10 มกราคม 2550 19:58 น.
เรไร
ผมมีเพื่อนสับสนอยู่คนหนึ่ง
ไร้ที่พึ่งร้อนรุ่มกลุ้มปัญหา
เพราะเงียบเหงาร้าวรานคนบ้านนา
ไร้คนมาแลเหลียวจะเกี่ยวดอง
ยิ่งอยู่นานทุกข์ทนจนหัวเสีย
อยากมีเมียคอยเฝ้าเป็นเจ้าของ
จะถนอมเชิดชูเป็นคู่ครอง
แต่ก็ต้องหมองหม่นไร้คนเคียง
เป็นก็แค่ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
สอนแต่เด็กเรียนหนังสือไร้ชื่อเสียง
ไม่มีใครใฝ่ปองหรือมองเมียง
อยู่กับเถียงกับทุ่งนาเวลาเย็น
มีบ้างไหมหญิงสาวชาวเมืองหลวง
ไม่หลอกลวงดวงแดจะแลเห็น
ร่วมฝ่าฟันความลำบากยากลำเค็ญ
มาคอยเป็นลมหายใจให้แก่กัน
ครูจะพาไปวัดกราบหลวงพ่อ
เพื่อไปขอฤกษ์งามยามสู่ขวัญ
ผูกข้อไม้ข้อมือสื่อสัมพันธ์
คือตัวแทนคำมั่นสัญญาใจ
มาสู่ยังเถียงนาหลังคาจาก
ของคนยากคือที่กินถิ่นอาศัย
มีเพลงกล่อมก็เพียงเสียงเรไร..(ไม่แอบดูแน่นอน)
ที่ร่ำร้องก้องไพรในค่ำคืน
หากว่ามีดวงจิตคิดสงสาร
เพื่อเป็นทานคลายระทมตรมสุดฝืน
ช่วยบรรเทาเจ็บช้ำสุดกล้ำกลืน
เพียงหยิบยื่นหัวใจให้แก่กัน
กกกะโดนโพนสะเดาเคยเศร้าหงอย
ครูใหญ่คอยพร่ำเพ้อละเมอฝัน
เถียงนาร้างกลางแจ้งแสงตาวัน
รอรำพันบอกรักใครสักคน
5 มกราคม 2550 14:45 น.
เรไร
ประกาศอีกครั้งสุดท้าย
จากใจผู้ชายคนนี้
ถึงคุณสุภาพสตรี
อย่าหนีอย่าโกรธโปรดฟัง
เถอะน่ะฉันมาขอร้อง
โปรดตรองคิดอีกสักครั้ง
ถึงแม้เธอจะเกลียดชัง
แค่หวังขอความเข้าใจ
ขออย่าสร้างเรื่องเคืองขุ่น
ว้าวุ่นปวดขมับมิไหว
หึงหวงยุ่งยากมากไป
ระวังไว้จะเช็ดน้ำตา
หากฉันรำคาญมากนัก
แปรพักตร์เปลี่ยนแปลงปรารถนา
เบื่อสตรีร้อยเล่ห์มารยา
เข้าป่าไม้เปลี่ยวเดียวกัน