8 มกราคม 2554 23:37 น.
เรไร
ขณะใครทวงถามถึงความหมาย
ความผูกพันมากมายของชายหญิง
แต่บางครั้งเหมือนหลอกลวงถูกท้วงติง
ว่าคือสิ่งไม่จีรังและยั่งยืน
กว่ารู้สิ่งซ่อนนัยได้ประสบ
จะค้นพบก็ตรมสุดขมขื่น
ทำหัวใจเจ็บช้ำทนกล้ำกลืน
กี่ค่ำคืนร้องร่ำน้ำตานอง
ผ่านเวลาหดหู่จึงรู้แจ้ง
ภาพจำแลงรบเร้าเราเจ้าของ
จิตมันเฝ้าตีกรอบอยากครอบครอง
คอยสนองต้นเหตุกิเลสตน
ถึงเวลาสัมพันธ์สะบั้นขาด
พังพินาศฝันดับจึงสับสน
หวังเคยวาดแสนสุขต้องทุกข์ทน
ต้องร้อนรนวุ่นวายทั้งกายใจ
ฤๅ เพราะเราโลภมากอยากเก็บกัก
เอาความรักมาปรนเปรออย่างเผลอไผล
อยากกอดเก็บกั้นขวางอยู่ข้างใน
บอกว่ามันยิ่งใหญ่เพราะใจเรา
แต่หัวใจก็รู้อยู่เต็มอก
ยังโกหกคำโตอย่างโง่เขลา
รักจะอยู่นิรันดร์กาลเนิ่นนานเนาว์
คอยแต่เฝ้าอุปโลกโศกก็ยอม
ขณะใจรู้ซึ้งถึงความหมาย
ที่หญิงชายเคยเขลาเฝ้าถนอม
ใจที่เคยรื่นรมย์กลับตรมตรอม
ทำได้เพียงแค่พร้อมยอมจำนน
5 มกราคม 2554 00:14 น.
เรไร
หลับตาเถิดคนดี.........เพราะราตรีนี้เหน็บหนาว
ดาษดื่นคืนแห่งดาว....วะวับวาวยังเฝ้ามอง
ซุกกายในอ้อมอก.......อย่าวิตกฤๅหม่นหมอง
เมื่อหัวใจใฝ่ปอง........เคียงคู่ครองเพียงสองเรา
ไปสู่ห้วงแห่งฝัน.......เกี่ยวสัมพันไม่เปลี่ยวเหงา
หนาวนั้นจะบรรเทา....และความเศร้าจะไม่มี
ในโลกที่เราสร้าง........ลืมโลกร้างอันบัดสี
ท่ามกลางมิตรไมตรี....เถิดคนดีจงนิทรา
วันพรุ่งอรุณรุ่ง...........ค่อยคิดมุ่งปรารถนา
ปลดปล่อยดวงวิญญาณ์...หลุดพ้นพันธนาการ
หลับตานิทราเจ้า..........หัวใจเราเฝ้าขับขาน
เพลงฝันกังสดาล..........กล่อมดวงจิตนิมิตเรา