26 เมษายน 2553 00:22 น.
เรไร
หากเราใช้ความรู้สึกแล้วนึกย้อน
ความอาทรนาทีนี้มีบ้างไหม
ความโกรธแค้นชิงชัง ฤ ชั่งใจ
คือสิ่งใดหลงเหลือเพื่อจดจำ
เพียงแต่สิ่งดีงามความรู้สึก
ถูกซ่อนลึกเคยปลื้มเคยดื่มด่ำ
ความชิงชังดุจกรอบตามครอบงำ
เพื่อตอกย้ำ ฤ จิตทำบิดเบือน
ปล่อยคืนวันผ่านไปอย่างไร้ค่า
ใช้เวลาหลงละเมอเสมอเหมือน
เพราะชีวิตความฝันอาจฟั่นเฟือน
อาจลืมเลือนความเคยมี..ใช่จีรัง
และเหลือความว่างเปล่าใครเล่ารู้
ซากที่อยู่ระรวยรินอย่างสิ้นหวัง
แค่เศษเนื้อกับห้วงจินต์ที่ภินทร์พัง
จมอยู่กับความหลังฝังอุรา
เราต้องการสิ่งใด หรือ ชัยชนะ
สิ่งใดจะตัดสินให้สิ้นปัญหา
แล้วใครเล่าแพ้พ่ายวายชีวา
หรือจนกว่าร่างจะคืนสู่ผืนดิน
กล่องเก็บความทรงจำอาจนำสู่
บานประตูเปิดกว้างเห็นทางถวิล
อาจเป็นหวังคอยตามทวงจากห้วงจินต์
ยังไม่สิ้นความงามงดให้จดจำ
เราได้ลองคิดทบทวนหรือเปล่า
ว่าในกล่องเก็บความทรงจำเราได้จดจำสิ่งใดบ้าง
สิ่งดี ๆ ..ที่ผ่านมาด้วยกัน
หรือสิ่งเลวร้ายที่ต่างกระทำระหว่างกัน
เราได้ถามตัวเองหรือไม่ว่า...
วันนี้ เวลานี้ เรามีความสุข ในสิ่งที่ทำหรือเปล่า
หรือที่เราทำ เพราะต้องทำ หรือว่าเพราะอะไร
และเราได้ย้อนถามตัวเองอีกครั้งไหมว่า
สิ่งใดที่เป็นความสุขที่เราต้องการจริง ๆ
หรือเพียงสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้
เพียงเพื่อเอาชนะเท่านั้น ... ใครกันจะพ่ายแพ้
หากเราสนทนากันด้วยเหตุผล
ไม่ใช่ด้วยความรู้สึก... เหมือนที่ผ่านมา
เราจะไม่รับรู้เลยหรือว่า สิ่งไหน สิ่งใด ที่ใครต้องการ
...และสุดท้าย
ในสิ่งที่ผ่านมา ในความทรงจำเราเหลือสิ่งดี ๆ
มากน้อยเพียงไหน ให้เราได้ระลึกนึกถึง
.. หรือว่า... ไม่มี
หรือว่าเราจะอยู่อย่างอ้างว้างอย่างทุกวันนี้
จนกว่าจะไม่มี....ลมหายใจ
21 เมษายน 2553 23:00 น.
เรไร
เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นในคืนหนึ่ง
ตกตะลึงว่าไฉนอยู่ในสวน
มีมากมวลพวงพยอมหอมอบอวล
ระรวยกลิ่นเย้ายวนชวนให้ชม
เห็นกุหลาบสีแดงแสลงจิต
ยิ่งหวนคิดพาสะอื้นสุดขื่นขม
เคยเด็ดดอกเชยกลิ่นหอมเฝ้าดอมดม
รื่นภิรมย์ชมชื่นทุกคืนวัน
มะลิซ้อนกลีบบางกลางพุ่มเขียว
แสนเปล่าเปลี่ยวกลิ่นระรื่นยืนโศกศัลย์
คิดถึงพวงมาลัยน้อยร้อยร่วมกัน
ก่อนสัมพันธ์ที่เคยร้อยค่อยค่อยคลาย
เห็นกลุ่มดอกดาวเรืองเหลืองอร่าม
ดูงดงามตระการตาน่าใจหาย
มีดอกหนึ่งเฉาเหี่ยวอยู่เดียวดาย
ก็คงคล้ายหัวใจฉันเมื่อหันมอง
โน่นกระดังงาใกล้โรยกลับโชยกลิ่น
น่าถวิลชื่นชมภิรมย์สนอง
ก็เกินกว่าไขว่คว้ามาครอบครอง
คงจะต้องชำเลืองได้แค่สายตา
มองไกลไกลเห็นโน่นต้นไม้ใหญ่
ต้นอะไรสูงเด่นเป็นสง่า
ดอกสีแดงดอกดอกขาวพราวนภา
ประดับฟ้าหรือดอกงิ้ววาบหวิวทรวง
ระเริงหลงกลางดึกกลางพฤกษา
ช่างเหว่ว้าสุดแสนเพราะแหนหวง
ฤ จิตหลอนใจบอกคอยหลอกลวง
สิ่งทั้งปวง ณ ราตรีหรือผีอำ
คล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่นอีกคืนนี้
เริ่มราตรีผ่านพลบล่วงพลบค่ำ
จะไปสู่สวนมาลีจิตชี้นำ
เพื่อตอกย้ำซ้ำหัวใจในนิทรา