24 สิงหาคม 2551 23:18 น.
เรไร
ในห้วงอารมณ์
บางครั้งสุขสม...........ขื่นขมบางวัน
วันนี้แช่มชื่น..............เริงรื่นขบขัน
พูดพร่ำรำพัน.............เหมือนบ้าก็มี
ในความรู้สึก
บางครั้งบันทึก.............ส่วนลึกใจนี้
เก็บความเงียบเหงา.....เก็บเศร้าโศกี
เป็นบทกวี...................ไว้เตือนสอนตน
ในคำนิยาม
ถึงสิ่งงดงาม.................ความรักสักหน
อาจมีความหมาย.........มากมายเหลือล้น
แต่กับบางคน...............ทุรนทุราย
ในนามความรัก
หากใครรู้จัก..................ยากนักแหนงหน่าย
บางครั้งพร่ำเพ้อ............เพียงเก้อเดียวดาย
ทั้งหญิงและชาย.............อยากได้ครอบครอง
ในความลุ่มหลง
กับเจตน์จำนง.................มั่นคงหมายปอง
แม้มันยากเย็น................อยากเป็นเจ้าของ
สติไต่ตรอง......................ก็มองข้ามไป
ในความอาฆาต
อยากให้พินาศ................จิตวาดหวังไว้
จักต้องตรอมตรม............จวบลมหายใจ
หมดลงเมื่อใด.................เหมือนไร้ปราณี
ในความเกลียดชัง
ก็คงอยู่ยัง.......................ภวังค์ชีวี
หวั่นหวาดผวาตื่น............ดึกดื่นราตรี
ร้อนรนฤดี.......................ดุจไฟสุมทรวง
ในความเคียดแค้น
ยังคงฝังแน่น..................ลึกแสนในห้วง
เจ็บใจเก็บจำ..................ตอกย้ำหลอกลวง
ว่าสิ่งทั้งปวง...................ชั่วช้าต่ำทราม
แล้วในที่สุด
บางสิ่งได้หยุด...............สะดุดคำถาม
ไฟสุมทรวงใน..............ใครทำลุกลาม
สิ่งใดงดงาม..................บนความเกลียดชัง
15 สิงหาคม 2551 23:06 น.
เรไร
๏.. ๑. อดีตกาล
มองท้องฟ้ามืดสลัวดูมัวหม่น
มีเมฆฝนลอยคว้างบดบังแสง
และสายลมโบยโบกกรรโชกแรง
ฝุ่นสีแดงพวยพุ่งฟุ้งกระจาย
จะก้าวเดินก็ท้อแท้มิแลเห็น
ดูยากเย็นพะวงคิดทิศทางไหน
อนาคตมืดมน...สู่หนใด
สิ่งวาดไว้วาดหวังพังทลาย
๏.. ๒. ปัจจุบัน
พลันเมฆฝนคล้อยเคลื่อนเลื่อนลงต่ำ
ละอองน้ำซ่านกระเซ็นเป็นเส้นสาย
เสียงฟ้าฟาดดุจพายุที่ดุร้าย
จนร่างกายหวาดหวั่นพรั่นวิญญาณ
ขอยืนรอสายฝนรอจนกว่า
หากฝนซาฟ้าสวยช่วยสมาน
แผลในใจทุกข์ระทมต้องซมซาน
เพื่อก้าวผ่านความช้ำสุดกล้ำกลืน
๏.. ๓. อนาคต
เพราะชีวิตดิ้นรนทนลำบาก
ความทุกข์ยากถาโถมสุดขมขื่น
ถึงวันนี้เลิกท้อขอหยัดยืน
เพื่อพลิกฟื้นเศร้าโศกเปลี่ยนโชคชะตา
จะเดินสู่อรุณรุ่งวันพรุ่งนี้
ขอสุขีเสพสุขสันต์ด้วยหรรษา
เดินไปตามความฝันมั่นศรัทธา
ก้าวที่กล้าหวังวันนี้ดีกว่าเดิม