีกคนหนึ่งวิ่งออกมาจากห้องน้ำเล็กๆ
ไม่รู้สิ เธอเห็นหรือเปล่ามด เอ๊ะหรือว่าอาจจะออกไปแล้วนะ
นี่! ป้าเขาจะออกไปได้ยังไง ประตูเราก็ล๊อคอยู่นะ อีกอย่างถ้าป้าเขาออกไปแล้วก็น่าจะได้ยินเสียงปิดประตูบ้างสิ จริงมั้ยๆ ยัยปิ่นพูดใส่คุณหนูเทป
แต่ว่าป้าเขาก็ไม่ได้อยู่ข้างในห้องน้ำเลยนะ หรือว่า. พวกผู้หญิง 6 คนในห้องน้ำ พากันเงียบไปพักหนึ่ง และมองหน้ามองตากันปริบๆ
ตัวเอง ตัวเองคิดแบบที่เค้าคิดหรือเปล่าอ่ะ คุณหนูเทปมองตาเพื่อนที่เหลือ
คิดสิ ผู้หญิงทั้ง 6 คน ทำหน้าตาเหมือนกับจะร้องให้
ผีหลอก! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด ทั้ง 6 คนวิ่งออกจากห้องน้ำไปแทบไม่ทัน
************
กลุ่มวิชานาฏศิลป์ที่ 7 ปี 3 ห้อง F เทป อัมร์ ปิ่น ฟ่าง หนิง วิว ฟิล์ม เบน นาย ซ้อมรำกันไม่เหมือนบ้านเหมือนเมือง จะ หกโมงอยู่แล้วยังไม่กลับบ้านกันเลย ยังคงส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวเต็มห้องเรียน 658 ที่เป็นห้องประจำของตนเอง
นี่เจ๊อัมร์ เมื่อไหร่จะให้กลับบ้านซ่ะที มันเย็นแล้วนะนายเบนโอดครวญ
บ่นอยู่นั่นแหละ จะเอาไม๊คะแนนหน่ะ เอาก็ไม่ต้องบ่น คนอื่นเขายังไม่บ่นอะไรกันเลย เห็นไม๊ หัดมีความอดทนบ้างสิ ฉอดๆๆๆ เบนทำตาปริบๆ โดนยัยอัมร์เทศจนเละ
อืม ก็ได้ๆเอ้า กลับบ้าน เพื่อนทั้ง 9 โห่ ร้องดีใจกันยกใหญ่ หลังจากที่ต้องโดนบังคับซ้อมรำอันมหาโหดของเจ๊อัมร์ หมดทุกข์หมดโศกเสียที ทั้ง 9 คนเดินลงไปข้างล่างพร้อมๆกัน ระหว่างทางนั้นเกือบจะมืดแล้วและวังเวงมากด้วย เป็นที่สยึ๋มกึ๋ยกันมาก ต้องจับกลุ่มค่อยๆพากันไป ไปที่ชั้น 2 ประตูกรงเหล็กที่บนไดใหญ่ปิด
เห็นไม๊เจ๊อัมร์เราบอกแล้ววววว ว่าอย่าซ้อมให้เย็นนักเลย เห็นมะประตูปิดแล้วจะทำไงดีเนี่ย เบนตอกเจ๊อัมร์สุดลิ่ม
ค่าาา ไม่เป็นไรเราก็เรียกคนแถวๆนี้ดิ ทั้ง 9 ตะโกนจนเสียงแทบก็ไม่มีใครได้ยินเพราะว่าไม่มีใครอยู่ในโรงเรียนกันแล้ว
อุ๊ยลืมไป มือถือค่ะ มือถือๆเจ๊อัมร์กำลังจะกดมือถือ
อุ๊ย ไม่มีคลื่น ป่อย! เสร็จเลยคราวนี้
อ่าวซวยแล้วเดะส์แล้วจะทำไงละทีนี้เจ๊อัมร์ ประตูก็ปิดออกจากตึกไม่ได้ โทรศัพท์ก็ไม่มีคลื่น คนแถวนี้ก็ไม่มีใครอยู่ซ่ะด้วย หนุ่มนายเริ่มตอกย้ำบ้าง
นั่นดิ ชั้นว่าแล้ววววววว ตั้งแต่เจอผีอีป้ามรณะที่ห้องน้ำหญิงเมื่อตอนบ่ายละ บรรยากาศแถวๆนั้นเริ่มวังเวงขึ้นไปอีก เจ๊วิวเอ๊ย ไม่น่าเลย
สงสัยต้องค้างที่นี่แล้วละ เจ๊อัมร์ฟันธง
ไม่เอาาาาาา เค้ากลัวอ่าาส์ คุณหนูเทปไม่ยอมลูกเดียว
หยุด! ห้ามโวยวาย ชั้นมี 2 ทางเลือก ว่าจะอยู่กันตรงนี้ หรือว่าขึ้นไปอยู่ที่ห้อง 658เรา
658! เอกฉันท์ แล้วความมืดก็เริ่มปกคลุม ทั้ง 9 คนก็เกาะกลุ่มค่อยๆย่องกันขึ้นไปที่ห้องชั้น 5 เหมือนเดิม แบบกลัวว่าผีจะรู้ว่ามีคนอยู่ในตึก แล้วก็ถึงห้องรีบปิดประตูกันใหญ่ ไปนั่งรวมกลุ่มกันอยู่ที่หลังห้อง ท้องทุกคนเริ่มร้องเพราะหิวข้าวมาก
โทรสั่งข้าวกล่องค่ะ เจ๊อัมร์กะลังจะกดมือถือ
เริ่มโง่แล้วไม๊ละ เจ๊อัมร์
แหะๆ ลืมไป มือถือไม่มีสัญญาณ ตอนนี้ทุกคนค้อนเจ๊อัมร์กันหมด ยังดีที่มีขนมของเจ๊
หนิงที่ซื้อมาตุนไว้ในห้องกินประทังความหิว น่าอนาถใจเหลือเกิน เด็กน้อยทั้ง 9 สลัดความเป็นลูกไฮโซ แย่งกันกินขนมเหมือน(เซ็นเซอร์) ขนมหมดแล้ว เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รู้สึกว่านายเบนจะพุงกางมากกว่าเพื่อน แต่ที่น่าสงสารที่สุดเจ๊ปิ่นแม่นางกางจ้องของหมู่เฮา
นี่ ถ้าผีมันโผล่ออกมาอ่ะ เจ๊อัมร์เริ่มอีกแล้ว ขนลุกซู่กันหมดเลย
ก็ดีสิเจ๊ ไนท์ตี้ช๊อคกันไปเลย โอ๊สม์ นายเบนเริ่มชั่ว คิดได้ยังไง
เหอะๆ เอาเข้าไป เดี๋ยวพวกแกได้ช๊อคกันจริงๆหรอก หนุ่มนายพูดขึ้น และเข้าสู่ความเงียบและวังเวงอีกครั้ง หมาบ้าข้างโรงเรียนก็เจ๋อหอนอีก ต้องมีสักคนที่อยากจะเอายาเบื่อไปให้หมาตัวนั้นกินมากที่สุด เงียบ.
ตัวเอง ตัวเองเงียบกันทำไมอ่ะ คุณหนูเทปพูดเสียงอ่อยๆ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเพื่อนข้างๆ ยังคงรักษาความเงียบกันต่อไป หลับกันหมดหรือเปล่า ก็ไม่ได้หลับ แล้วเงียบกันทำไม ตอนนี้ทุกคนเริ่มหวั่นไหวแล้ว มันต้องมีอะไรสักอย่างบังเกิดแน่ๆ ไม่ทันขาดคำ ผีอีป้าเมื่อตอนบ่ายก็ค่อยๆโผล่มาอยู่หน้ากระดานแล้ว
ตัวเอง เค้าเจอผีอ่ะ เจ๊เทปสะกิดเจ๊ปิ่น
จริงหรอ เจ๊ปิ่นไม่แน่ใจ
จริงสิ ทุกคนมองไปที่กระดานหน้าห้อง เห็นแล้ว จะจะเลย ชัดเลย ใช่เลย
ผีหลอก! กรี๊ดดดดดดดดดดดส์ เหมือนเดิม ทั้ง 9 วิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว เริ่มโกลาหนกันอีกครั้ง ใครไม่รู้คิดว่ามีเทศกาลอะไรสักอย่าง เจ๊อัมร์กะคุณหนูแท็ปดวงซวย วิ่งผ่านหน้าห้อง 655 ดันไปสะดุดศพ 2 ศพที่นอนอยู่หน้าห้องด้วยสภาพเน่าเฟะ
กรี๊ดดดดดส์ ทั้ง 2 ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่สุดในชีวิตและทั้ง 9 ก็วิ่งไปหลบที่ห้องพระพุทธ ชั้น 6 คิดว่าคงอุ่นใจมั้ง เหอะๆ หารู้ไม่ เห็นจะจะเลย ศพคนตายท้องกลมผูกคอตายอยู่บนพัดลม เจ๊ปิ่นเจอคนแรกเลย แน็ปหน้าตั่ง และก็ตั้งตามๆกันไป กรี๊ดรอบที่พันกว่าแล้วมั้ง ซวยกันจริงๆ
เจ๊อัมร์เริ่มมีแผลการร้ายจะวิ่งลงไปชั้น 2 จะไปทำลายประตูให้ได้ ยังไงก็จะออกไปให้ได้ แบบว่ากูไม่อยู่แล้ว ก็วิ่งตามกันไปเป็นพรวนเลย ถึงชั้น 5 ต้องชะงักอีกรอบ
ตัวเอง ไช่เลย ไช่แน่ๆเลย พวกเดียวกะเรา คุณหนูแท็ปเห็นเป็นคนแรก ผีนักรำ รำสวยมากอยู่ตรงบันได ชั้น 5 มีอยู่ 3 ตัว เอาละสิมาซ้อมรำเจอนักรำ
พี่ค่ะสนใจจะสอนพวกหนูรำไม๊ค่ะพี่รำสวยดี เจ๊อัมร์เอ้ยยย ยังไม่เลิกคิดรำ
อีโง่! มึงไม่เห็นเหรอ นั่นผีโว้ยย เจ๊ปิ่นเริ่มมิ่งจัด
เหรอ ผีนักรำทั้ง 3 หันมาอีกครั้ง มีแต่เลือดอาบหน้าเต็มไปหมดเลย ป่าราบกันอีกรอบสิคราวนี้ วิ่งโผล่ห้องนู้นห้องนี้ มีทั้งเสียงหมาหอน ทั้งเสียงกลองสะบัดชัยที่ดังขึ้นมาเองจากห้องนาฏศิลป์กลางโรงเรียน อาถรรพ์จริงๆ เอาละสิช๊อคกันไปข้างนึงเลย สรุปก็คือวิ่งตามกันเป็รพรวนคนนำหน้าคือเจ๊อัมร์ โอ้วว ประเทศราชชาติไทย เอาอะรัยมาคิดเนี่ย ให้เจ๊อัมร์นำ ในที่สุดก็วิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้าของโรงเรียน วังเวงงงที่สุด เสียงกรี๊ดกร๊าดเมื่อกี้ก็หายไป มีแต่ความเงียบและเสียงลมพัดหวิว ที่ชั้น 7 ดาดฟ้า ทั้ง 9 ต่างทิ้งร่างอันเหนื่อยอ่อนนอนแผ่หราอันเป็นแถว
รอดตายละมั้งเรา เจ๊อัมร์โอดครวญ เพิ่งสำนึกผิด เมื่อเจอผี เจริญจริงๆ
เหอะๆ ไนท์ตี้ช๊อคมึงละยังไอ้เบน หนุ่มนายพูดไปหอบไป มันก็ช๊อคกันหมดนั่นแหละ สนุกจริงๆ เหอะๆ ยัง! ผีมันไม่ยอมจบง่ายๆหรอก คราวนี้ซวยเลย ปีขึ้นมาล้อมทั้ง 9 คน ไว้ทุกทางเลย ไปไหนไม่รอดแล้ว
กรี๊ดดดด ผีมาอีกแล้ว เจ๊ปิ่นเจอคนแรกอีกแล้ว
มีผีนักรบโบราณ ผีหัวขาด ผีตายท้องกลม ผีแม่นาก ผีนักรำ ผีป่าช้า ผีหทารสงครามโลก ผีตานี โห มาเยอะจังสงสัยรวมรุ่นผีแน่เลย เบนนับผี โดนเจ๊ปิ่นตบหัวไป 1 เบิ๊ด
นี่ ยังมีหน้ามานับอีกเหรอ ไอ้โง่ เบนก็เพิ่งรู้ตัวว่าโง่จริงๆ ขนาดกำลังโดนผีหลอกอยู่นะเนี่ย ผีก็บีบวงเข้ามาเรื่อยๆ เข้ามาเรื่อยๆ พวกนั้นก็ยังกรี๊ดไม่หยุด
คุณผีขาคุณผีต้องการอะไรเหรอค่ะ คุณผีบอกหนูได้นะค่ะ แต่ว่าอย่ามาหลอกหนูอย่างนี้เลย หนูเหนื่อย ป่อย! ไม่มีสัญญาณตอบรับจากผีที่ท่านเรียก
เจ๊อัมร์ นายฟิล์มมีพระค่ะะะะ หนูวิวเอาพระให้เจ๊อัมร์ เจ๊อัมร์เอาพระไปขู่ผี ป่อย! หน้าแตก ผีไม่ยักกะกลัว ผีก็หลอกอยู่นั่น บ้างก็กรี๊ดจนเสียงหายแล้ว บ้างก็ร้องให้ กลัวกันจนฉี่ราดกันหมดแล้ว สามร้อยกว่าผีมาหลอกเนี่ยตายเลยนะ ขนาดตัวเดียวก็ป่าราบแล้ว และผีก็เข้ามาจนถึงประชิดตัวทั้ง 9 คน จนสลบเป็นลมกันไปหมดเลย.
********
ทั้ง 9 คน นอนเกยหาดกันอยู่บนดาดฟ้า เช้าแล้ว เจ๊ปิ่นตื่นคนแรกเลย บางคนยังไม่หายเหนื่อยจากไนท์ตี้ช๊อคเมื่อคืน แต่ก็ช่วยกันพยุงกันลุกลงไปถึงที่ห้องกันหมดครบทุกคน และลงไปรอภารโรงมาเปิดประตูที่ชั้น 2 บางคนก็ยังหลับอยู่เหมือนเดิม แต่ที่ดีกว่าเพื่อนคือนายเบน กะหนุ่มนายที่กำลังยังเหลือเฟือกว่าเพื่อน
รอแล้วรอเล่าภารโรงก็ยังไม่มาเปิดประตูซักที นายเบนเดินไปกินน้ำไปเจอนาฬิกาที่บอกวันที่ ไว้เรือนหนึ่ง
ทำไมภารโรงยังไม่มาเปิดประตูเนี่ย ทำไมนักเรียนยังไม่มาเรียนสักคนเลยเนี่ย ภารโรงนี่ก็ใช้ไม่ได้เลย มาเปิดประตูช้า นักเรียนไม่ได้ขึ้นมาเลย เจ๊อัมร์อารมเสีย เบนเดินมาหาเพื่อนๆ
ว่าแล้วววว ทำไมเมื่อวานผีมันถึงมาเยอะจัง ที่แท้ก็ วันศุกร์ 13 นี่เอง
เมื่อวาน ศุกร์ 13 เจ๊อัมร์เริ่มทำหน้าเบ้
งั้นวันนี่ก้อ.
วันเสาร์! กรี๊ดดดดดดดดดส์!!!!!
**********************
7 เมษายน 2547 23:37 น.
เลิฟลี่
คุณค่ะ เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกผมอยู่ด้านหลัง ผมหันไปหาเธอ เธอเป็นคนสวยมาก สาวผมยาวที่อยู่ข้างหน้า ทำให้ผมเคลิ้มไปเป็นเวลานาน
นี่ของของคุณค่ะ เธอยื่นของสิ่งหนึ่งให้ผม ผมรับเอาไว้ และก้มมองดู มันเป็นสร้อยคอกับจี้รูปไม้กางเขนของผมที่หายไปนานมาก ผมอยากขอบคุณเธอ แต่เมื่อผมเงยหน้าขึ้น เธอก็หายไปแล้ว
ผมลืมตาขึ้น ผมรู้สึกตัวเองอีกทีว่าผมฝันไป ตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงของผมเอง ผมฝันไป ผมฝันไปหรือนี่ ผมคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความจริงเสียอีก น่าเสียดาย ผมลุกขึ้นจะไปเข้าห้องน้ำ เมื่อกำลังจะบิดลูกบิดประตูเพื่อเปิดประตูออกไป ผมก็เห็นสร้อยคอกับจี้รูปไม้กางเขนของผมที่ผมทำหายไปนาน และใช่อันเดียวกับที่ผมเห็นเมื่อคืน น่าแปลกจัง ทำไมมันมาอยู่ตรงนี้ได้ แล้วเธอละ เธอเป็นใครกันหนอ
ผมเดินอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า ผมกำลังยืนคิดอะรัยอยู่เรื่อยเปื่อยตอนที่รอขบวนรถไฟฟ้าเพื่อจะขึ้นไปที่ทำงานของผม พอดีกับจังหวะที่รถไฟฟ้าเลื่อนขบวนมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ผมสงสัยตัวเองว่าทำไมผมไม่ขึ้นรถไฟขบวนนั้น รถกำลังเลื่อนตัวออกจากชานชาลาผ่านหน้าผมไป ผมเห็น.. ผมเห็นเธอแล้ว ผู้หญิงผมยาวในฝันของผมเมื่อคืน เธออยู่ในขบวนรถคันนั้น เธอหันมาสบตากับผม และมองผม ผมก็มองเธอ จนสุดขบวนรถ อา..ผู้หญิงในฝัน
*******************
ผมนั่งอยู่กับผู้หญิงคนนั้นที่เก้าอี้ยาวตัวหนึ่งบนสถานีรถไฟฟ้า ผมไม่ได้คุยอะไรกับเธอ และเธอก็ไม่คุยกับผม เรานั่งอยู่กันเฉยๆ ในบรรยากาศอันเงียบสงบ จู่ๆก็มีเสียงระฆังดังขึ้น และตามด้วยเสียงดนตรี คล้ายกับเสียงเพลงในนิยาย ซึ่งไพเราะมาก และมีนกกระเรียนกระดาษ บินวนรอบๆเราตัวสองคน นกแต่ละตัวมีสีที่แตกต่างกันออกไป และทุกตัวจะมีรัศมีสีทองออกมาจากตัวมัน ราวกับว่าที่นี่เป็นดินแดนแห่งความฝันที่มีกับผมและเธอเท่านั้น ผมหันไปสบตากับเธอ เธอยิ้มให้ผม และผมกำลังจะพูดกับเธอว่า
โอฮาโยะโกซัยมัส โอฮาโยะโกซัยมัส โอฮา.. ผมคลำปิดนาฬิกาปลุกปัญญาอ่อนที่แม่ผมซื้อให้เมื่อวันเกิด ผมลืมตาขึ้น น่าเสียดายจัง เป็นความฝันไปอีกแล้ว ทำไมช่วงนี้ฝันถึงผู้หญิงคนนั้นบ่อยจัง ทำไมนะผมคิดไม่ออกเลยว่าเพราะอะไร อา.. ผู้หญิงผมยาวในฝันกับยิ้มสวยๆบาดใจผม เธอเป็นใครกันน้า..ผมหวังว่าผมจะได้เจอกับเธอที่สถานีรถไฟฟ้าแห่งนี้อีก ผมอยากเจอเธอจัง ผมคอยสอดสายตาไปรอบๆหวังว่าผมจะได้เจอเธออีกครั้ง มันคงจะดี เธออยู่ไหนกันหนอ ผู้หญิงผมยาว สาวยิ้มสวย ผมมองหาเธออยู่นานก็ไม่ยักกะพบเธอสักที ท้อใจแล้วนะ ผมคิดว่าคงไม่ได้เจอเธออีกแล้วสินะ ผมเดินไปเรื่อยๆกะว่าจะกลับบ้านแล้ว ผมก็ดันไปชนกับคนๆหนึ่ง จนของที่เขาถืออยู่ร่วงหล่นกระจายเต็มพื้น ผมก้มช่วยเขาเก็บของจนมารู้ตัวเมื่อเก็บของชิ้นสุดท้าย มันเป็นนกกระเรียนกระดาษสีฟ้าตัวเล็กๆ มองไปข้างๆเห็นกระปุกแก้วใส ใส่นกกระเรียนสีต่างๆไว้จนเต็ม ผมหยิบกระปุกแก้วนั้นขึ้นมา และก็ยืนขึ้น สบตากับเธอ เธอ. ผู้หญิงผมยาว ในฝันผมและที่ผมเห็นเมื่อวานนั่นเอง ผมและผู้หญิงคนนั้นอึ้งไปชั่วขณะ ผมยิ้มให้เธอ เธอก็ยิ้มให้ผม ช่างเป็นภาพน่าดู และมีความสุขมาก ฉากด้านหลังเป็นภาพรถไฟฟ้าค่อยๆเลื่อนตัวสู่ชานชาลา ประตูเปิดขึ้น ไม่รู้ว่าแรงอะไรที่ฉุดดึงผมให้เข้าไปที่รถไฟฟ้าคันนั้น ประตูปิดลงผมอยู่ในรถไฟแล้ว แต่เธอยืนอยู่ข้างนอก คล้ายว่าเธออยากบอกอะไรกับผม แต่รถไฟฟ้าก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ พรากผมและผู้หญิงคนนั้น จนต้องแยกจากกันไปในที่สุด
ผมกลับมาถึงบ้าน วางกระปุกนกกระเรียนไว้บนหัวเตียงผม ผมไม่ได้ตั้งใจหยิบมาด้วย และมันติดมือผมมา ผมยังไม่เข้าใจว่าตอนนี้มันอะไรยังไงกันแน่ คล้ายกับว่าเธอต้องการจะให้กับผม ซึ่งผมฝันถึงเธอสองคืน มันก็คล้ายว่าจะเป็นจริง มันคืออะไรกันแน่ แต่ผมรู้ว่าผมชอบเธอเข้าแล้ว ผมรักเธอ หรือว่านี่คือสิ่งที่ความรู้สึกในรักของผมกำลังจะบอกว่า เธอคือ คู่แท้..ของผม
*****************
ผมเจอเธออีกครั้งที่เดิม ผมกำลังพบว่าผมถือช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่อยู่และกำลังจะมอบให้ผู้หญิงคนนั้น เธอรับไว้ด้วยความเต็มใจ บรรยากาศรอบๆมองดูคล้ายกับว่าโลกทั้งโลกเป็นสีชมพู มีกลีบดอกไม้ร่วงลงมาตลอดเวลา ผมรู้สึกว่าผมและเธอต้องการที่จะบอกอะไรสักอย่างแต่เหมือนกันว่ายังไม่สามารถบอกได้ คล้ายว่ายังไม่ถึงเวลา และเมื่อไหร่ละ
ผมลืมตาตื่นขึ้นมา อา..ฝันอีกแล้วหนอ หรือว่าสิ่งที่เราคิดไว้จะเป็นความจริง เธอกับผม อิอิ คิดแล้วนั่งอมยิ้ม วันนี้คงเจอเธออีกแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับเราทั้งคู่อีก อยากรู้จังเลย..
มีแรงบันดาลใจดลให้ผมไปซื้อดอกกุหลาบช่อใหญ่จากร้านหรูร้านหนึ่ง และเดินไปที่สถานีรถไฟ เดินไปตามทางเรื่อยๆ ผมอยากจะให้ช่อดอกไม้นี้กับเธอ และอยากเจอเธอเร็วๆ อยากจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดทั้งเรื่องในฝัน และความจริงให้เธอได้ฟัง เธอคงงงแน่ๆ กับเหตุการณ์ที่ผมได้พบเจออยู่นี้ แต่ผมอยากให้เธอรู้จริงๆนะ ผมเดินตามหาเธอ มองหาเธออยู่นาน จนจะสามทุ่มอยู่แล้วก็ยังไม่เจอเธออยู่ดี หรือว่าเราจะคว้าน้ำเหลว เราคงคิดไปเองมั้งว่าเธอจะต้องมาเจอผมที่นี่ เรื่องทั้งหมดอาจเป็นความบังเอิญมากกว่าที่จะเป็นความตั้งใจ รู้สึกว่าเราโง่จังเลย แต่ผมรักเธอ ผมรักเธอ
ผมยืนหมดกำลังใจอยู่ที่ขอบที่กั้นชานชาลา ผมมองออกไปข้างนอก ผมอยากจะโดดจากตรงนี้ลงไปด้านล่างงั้นเหรอ ไม่หรอก ผมไม่ทำอะไรโง่ๆแบบนั้นแน่ อ้าว เห้ย! ช่อดอกกุกลาบของผม โธ่.. ตกลงไปด้านล่างเสียได้ น่าเสียดายจัง วิ่งลงไปเก็บดีกว่า ..
ทางด้านล่างช่อดอกไม้ตกลงใส่มือของผู้หญิงผมยาวคนนั้น เธอเงยหน้าขึ้นไปดูว่าเป็นของใครก็ไม่เจอ แต่เธอมีความรู้สึกว่าต้องการคืนแก่เจ้าของเขาเพราะดูแล้วมันคงแพงหน้าดู เธอจึงวิ่งขึ้นบันไดไป และทางชายคนนั้นก็วิ่งลงมาข้างล่าง และมาเจอกันตรงกลางบันได
เย้! ผมเจอเธอแล้ว อ้าว แล้วทำไมช่อดอกไม้ของผมไปอยู่กับเธอได้ละ
ของคุณหรือเปล่าค่ะ เธอเอ่ยถามผม
ครับ เธอส่งช่อดอกไม้มาให้ผม ผมก็รับไว้ เธอกำลังจะหันหลังและเดินออกไป
เดี๋ยวก่อนครับ ผมให้คุณ ผู้หญิงคนนั้นรับไว้ ด้วยอาการเขินอายนิดๆ
ขอบคุณค่ะ เธอยิ้มให้ผม ช่างน่ารักเสียจริง ผมชวนเธอไปนั่งคุยกันที่ม้านั่งยาวบนสถานีรถไฟฟ้า ผมเล่าเรื่องทุกอย่างที่ผมพบเจอให้เธอฟังทั้งหมด อย่างที่ผมตั้งใจไว้ เธอ ฟังเรื่องที่ผมเล่าด้วยความแปลกใจ แต่ผมก็เล่ามันไปหมดแล้ว
น่าแปลกจังนะค่ะ เธอพูดขึ้นมา
แปลกยังไงเหรอครับ
คือว่า ฉันก็เจอเหตุการณ์ที่คล้ายกับคุณ เอ๊ะ หรือว่าอาจจะเหมือนคุณเลยละค่ะ คือว่าฉันฝันว่า ฉันได้เก็บสร้อยคอรูปจี้ไม้กางเขนได้รู้สึกว่าจะเป็นที่แห่งนี้แหละค่ะ แล้วฉันก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นของผู้ชายคนหนึ่ง ฉันเลยมอบให้กับเขา พอฉันตื่นขึ้น วันนั้นฉันก็ได้พบกับเขาที่นี่ ก็คือคุณนั่นแหละค่ะ ฉันแปลกใจมากเลย เธอเล่าเรื่องของเธอให้ผมฟัง
แล้วไงต่อละครับ ผมตั้งใจฟังเรื่องของเธออย่างจดจ่อ และตื่นเต้น
แล้วคืนต่อมา ฉันก็ได้ฝันว่าฉันนั่งอยู่กับคุณที่ตรงนี้แล้วก็มีนกกระเรียนบินอยู่รอบๆตัวเรามันสวยงามมากเลยค่ะ แล้วคุณก็บอกกับฉันว่าคุณอยากได้นกพวกนี้บ้าง และได้ขอให้ฉันทำให้คุณด้วย ตื่นขึ้นมา ฉันก็นั่งพับนกพวกนี้และใส่โหลไว้ และจะมาให้คุณที่นี่ ฉันอยากรู้จักกับคุณ เผอิญฉันก็ชนกับคุณก่อนแล้วคุณก็ได้เอามันไปแล้ว ฉันอยากจะบอกว่าฉันทำให้คุณนะ แต่คุณก็ขึ้นรถและจากฉันไปแล้ว ฉันเลยไม่ได้บอกคุณ คืนที่สามฉันก็ฝันว่า คุณเอาช่อดอกกุหลาบมาให้ฉัน ในฝันบรรยากาศมันสวยมากเลยค่ะ ฉันก็แปลกใจว่าทำไมฉันถึงฝันถึงคุณและมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับฉัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันคิดอย่างเดียวว่า ฉันอยากรู้ ว่าคุณคือใคร..
แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผมจะเอาช่อดอกไม้มาให้คุณที่นี่
ฉันก็ไม่รู้หรอกค่ะ แต่ว่าถ้ามาที่นี่ ฉันคงจะได้เจอคุณอีก ฉันรอคุณอยู่นานมากคุณก็ยังไม่มา ฉันเลยเดินลงไปข้างล่าง แต่เหมือนมีแรงบางอย่างสั่งให้ฉันรออยู่ตรงข้างล่างนั้น และช่อดอกไม้ของคุณก็ตกลงมาที่มือของฉัน และฉันก็ได้พบกับคุณนี่แหละค่ะ
ฉันต้องไปแล้วละค่ะ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะค่ะ เธอยิ้มและบอกลาผม
ครับ เธอเดินจากไป ผมมองเธอจนลับตา คงจบแล้วสินะ ผู้หญิงในฝันของผม ผมเจอเธอแล้วคร้าบบบบ
ยัง! ยังไม่จบ ทั้งคู่ยังไม่ได้ทำสิ่งที่ที่ใจของทั้งคู่ต้องการ
ผมคิดถึงเธอก่อนนอน ยังไงเธอก็เป็นคนที่น่ารัก เป็นผู้หญิงที่สวยและอยู่ในใจผม ผมรู้สึกว่า ผมกำลังจะหลับ
บนสถานีรถไฟฟ้าที่เดิม ผมและเธอเหมือนกับว่ากำลังเดินมุ่งหน้ามาหากัน ดูเหมือนเธอจะวิ่งมาหาผมด้วยซ้ำ เธอกับผมนั่งลงบนเก้าอี้ยาว ผมหยิบของสิ่งหนึ่งจากกระเป๋ากางเกงของผมผมจับมือของผู้หญิงคนนั้นไว้ เธอยิ้มแบบอายๆ
คบกับผมเป็นแฟนนะครับ เธอมองหน้าผม
ผมรักคุณ ผมบอกเธอไปแล้ว และสวมแหวนเพชรวงเล็กที่นิ้วอันเรียวสวยของเธอ เธอจับมือผมลุกขึ้น
ฉันก็รักคุณเหมือนกันค่ะ เธอกระโดดกอดผม ผมรู้แล้วว่านี่คือความสุขที่แท้จริงของชีวิต เธอคือสิ่งที่เติมเต็มชีวิตของผม และผมก็เป็นสิ่งนั้นของเธอเหมือนกัน ผมและเธอจูงมือเดินคุยกันไปเรื่อยๆ บนสถานีรถไฟฟ้าที่เต็มชีวิตของผม และผมก็เป็นสิ่งนั้นของเธอเหมือนกัน ผมและเธอจูงมือเดินคุยกันไปเรื่อยๆ บนสถานีรถไฟฟ้าที่เต็มไปด้วยไอรัก และกลีบดอกกุหลาบที่ร่วงหล่นลงมาตลอดทาง
อย่า! อย่าไปกวนให้เขาตื่นเลย ปล่อยเขามีความสุขไปเถอะ ไม่ต้องอยากรู้หรอกว่าเมื่อเขาตื่นขึ้นมาแล้วจะเป็นยังไง
เห็นภาพความฝันของเขาก็รู้แล้วนี่ จริงไหม
7 เมษายน 2547 23:33 น.
เลิฟลี่
ฉันพูด และหวังว่าพลอยคงจะได้ยินเหมือนกัน วันนี้...เป็นวันทำพิธีจบการศึกษาและงานปัจฉิมนิเทศของนักเรียนระดับม.6 แต่ไม่มีชื่อของเพื่อนที่รักของฉัน พลอยชมพู เพราะเขาคงไม่ได้มารับ และคงจะมาไม่ได้ ฉันคิดถึงพลอยจับใจ ฉันมองภาพของพลอยในหนังสือที่มีแต่รอยยิ้มร่าเริง วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ฉันจะได้อยู่โรงเรียนที่นี่ ห้องแห่งนี้ของฉันและพลอย ฉันอยากจะคิดถึงเขาเป็นครั้งสุดท้าย เพราะที่ที่เพื่อนของฉันจากฉันไป คือที่แห่งนี้ โต๊ะข้างหน้าต่างหลังห้องเรียน.
.
ดิฉันมีความยินดีมาก ที่เพื่อนๆ ไว้วางใจให้ดิฉันเป็นหัวหน้าห้องอีก 1 ปีค่ะ ดิฉันจะทำให้ห้องเรียนของเราให้ดีที่สุด ขอบคุนค่ะ ภาพของพลอยที่สดใสร่าเริงในวันแรกของการเรียนการสอนของระดับชั้น ม.6 ห้องของฉัน ห้อง ม.6/10 หรือพูดง่ายๆว่า ห้องเด็กฝรั่งเศส เพราะห้องของฉันเป็นห้องเดียวในระดับชั้นม.6 ที่เรียนภาษาฝรั่งเศส พูดง่ายๆคือเป็นห้องบ๊วยนะแหละค่ะ ใน 2 ปีที่พวกเพื่อนๆในห้องของดิฉันได้อยู่ ม.ปลาย ได้สร้างวีรกรรม และความเดือดร้อนแก่ครูและนักเรียนคนอื่นๆอยู่มากมาย แต่เราไม่ทำให้ชื่อเสียงของสถาบันเสียหายเลยแม้แต่น้อย และพวกเราก็ไม่ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนเลย
ห้องของฉันเรียนแบบเรียนๆเล่นๆ และขอแค่สอบผ่านเท่านั้นเป็นพอใจ บางครั้งก็พากันโดดเรียนบ้าง แต่พวกเราไม่ได้ทำบ่อย พวกเราเมื่ออยู่ในห้องเวลาครูสอนก็ไม่ค่อยจะตั้งใจเรียนเท่าไหร่ ครูอาจารย์ทั้งหลายก็พากันเอือมระอาห้องของฉันเป็นอันมาก จนตั้งฉายาให้ว่า ห้อง เด็กเหลือขอ แต่พวกเราก็ไม่สนใจ พวกเราได้หัวหน้าห้องที่เป็นคนดี ขยันทำงาน มีความรับผิดชอบและเป็นที่รักของเพื่อนๆทุกคนในห้อง ซึ่งคอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนในการเรียนและการสอบ ทำให้พวกเราสอบผ่านรอดตายกันมาทุกครั้ง นักเรียนดีเด่นประจำห้องสุดท้าย 2 ปีซ้อนนั้น แน่นอน พลอยชมพู
.
พลอยกับฉันจะนั่งหลังห้องข้างหน้าต่างเสมอ และคนที่นั่งติดหน้าต่าง คือพลอย เพราะพลอยบอกกับฉันว่า เวลาที่พลอยเหนื่อยจากการเรียน และมองออกไปที่หน้าต่างเหมือนกับได้ผ่อนคลาย เพราะห้องเรียนของฉันอยู่ชั้น 2 และพลอยก็รักหน้าต่างของพลอยมาก เพราะมันมีความสำคัญต่อพลอย
วันหนึ่งในฤดูหนาวตอนเช้า แดดจ้ามาก ส่องเข้ามาในห้อง พลอยเลยต้องปิดประตูหน้าต่างไว้ทุกเช้า และทุกๆเช้าก็จะมีเด็กผู้ชายเล่นฟุตบอลอยู่ที่สนามด้านล่าง แต่วันนี้ มีคนเตะฟุตบอลมาโดนหน้าต่างห้องของเรา ติดกับที่นั่งของพลอย จนบานพับของหน้าต่างหักและหลุดออกมา
เฮ้ย พวกห้องเด็กเหลือขอ ขอโทษนะโว้ย ส่งบอลมาให้พวกกูหน่อยเร็ว รีบนะเว้ย เร็วเสะ ช้าอยู่ได้ อยากมีเรื่องหรือไง ชิ พลอยโกรธมากและลุกขึ้น หยิบลูกฟุตบอลเตะออกไปเสียไกล พวกผู้ชายข้างล่างหัวเสียกันหมด พลอยทั้งโกรธเรื่องหน้าต่างและเรื่องที่ห้องเราถูกดูถูกอย่างรุนแรง
แล้วพลอยจะทำยังไงละทีนี้ เราไปเรียกช่างประจำโรงเรียนมาซ่อมกันเถอะนะฉันพูดกับพลอยไปอย่างนั้น
ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันจัดการเอง และต่อไปนี้นะค่ะเพื่อนๆ ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกว่าห้องเราเป็นห้อง เด็กเหลือขอ อีกแล้ว เพื่อนต้องช่วยกันกอบกู้ศักดิ์ศรีของห้องเรา โดยที่ต่อไปนี้ห้องเราต้องเด่นกว่าพวกเด็กห้องคิงให้ได้ เพื่อนๆช่วยฉันได้ไหมค่ะ พลอยฮึดสู้อย่างแรงกล้า
ได้เลยหัวหน้า เพื่อนๆในห้องตอบรับพลอย พลอยยิ้มและดีใจมากที่เพื่อนๆยอมร่วมมือกับเขาอย่างจริงใจ เพื่อความหวังว่าจะได้เป็น ห้องเรียนดีเด่น กับเขาเสียที
พลอยหอบอุปกรณ์ที่จะใช้ซ่อมหน้าต่างที่หลุดไปนั้นมาจากบ้าน พลอยบอกกันฉันว่า พลอยต้องการจะทำเองเพราะมันเป็นสิ่งที่พลอยรักและหวงแหน และหน้าต่างบานนี้ก็เปรียบเหมือนชีวิตของพลอยเหมือนกัน เพื่อนๆในห้องทราบดังนั้นจึงเข้ามาช่วยพลอยซ่อมหน้าต่าง ไม่นานหน้าต่างก็เสร็จเรียบร้อย และแข็งแรงเป็นเหมือนเดิม โดยที่พลอยกับฉันไม่ได้เหนื่อยมากเท่าไหร่ ภาพที่เพื่อนๆร่วมแรงแข็งขันกันซ่อมหน้าต่างนั้น ฉันรู้สึกปลื้มใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน และพลอยก็คงรู้สึกเช่นเดียวกับฉันเหมือนกัน
พลอยยืนอยู่ที่ขอบหน้าต่างกับฉัน
นี่ณี เธอคิดว่าฉันจะสามารถทำให้ห้องเราเป็นห้องเรียนดีเด่นของม.6 เราได้หรือเปล่า ฉันไม่มั่นใจเลยว่าฉันจะทำได้ แต่ฉันก็อยากจะลองดู เพราะฉันสงสารเพื่อนๆ ที่โดนตราหน้าว่าเป็นพวกเด็กเหลือขอเหลือเกิน
พลอยชมพู ฉันว่าเธอต้องทำได้แน่นอน เพื่อนๆในห้องของพวกเราออกจะให้ความร่วมมือกับเธอขนาดนั้น อย่าว่าแต่ในระดับม.6เลย ห้องเราน่าจะได้เป็นห้องเรียนดีเด่นของโรงเรียนเสียด้วยซ้ำ เพราะว่า มีหัวหน้าห้องที่แสนดี และน่ารักอย่างเธอไงละ
จริงเหรอ?
จริงสิ พลอยยิ้ม ฉันเห็นได้ดังนั้นฉันก็อดยิ้มไปด้วยไม่ได้เหมือนกัน
เวลาช่างผ่านไปเร็วมากอีก 2 เดือนก็จะจบชั้นม.6 และต้องจบการศึกษาจากโรงเรียนนี้ไปแล้ว คิดก็รู้สึกใจหาย เพราะฉันต้องจากเพื่อนที่ฉันรัก และห้องเรียนอันแสนอบอุ่นและประทับใจ ที่มีความทรงจำไว้มากมายทั้งเรื่องดี และเรื่องไม่ค่อยจะดีนัก ในวันนี้ ห้องของเรากล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า เป็นห้องเด็กบ๊วยที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ทั้งด้านกีฬา ด้านดนตรี ศิลปะ และวิชาการ เพราะความเชื่อใจในหัวหน้าห้องอย่างพลอยชมพู และความมุ่งมั่นของทุกคน จากห้องเรียนที่ไม่เอาเรื่องที่สุด มาเป็นห้องเรียนที่ได้ดีขนาดนี้ อาจารย์ที่ปรึกษาหรือว่าแม่ของเรา ก็แสนจะปลื้มใจเป็นหนักหนา ความหวังของพวกเราคงอยู่ไม่ไกลเกินจริง แน่นอน..
และแล้ววันหนึ่งก็มาถึง โรงเรียนของเราก็เป็นอันต้องปั่นป่วนไปทั้งโรงเรียน เมื่อมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นจากสถาบันหนึ่งที่ถือปืนเข้ามายืนอยู่บนสนามฟุตบอล และขู่ต้องการพบนายเกรียงศักดิ์ ที่อยู่ห้องเดียวกับฉัน ว่าต้องเคลียร์ปัญหาให้รู้เรื่อง และฉันก็ทราบว่าคงเป็นเรื่องผู้หญิงอย่างแน่นอน ซึ่งนายเกรียงศักดิ์เขาไม่ได้มาโรงเรียน เพราะไม่สบาย แต่เด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นไม่ยอมจะขอพบให้ได้
เอ่อ เขาไม่มาโรงเรียนจริงๆค่ะ พลอยยืนอยู่ข้างหน้าต่างและตะโกนลงไปข้างล่าง
กูไม่เชื่อ มึงไปลากมันมาหากูเดี๋ยวนี้เลย
ก็ดิชั้นบอกว่าเขาไม่มาก็ไม่มาสิค่ะ ใจเย็นๆก่อนก็ได้ค่ะ
อีนี่พูดวอนซะแล้ว เด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้น เลือดร้อนมากและจ่อปืนไปที่พลอยเพื่อต้องการจะขู่ ทำให้ทุกคนตกใจมาก แต่ทันใดนั้นเอง ปืนก็เกิดลั่นขึ้นมา ปัง! ทำให้กระสุนปืนพลาดไปโดนศีรษะของพลอย
พลอยชมพู!!
ภาพที่ฉันเห็นพลอยล้มลงฟุบคาพื้น เลือดไหลออกจากศีรษะของพลอยเป็นจำนวนมาก เพื่อนๆในห้องช็อกกับเหตุการนี้มาก บางคนถึงกับเป็นลมล้มพับ ฉันตกใจมากที่สุด วิ่งไปกอดพลอยและร้องให้ออกมา ฉันเสียใจมากที่สุดในชีวิตของฉัน พลอยนอนแน่นิ่ง ไม่รู้สึกตัว เพื่อนผู้ชายรีบพาพลอยส่งที่โรงพยาบาล แต่สายไปเสียแล้ว
..พลอยจากเราไปไม่มีวันกลับ..
พลอยที่เป็นที่รักของเพื่อนในห้องและครูอาจารย์ทุกคน ต้องจากไป และไม่มีวันกลับ นี่เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ที่พวกเรายากที่จะทำใจได้ รอยยิ้มที่แสนน่ารัก กิริยาเรียบร้อย พูดจาอ่อนหวาน และเอาใจใส่ดูแลเพื่อนๆ ฉันก็อดเสียใจไม่ได้ หลังจากนั้นฉันก็เสียใจร้องให้ทุกๆวัน พลอยคือความหวังของห้องเราของพวกเราทุกๆคน ใครเล่าจะรู้ ว่าพลอยต้องเดินจากเราไปอย่างเดียวดาย และจากไปอย่างชั่วนิรันดร์.
ฉันมองที่หน้าต่างสุดที่รักของพลอย ก็เห็นคราบเลือดเกาะอยู่บนหน้าต่างบานนั้น ฉันหลับตาลง และอธิษฐานถึงพลอย..
พลอย..พวกเราทำสำเร็จแล้ว