21 ธันวาคม 2550 00:20 น.
เรไร
๏...ฉันก็คนเพียงคนหนึ่ง...................เคยเพ้อรำพึง
ครุ่นคิดคะนึงมิวาย
๏...โดดเดี่ยวเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย.....เมื่อหวังกลับกลาย
สิ้นสลายรักร้างห่างลา
๏...จำทนโอดโอยโหยหา....................เก็บกลืนน้ำตา
เหว่ว้านั่งเศร้าเฝ้าคอย
๏...ยากจักหลุดพ้นปลดปล่อย..............เลอะเลือนเลื่อนลอย
กอดเก็บเจ็บช้ำคร่ำครวญ
๏...หวังว่าสักวันคืนหวน.....................กรุ่นกลิ่นอบอวล
เชิญชวนความรักกลับคืน
๏...รอคอยเคียงคู่ขมขื่น....................เดียวดายหยัดยืน
เริงรื่นอ่อนล้าโรยแรง
๏...เวลาบ่งชี้ชัดแจ้ง............................ใจเคยเคลือบแคลง
พลันแสดงถึงความเป็นจริง
๏...ว่าในทุกสรรพสิ่ง............................ยากนักพักพิง
แอบอิงจะฝากชีวี
๏...เวลาผ่านไปเร็วรี่...........................จากเดือนเป็นปี
ไม่มีวันย้อนคืนมา
๏...ฉันแค่เป็นคนธรรมดา...................ผันผ่านเวลา
รับรู้คุณค่าทรมาน
๏...อยากเล่าประสบการณ์...................เรื่องราวที่ผ่าน
หนุ่มสาวร้าวรานจงฟัง
๏...ความรักก่อเกิดความหวัง...............แม้ว่าภินท์พัง
อยู่ยั้งยืนสู้ต่อไป
๏...ชีวิตมิเป็นของใคร.........................ทั้งตัวและใจ
สุขทุกข์ตัวเราเลือกเอง ๚ะ๛
14 ธันวาคม 2550 14:45 น.
เรไร
ขออย่าเปิดประเด็นเดี๋ยวเป็นข่าว
สร้างเรื่องราวใหญ่โตพิโธ่เอ๋ย
ค่อยพาทีบอกความเถิดทรามเชย
คนคุ้นเคยทุกค่ำคืนใช่อื่นไกล
อย่ายื้อแย่งยื้อยุดฉุดกระชาก
เป็นขี้ปากประชาชีขี้สงสัย
อย่าทะเลาะเบาะแว้งจนแคลงใจ
วิวาทกันทำไมให้ป่วยการ
หยุดเถิดนะอย่าแสดงความสามารถ
เก่งฉกาจเรื่องถนัดประหัตประหาร
ทั้งร้อยแปดรู้ดีวิธีทรมาน
ความเชี่ยวชาญเหมาะเจาะเฉพาะทาง
ทั้งมีดปืนทุกศาตราและยาพิษ
ความเคียดแค้นฝังจิตคิดสะสาง
เอามีดเชือดหรือลั่นไกให้วายวาง
ไม่ขัดขวางจะลงโทษจงโปรดฟัง
ใช่จะมาคร่ำครวญชวนสงสาร
อ้างทำทานมารยาน้ำตาหลั่ง
ขออย่างเดียวให้น้องหญิงจงจริงจัง
กลัวเธอพลั้งเผลอประมาทพลาดจุดตาย
13 ธันวาคม 2550 18:28 น.
เรไร
ได้ยินคนนินทากันหนาหู
ฉันอดสูน้ำตาตกเพราะอกหัก
ยิ่งได้ฟังยิ่งงงว่าหลงรัก
ยิ่งมึนหนักเจียนว่าจะบ้าตาย
เพื่อนมันถามเช้าเย็นด้วยเป็นห่วง
ใครหนอลวงเรไรให้เสียหาย
ตัดสัมพันให้สลดหมดเชิงชาย
จนร่ำไห้ฟูมฟายป้ายน้ำตา
วันนี้ขอชี้แจงแถลงข่าว
แก้เรื่องราวที่เกิดบ้างเถิดหนา
ใช่ร้อนตัวถูกติฉินคนนินทา
อยากรู้ว่าคนไหนหรือใครกัน
ที่ทำให้หลงละเมอต้องเพ้อพร่ำ
ต้องเจ็บช้ำเมื่อหลับตานิทราฝัน
ถ้าใครรู้โปรดด้วยช่วยยืนยัน
คนสำคัญนั้นหรือคือผู้ใด
6 ธันวาคม 2550 10:25 น.
เรไร
ฤ สยามเวลานี้กลียุค
ชาวประชาสิ้นสุขทนทุกข์เข็ญ
ใช้ชีวิตยากแค้นแสนลำเค็ญ
มองไม่เห็นอนาคตที่งดงาม
ฤ ถึงกาลย่อยยับต้องดับสูญ
ต้องอาดรูทั่วถิ่นแผ่นดินสยาม
เหมือนพระเพลิงแห่งทุกข์ได้ลุกลาม
เพราะคนทรามและพวกพ้องจะครองเมือง
รัฐธรรมนูญของชาติประกาศใช้
ฉบับใหม่ปรับปรุงหวังฟุ้งเฟื่อง
จะนำพาประเทศไทยให้รุ่งเรือง
นามกระเดื่องสมถวิลแผ่นดินทอง
แต่มองเห็นนักการเมืองผู้เปรื่องปราชญ์
น่าอนาถเหมือนหมาเดือนสิบสอง
ผสมพันธุ์อย่างเดียวหวังเกี่ยวดอง
รวมพวกพ้องผูกโยงพวกโกงกิน
นโยบายบรรเจิดแสนเลิศหรู
น่าอดสูคำโป้ปดหมดหนี้สิน
ให้อยู่ดีมีสตางค์ทั้งแผ่นดิน
ปราบกังฉินฉ้อราชพ้นชาติไทย
มันหวังแต่ชี้นำด้วยคำพูด
โจรสวมสูทสาระแน ฤ แก้ไข
คงเป็นแค่ผู้ทนคนจัญไร
อนาคตฝากไว้อย่างไรกัน
การเลือกตั้งปลายปีคงชี้ทาง
ส่องสว่างหรือพบกับความคับขัน
เราคนไทยตรองดูคงรู้ทัน
อย่าให้มันซื้อเสียงก็เพียงพอ
3 ธันวาคม 2550 19:09 น.
เรไร
รู้เพียงความเคลื่อนไหวในอากาศ
มิสามารถจับต้องหรือมองเห็น
สัมผัสได้บางเวลาว่าเยือกเย็น
บางครั้งเป็นไออุ่นละมุนละไม
มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มีอยู่
เราต่างรู้แต่คงยังสงสัย
แค่บางครั้งเรายังมิเข้าใจ
บางสิ่งไซร้มิอาจมองด้วยสองตา
เราจึงแกล้งทวงถามความรู้สึก
แต่สำนึกโอดโอยทำโหยหา
เพียงพูดเพ้อพร่ำพรอดตลอดเวลา
เสมือนว่าโลกนี้ไม่มีกัน
อยู่ที่เรายินยอมพร้อมหรือเปล่า
ที่สองเราจะนิยามความใฝ่ฝัน
กับสายลมบางบางระหว่างวัน
เพื่อยืนยันเปิดเผยว่าเคยมี