23 กรกฎาคม 2550 22:49 น.
เรไร
๏..เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง........พิพากกษา
กายก่อกำเนิดมา.......................ชดใช้
สร้างความปรารถนา...................แตกต่าง
ก้ำกึ่งกำหนดให้..........................ชอกช้ำชีวี
๏..กฎเกณฑ์ธรรมชาติสร้าง.......หญิงชาย
ครองคู่อยู่เคียงกาย....................เท่านั้น
เพศเดียวสิอย่าหมาย.................ครองคู่
หดหู่เพราะกรอบกั้น...................ยากแท้ฝ่าฝืน
๏..กามเทพกลั่นแกล้ง................แผลงศร
ได้พบความอาทร.......................แน่แล้ว
หัวใจเริ่มสั่นคลอน.....................ไหวหวั่น
จิตวาดฝันเพริศแพร้ว................ผ่องแผ้วงดงาม
๏..เหมือนคนสองคนพยามยาม.....ยึดมั่นในความ
ศรัทธาคือสิ่งยืนยัน
๏..อุปสรรคข้างหน้าฝ่าฟัน............จะไปด้วยกัน
สู่ฝันสุดห้วงสาคร
๏..สองคนแหวกว่ายแรมรอน.........กลางสีทันดร
ไปสู่เส้นขอบนภา
๏..ด้วยความสัมพันธ์สัญญา...........แม้ทุกข์ทรมา
ปรารถนาเคียงคู่อยู่ครอง
๏..เพียงเส้นขอบฟ้าที่มอง..............เกินใจหมายปอง
ยิ่งมองยิ่งคว้างห่างไกล
๏..ฟ้า น้ำบรรจบเมื่อใด.................ความหวังตั้งใจ
อาจไม่สวยสดงดงาม
๏..ให้หวังเป็นดังนิยาม...................มิอาจก้าวข้าม
วัฒนธรรมประเพณี
๏..สุดท้ายความฝันเคยมี................แหลกเป็นธุลี
เลือนหายละลายกลางชล
๏..เหลือเพียงเศร้าโศกทุกข์ทน......มิอาจก้าวพ้น
เพราะเส้นขอบฟ้าไม่มี .๚ะ๛
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
แด่สหายในชมรมเส้นขอบฟ้า..ผู้ที่หัวใจมีเพียง...รัก
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
18 กรกฎาคม 2550 23:48 น.
เรไร
เห็นแม่ม่ายป้ายแดงแถลงข่าว
บอกเรื่องราวกล้ำกลืนแสนขื่นขม
ทำชีวิตหม่นหมองต้องตรอมตรม
ร้าวระทมสิ้นสุขทุกคืนวัน
เธอบอกว่าแสนกลุ้มหนุ่มเมียเผลอ
รุมล้อมเธอพยายามสมานฉันท์
ต่างหยิบยื่นนิยามความสัมพันธ์
ต่างแข่งขันชุลมุนจนวุ่นวาย
แต่พ่อม่ายป้ายดำกลับช้ำหนัก
เพราะความรักพังภินท์สิ้นสลาย
ต้องหมดความรื่นเริงเสียเชิงชาย
เป็นพ่อม่ายป้ายดำจำต้องทน
ฉันเพียงแค่คนเศร้าขี้เมาหน่อย
เธอจึงปล่อยเข้าวัดมันขัดสน
แค่ชอบเล่นไฮโลโถหน้ามล
แค่ชอบพ่นควันบุหรี่เหมือนขี้ยา
แค่บางครั้งบางทีเผลอตีศอก
สับขาหลอกเธอนิดก็ติดฝา
แต่ก็ยังรักเธอเสมอมา
แม้นเวลาล่วงผ่านนานเหลือเกิน
เห็นแม่ม่ายป้ายแดงแถลงข่าว
จะถามดาวน์ไม่ถนัดก็ขัดเขิน
ขอดาวน์น้อยผ่อนนานให้มันเพลิน
เพราะว่าเงินหายากหากเข้าใจ
10 กรกฎาคม 2550 01:01 น.
เรไร
ก่อนเธอจะหลับตานิทราฝัน
จะหวาดหวั่นอ้างว้างมีบ้างไหม
เพราะว่าปล่อยดวงจิตคิดถึงใคร
จนสับสนหัวใจหรือไม่มี
หรือว่ามีใครเขาเฝ้าถนอม
คอยขับกล่อมร้องบรรเลงเพลงดีดสี
พร้อมลำนำขับขานกานท์กวี
จึงฝันดีเป็นประจำทุกค่ำคืน
ใครคงบอกฝันดีราตรีสวัสดิ์
ได้สัมผัสรัตติกาลอันหวานชื่น
มิเหลือความเจ็บช้ำเคยกล้ำกลืน
ผวาตื่นหมองหม่นกระวนกระวาย
ก่อนเธอจะหลับตานิทราฝัน
คิดถึงฉันบ้างเป็นไรไม่เสียหาย
อยากให้เธอเปล่าเปลี่ยวและเดียวดาย
ให้ฝันร้ายถึงคนรักเพียงสักคืน
4 กรกฎาคม 2550 23:45 น.
เรไร
ฉันเข้าใจเธอบ้างในบางสิ่ง
ความเป็นจริงมากมายที่ไม่รู้
เพียงแค่ฉันเป็นเงาคอยเฝ้าดู
และยืนอยู่ห่างห่างอย่างห่วงใย
เห็นตัวเธอวุ่นวายในเมืองหลวง
โดนเล่ห์ลวงโถมทับเกินรับไหว
เหมือนางฟ้าจำแลงกลางแสงไฟ
กับหัวใจยับเยินเกินเยียวยา
จากวันคืนเป็นเดือนที่เลื่อนผ่าน
ยิ่งร้าวรานยิ่งนักยากรักษา
เหมือนล่องลอยบนโลกแห่งโชคชะตา
รอให้ฟ้ากำหนดวันหมดกรรม
ฉันเข้าใจเธอบ้างเพียงบางสิ่ง
หากเธออิงโชคชะตามันน่าขำ
ความทุกข์เกิดจากใจ..ใช่..ใครทำ
เรื่องชอกช้ำผ่านมาอย่ากังวล
มาสัมผัสค่ำคืนแสนชื่นฉ่ำ
ของหยดน้ำโปรยปรายเป็นสายฝน
เหมือนพรจากเทวาฟ้าเบื้องบน
เพื่อชะความหมองหม่นให้พ้นไป
พออรุณรุ่งฟ้าอุษาสาง
คงมองเห็นหนทางสว่างไสว
เพียงอย่าหวั่นท้อแท้แก่สิ่งใด
เริ่มต้นใหม่อีกหนเมื่อฝนซา