24 มิถุนายน 2548 01:05 น.

ปีกหัก

เรไร


ตัดไม่ตาย.......ขายไม่ขาด
สายสวาท.......ยังไม่สิ้น
ชลนา.............พาหลั่งริน
โศกถวิล..........ผินทรวงใน

เมื่อความรัก....มาหักอก
น้ำตาตก.........ซกซกไหล
มันเจิ่งนอง......ท่วมห้องใจ
หามีใคร..........ให้เหลียวแล

ณ วันนี้...............ไม่มีเขา
คงเปลี่ยวเปล่า....เศร้าทรวงแท้
รักบิดเบือน.........ทำเชือนแช
ในดวงแด............แพ้พ่ายพิษ

คงจะยาก...........หากรักษา
เกินเยียวยา........ผวาจิต
มันร้ายแรง..........คอยแผลงฤทธิ์
เฝ้าตามชิด..........ติดกมล

ดังวิหค.............นกปีกหัก
อยากหยุดพัก....กันสักหน
รักษากาย..........หายทุกข์ทน
ค่อยคิดค้น.........ดั้นด้นกัน

พอเจ็บหาย.......กายเริ่มแกร่ง
มีเรี่ยวแรง.........อย่างแข็งขัน
คืนเวหา............นภาพลัน
ตามรักนั่น.........กันอีกที
				
23 มิถุนายน 2548 20:55 น.

อยู่ตรงนี้

เรไร


ฉันอยากอยู่เฝ้าโยงกับโถงถ้ำ
ไม่อยากนำสังขาร์มันไปไหน
อยู่ตรงนี้มาตลอดมันปลอดภัย
แม้นร้างไร้ไปบ้างก็ช่างมัน

ไม่อยากพบปะคนด้วยจนจิต
ไม่อยากคิดเอาใจหรือใครนั่น
เพราะไม่รู้ดีร้ายไม่เท่าทัน
เพราะฉะนั้นอย่ากระชากลากไปเลย

ปล่อยฉันอยู่อย่างนี้คงดีกว่า
ขอเวลามองทุกสิ่งอย่างนิ่งเฉย
ถึงไม่ทันสมัยใครว่าเชย
ฉันคุ้นเคยชินชามาช้านาน

อยู่กับสิ่งรอบข้างอยู่อย่างเก่า
ถึงเงียบเหงาไร้สุขสนุกสนาน
ขอจ่อมจมเรื่องราวอันร้าวราน
ให้มันผ่านล่วงเลยเหมือนเคยมา

เธอจะไปกับใครก็ไปเถิด
ขอให้เพลิดเพลินใจที่ไขว่หา
จงรื่นเริงบันเทิงสุขทุกเวลา
เพียงขออย่าเหลียวหลังให้กังวล

ให้ฉันอยู่อย่างฉันทุกวันนี้
จะไม่มีคำรำพึงถึงเหตุผล
ฉันเลือกเองฉันรู้ว่าค่าของตน
อย่ามาสนทำทีมีเยื่อใย
				
16 มิถุนายน 2548 08:42 น.

สิ้นภิรมย์(บทอัศจรรย์)

เรไร


ณ ริมฝั่งนทีสีทันดร
ตะวันรอนเย็นย่ำใกล้ค่ำแล้ว
ตรงขอบฟ้ามองเส้นไม่เห็นแนว
พอสิ้นแววรวิลานภาลัย

ราตรีนั้นมีเจ้าเนาว์แนบข้าง
มิเกินห่างใต้แสงดาวพราวไสว
ชี้ชวนชมดาราบนฟ้าไกล
ละเลื่อมไหววิบวับงามจับตา

ชิดเชยพักตร์แก้มนางพลางจุมพิต
แนบสนิทห้วงสวาทปรารถนา
ชื่นภิรมย์ใต้แสงแห่งจันทรา
ดาวอิจฉาเดือนจ้องมองคู่เรา

ลมสวาทโหมพัดสะบัดพลิ้ว
สำเภาลิ่วกางใบวิ่งทิ้งอับเฉา
ลมกระโชกบ้างก็ซัดพัดแผ่วเบา
จนข้ามเข้าเวิ้งกว้างทางนที

แล่นใกล้หินโสโครกก็โยกหลบ
เลี้ยวตลบชักหางเสือเพื่อแล่นหนี
เย้ทางซ้ายย้ายทางขวาไม่รอรี
โดนเสียดสีเกือบตายวายชีวิน

พระพายโหมพัดกระโดงเชือกโยงขาด
เรือก็พาดขัดสันดอนชะง่อนหิน
ระลอกคลื่นโถมถาธาราริน
เรือก็ผินผงะลงในคงคา

มีแต่พายด้ามน้อยต้องคอยจ้ำ
ค่อยแจวลำกำปั่นหวั่นผวา
เมื่อใดหนอถึงฝั่งพสุธา
มิรอช้าเร่งจังหวะไม่ละวาง

ดังพายุพิโรธแสนโกรธเกรี้ยวขึ้ง
เสียงอื้ออึงลมซัดพัดเรือขวาง
มองเห็นฝั่งลับลับแทบอับปาง
พอลมร้างก็เสือกเสยเกยหาดทราย

แต่ที่ฝั่งฝันวันนี้ไม่มีเจ้า
แม้แต่เงาเลือนลางค่อยจางหาย
ยังตราติดคิดถึงซึ้งมิคลาย
คงจำไว้คืนสุดท้ายได้กอดเกย

ธารน้ำตาพร่างพรูลงสู่พื้น
โศกสะอื้นอาลัยใจเจ้าเอ๋ย
สุดเหว่ว้าแก้วตามาละเลย
ทำเมินเฉยแสร้งเสเล่ห์รักลวง

จิตร่ำร้องโหยหวนจวนเจียนบ้า
เมื่อศรัทธาภักดีที่แหนหวง
แหลกสลายสิ้นรักที่ปักทรวง
ใจทั้งดวงสลดโศกโศกา

ชลนาเนืองนองทั้งสองแก้ม
จิตเคยแจ่มกลับวิตกอกผวา
เคยชิดเชยมิ่งขวัญกลัยา
บัดนี้มาเหินห่างร้างแรมรอน

ค่ำคืนเคยร่วมเตียงเคียงเขนย
เป็นคู่เชยชิดชมสมสมร
ราตรีนี้ไร้คู่คลออรชร
ทนกอดหมอนสะอื้นหาด้วยอาลัย				
15 มิถุนายน 2548 20:07 น.

ทำได้ฤา

เรไร


เมื่อครั้งฉันยังเยาว์ดูเขลาโง่
มองเพื่อนโอ่ของเล่นเป็นของใหม่
เฝ้ารบเร้าแม่พ่อขอเรื่อยไป
ก็อยากได้อย่างเพื่อนเอาเหมือนมัน

แม่บอกให้เก็บเงินค่าขนม
ค่อยสะสมตั้งใจเอาไว้มั่น
อดของหวานข้าวปลาสารพัน
อยู่หลายวันจึงได้ไปซื้อมา

คือรางวัลยิ่งใหญ่มื่อได้เห็น
เป็นของเล่นที่ใจปรารถนา
อาจจะดูเล็กน้อยด้อยราคา
มากคุณค่ายามนั้นที่ฉันมี

เล่นไปนานหลายวันมันชำรุด
เดี๋ยวล้อหลุดเมื่อเข็นกระเด็นหนี
คอยซ่อมแซมให้คืนกลับสภาพดี
กลัวของที่แสนถวิลจะภินทร์พัง

เพื่อนคนเก่าว่าหวงแหนของแสนรัก
แต่ทำหักเสียหายก็หลายครั้ง
มันว่ารักของเล่นเป็นจริงเป็นจัง
เห็นมันตั้งทิ้งไว้ไม่เคยซ่อม

นี่มันรักของมันยังไงหว่า
ไม่รักษาแลดูทนุถนอม
แม้หางตามองไปยังไม่ยอม
คงมิพร้อมดูแลแม้หัวใจ

ผ่านเวลาวัยเยาว์ที่เขลาโง่
ฉันเติบโตเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
มีความรักอิ่มเอมเต็มฤทัย
มิยอมให้ภัยพาลมาผลาญมัน

นึกถึงเพื่อนร่วมวัยในวันเก่า
จะเงียบเหงามีทุกข์หรือสุขสันต์
จักถนอมความรักปักชีวัน
ได้ไหมนั่นหรือเหมือนก่อนตอนวัยเยาว์

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ผมเห็นเด็กผู้หญิงคนนึง เธอมีตุ๊กตาตัวน้อย
เคยแกล้งขอยืมเธอ เธอบอกว่าไม่ให้ยืม
มันเป็นของรัก เป็นสิ่งที่เธอรัก
แต่เมื่อใดที่เธอไม่พอใจ หรือโกรธ
หลายต่อหลายครั้ง เห็นเธอ เอาตุ๊กตาตัวนั้น
ฟาดนั่นฟาดนี่ จนแขน ขาขาด เสื้อผ้าเลอะเทอะ
แต่เธอก็ยังคงอุ้มมันไปไหนมาไหนด้วยเสมอ

ผมอดสงสัยไม่ได้ แปลกใจในสิ่งที่เธอทำ
กับสิ่งที่เธอบอกว่ารักอย่างนั้นหรือ
.เอ!!...หรือผมคิดมากเกินไปในในสิ่งที่ได้เห็น ที่ได้ยิน
มากกว่าเชื่อในประสาทสัมผัสรับรู้ในตัวเอง

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
				
15 มิถุนายน 2548 13:04 น.

ซาก(ที่)ช้ำ

เรไร

มองเห็นซากชีวินที่สิ้นสุข
ดังอมทุกข์วิปโยกดูโศกศัลย์
หมดราศีราคีจับทับชีวัน
ความจาบัลย์ถมให้ใจระกำ

ถูกประณามหยามเหยียดให้เคียดแค้น
คงฝังแน่นเหมือนรอยมีดมากรีดซ้ำ
ตรงแผลเก่าเตือนติดตามความทรงจำ
มาเหยียบย่ำซ้ำเติมเกินจะทน

แค่กากเดนเศษซากกากชีวิต
มาย้ำจิตกันไยให้หมองหม่น
ที่แล้วมายังย่ำยีนี่หรือคน
หรือได้พ่นโพทนาด่าว่าใคร

ความผิดพลาดนิยามความพ่ายแพ้
ในดวงแดติดตราบาปถึงชาติไหน
มาตอกย้ำทิ่มแทงแยงแผลใจ
หรือจะให้มรณาชีวาวาย

มิได้มาวิงวอนใครให้สงสาร
ถึงลมปราณสิ้นไร้อย่าได้หมาย
ว่าเศษเดนเสิ้ยวในหทัยกาย
จะสลายล่วงลับกับคำคน

ถึงเป็นเพียงซากช้ำที่ซ้ำซาก
เห็นแค่กากช่างปะไรอย่าไปสน
ค่าความดีที่สถิตย์ติดตัวตน
พาข้ามพ้นเสพย์สุขสิ้นทุกข์ใจ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเรไร