6 กรกฎาคม 2548 22:04 น.
เรไร
ฉันรู้จักนิยามความเจ็บปวด
มันร้าวรวดกล้ำกลืนแสนขื่นขม
ทั้งชีวิตเปลี่ยวเหงาเศร้าตรอมตรม
ก็เพียงก้มหน้าพร้อมยอมจำนน
ฉันมิอยากให้ใครมารับรู้
สิ่งอดสูให้สังเวชถึงเหตุผล
อยากเก็บไว้สถิตย์ติดกมล
แม้นหมองหม่นทนบ้างช่างปะไร
ขอนำความหวังดีที่เธอมอบ
แทนสิ่งตอบเมตตาอัชฌาศัย
กรุณาจงรับเอากลับไป
ฉันมิได้อยากเฉือนเหมือนแบ่งปัน
ฉันไม่อยากให้ใครได้รู้จัก
มันจะหนักจะหน่วงถ่วงความฝัน
ความเจ็บปวดขอไว้มิให้กัน
อยู่อย่างนั้นตรงนี้ที่คุ้นเคย
5 กรกฎาคม 2548 06:48 น.
เรไร
รักเอ๋ยรัก
ยามประจักษ์สลักลงตรงดวงจิต
ใครมิเคยลิ้มลองดั่งต้องพิษ
มันมีฤทธิ์ยากนักจะหักใจ
คอยเสนอปรนเปรอใคร่สนอง
ตามครรลองนิยามตามหลงใหล
ปรารถนาซับซ้อนซ่อนสิ่งใด
คืออะไรที่เธอเพ้อนิยาม
รักคือความอุ่นใจเมื่อใกล้ชิด
แนบสนิทหทัยยังไหวหวาม
รักก็คือแสงเงาที่เฝ้าตาม
คอยทวงถามเร้ารุกทุกเวลา
หรือรักคือการให้ไม่หวังผล
มิได้ยลเหมือนเพาะพันธุ์พฤกษา
ได้เก็บเกี่ยวเมื่อดอกผลิออกมา
ปรารถนาเชยชมสมฤดี
หากทั้งรักทั้งเกลียดปนเคียดแค้น
ก็สุดแสนรันทดหมดราศรี
ต้องทุกข์ทนหมองมัวชั่วชีวี
แล้วจะมีรักไว้ทำไมกัน
บ้างพบพักตร์รักหวานปานน้ำผึ้ง
มันตราตรึงอุราพาสุขสันต์
ปลอบประโลมขมขื่นทุกคืนวัน
มิหวาดหวั่นมั่นไว้หาใดปานเทียม
เมื่อความรักถึงคราต้องลาจาก
เหมือนกระชากความสุขสนุกสนาน
ร้าวระทมวิปโยคโศกดวงมาน
ทรมานสิ้นหวังทั้งใจกาย
หรือรักคือสุขใจเมื่อได้รัก
แม้นยากจักเคียงข้างดั่งใจหมาย
ยังดำรงค์คงอยู่มิรู้วาย
มิกลับกลายปลี่ยนนิยามคำรักเอย
1 กรกฎาคม 2548 18:07 น.
เรไร
กลอนดอกสร้อย
อัลเอ๋ยอัลมิตรา
รจนานักเลงน่าเกรงขาม
โดนกระเซ้าเย้าแหย่แม่คนงาม
พอใครถามทำบ่ายเบี่ยงเลี่ยงบาลี
เปิดประเด็นร้อนฉ่าขึ้นมาใหม่
ทำซ่อนนัยคมขำซ้ำป้ายสี
ตอบไม่ตรงคำถามตามวลี
แกล้งทู่ซี้ถูไถ เอ๊ะ!! ไงกัน
แหมม๊!! แก้ตัวเลี่ยงความน้ำขุ่นขุ่น
โถแม่คุณเป็นเอกเรื่องเสกสรร
มุขหลอกเด็กโฉมตรูโถ่!!..รู้ทัน
โบ้ยไปนั่นเปลี่ยนเรื่องให้เคืองใจ
หาว่าเรารวมกลุ่มมารุมเกี้ยว
เรามิเกี่ยวงงนักชักสงสัย
ถูกพาดพิงดังตีปลาที่หน้าไซ
อ๋อนึกได้อยากชวนมาเป็นนักเรียน
ก็รู้ตัวเรื่องกลอนนั้นอ่อนนัก
หากนั่งตักช่วยฝึกปรือจับมือเขียน
ถ้าเป็นครูคนนี้ฉันจะหมั่นเพียร
ขยันเรียนโคลงกลอนอักษรเอย 55555
มัวอายครูบ่รู้.......................วิชา
คอยไถ่ถามปัญหา...............จักได้
ความกระจ่างในปัญญา.......เป็นเลิศ
ครูท่านพร้อมสอนให้..........หมดไส้หมดพุง
หลงทางชีวิตนั้น.................เสียเวลา
หลงแต่อัลมิตรา..................เมื่อนั้น
คงสลดโศกา.......................หดหู่
มีสิ่งใดขวาง........................สุดท้อทรมาน
คำโบราณกล่าวอ้าง..............เอาไว้
อายภริยาเมื่อใด...................นั่นแล้ว
ทายาทสืบเชื้อไข..................คงยาก
พงษ์เผ่าคงมิแคล้ว...............หมดสิ้นนามสกุล
ถ้าหากให้ถูกต้อง.................ตามตำรา
ควรเลือกภรรยา...................อย่ากลุ้ม
เป็นครูนั่นแหละหนา.............แสนสุข
นี่สิถึงจะคุ้ม.........................บุตรพร้อมวิชา
1 กรกฎาคม 2548 00:01 น.
เรไร
๏ เปรื่องปราชญ์รอบรู้วิธีการ.............ดนุกวะสิมหศาล
ใครมิเปรียบปาน..............................ฤ เทียมตน
ยกย่องเยินยอวิเศษล้น......................บ๊ะ ขณะกวินิพนธ์
ถ้อยประพันธ์ผล................................และโคลงกลอน
เปี่ยมด้วยอัตตานิรันดร.....................ฤ ศฐอคติสอน
แสร้งวิจารณ์ - ก่อน...........................พิฆาตพลัน
วาจาเหยียดหยามประนามกัน............อุปธิอรติครัน
ยิ่งขย่มขวัญ......................................กระเจิงหนี
แท้ด้วยจิตริษยามี..............................ทิฐิคติวิมตี
นี่ ฤ เมธี...........................................อนาถจริง
จิตวิญญาณ์ดั่งอธรรมสิง.....................ศุภะ ณ หทยทิ้ง
ไปสิพักพิง.........................................อเวจี ๚ะ๛