30 มิถุนายน 2548 12:12 น.

ร้องไห้กับเดือน

เรไร


แสงเดือนส่องสว่างกลางท้องฟ้า
หนุ่มบ้านนานั่งเศร้าเฝ้าคิดถึง
คำสาบานหวนคิดยังติดตรึง
ในครั้งหนึ่งจะเคียงข้างไม่ห่างเลย

ว่าเราสองครองคู่อยู่เคียงข้าง
มิจืดจางห่างเหินทำเมินเฉย
เป็นดังสายลมอุ่นที่คุ้นเคย
เป็นคู่เชยชิดกายใต้แสงเดือน

แต่ว่าค่ำคืนนี้ไม่มีเจ้า
ฉันคงเหงาอุราหาใดเหมือน
คำสัญญารักกันนั้นลางเลือน
ดั่งดวงดาวไร้เพื่อนเมื่อเดือนลา

เพียงไม่กี่ราตรีก็คืนกลับ
ดาวคอยรับเพื่อนขวัญยามจันทร์จ้า
แต่ฉันนี้นั่งเศร้าเจ้าไม่มา
โศกโศการ่ำไห้ใต้แสงเดือน				
29 มิถุนายน 2548 14:17 น.

ทนเหงาทำไม

เรไร


เฝ้ามองน้องนาง
อยู่ใกล้ไม่ห่าง..................แค่ข้างฝากั้น
เพียงพบสบตา................อุราไหวหวั่น
ยิ้มแย้มให้กัน...................ทุกวันชื่นบาน

ต่างอยู่คนเดียว
จิตใจเปล่าเปลี่ยว.............เฉาเหี่ยวสงสาร
หัวใจดวงน้อย.................เงียบหงอยอยู่นาน
ทนทรมาน.......................ร้าวรานทรวงใน

ส่วนน้องนางเล่า
จะเงียบจะเหงา................จะเศร้าบ้างไหม
เมื่อยามราตรี...................หรือมีผู้ใคร
แนบติดชิดใกล้................ว่าไงคนดี

ห้องเราติดกัน
ชวนมาแบ่งปัน................ความฝันที่มี
ความทุกข์ชื่นขม..............หมองตรมชีวี
แบ่งกันกับพี่.....................พร้อมพลีเพียงนาง

ย้ายมาเถอะเจ้า
สิ้นเปลืองค่าเช่า...............ขอเฝ้าเคียงข้าง
เพิ่มภูมิคุ้มกัน...................เติมฝันร่วมทาง
มิให้ไกลห่าง.....................จืดจางจากจร

ทิวาราตรี
จะคอยพัดวี.......................มิมีหลอกหลอน
รักมั่นสนิท.........................ดวงจิตอาทร
รำพันออดอ้อน...................ก่อนนอนทุกคืน

อยู่เพียงลำพัง
ฝันอาจพลาดพลั้ง...............หลายครั้งสะอื้น
บางทีอ่อนล้า.......................อุรากล้ำกลืน
ต้องทนขมขื่น.....................ยากเย็นหดหู่

ว่าไงละเจ้า
บอกคืนห้องเขา....................ย้ายเข้ามาอยู่
ยากดีมีจน............................สองคนอุ้มชู
เพียงเราครองคู่....................พี่พร้อมดูแล
 

ย้ายมาเถอะเจ้า ทนเหงาอยู่ทำไม
บอกเธอไม่อาย พี่ชายก็เหงาเหมือนกัน
ผ่านมากี่ฝน ที่เราสู้ทนกับงาน 
อยากมาพบภูมิต้านทาน เอาไว้กั้นความเหงา

เฝ้ามองน้องอยู่ เธอก็รู้ใช่ไหม ว่าใครสนใจ ใช่อื่นไกล ก็คนใกล้ตัว
ห้องเช่าติดกัน จอมขวัญอย่าได้หวาดกลัว ไม่มีสาวใดพันพัว หัวใจพี่ยังว่างเปล่า
สู้ ลำพังบางครั้งมันล้า เชื่อเถิดแก้วตา พี่มาหาคนร่วมฝัน
ทุกข์คงบรรเทา หากเรา นั้นคอยช่วยกัน
ต่อให้หนักกว่านั้น พี่จะฝ่าฟัน เพื่อวันของ เรา

ว่าไงล่ะเจ้า เปลืองค่าเช่าอยู่ทำไม 
บอกคืนเขาไป ตัดสินใจรีบย้ายมาอยู่ 
จะมีจะจน สองคนช่วยกันอุ้มชู 
ยามจับยามเจ้าอดสู พี่จะช่วยดูเมื่อเจ้าเหงาใจ 

ทนเหงาทำไม
เดวิด    อินธี				
29 มิถุนายน 2548 08:15 น.

อีกหน

เรไร


เก็บกอดกำกล้ำกลืน ความขมขื่น
คอยค่ำคืนคล้อยเคลื่อน เหมือนดังว่า
รอยร้าวรานรุ่มร้อน ตอนทิวา
จันทร์เจิดจ้าเจือจาง ห่างหายไป

คงครุ่นคิดคร่ำครวญ ชวนหมองหม่น
ที่ทุกข์ทนถาโถม โหมเข้าใส่
สิ่งโศกศัลย์สิงสู่ อยู่กลางใจ
น้ำนองในเนตรนั้น พลันหลั่งริน

เราแรมรอนร่อนเร่ พเนจร
เดินดงดอนเดียวดาย ใจถวิล
ข้ามขุนเขาคงคา สุดฟ้าดิน
ดั่งดับดิ้นดวงแด ท้อแท้ทน

เอาอกแอบอุ่นไอ ใครกันเล่า
ซึมซบเซาเซซวน หวลอีกหน
ตามติดตราบตรมตรอม ยอมจำนน
มิหมองหม่นมุ่งหมาย ได้พบพาน

หวังวิงวอนไว้ว่า เวลานั้น
สิ่งสุขสันต์ซึมซับ ดับร้าวฉาน
ของคงคู่เคียงข้าง อย่างชื่นบาน
เรื่องร้าวรานร้อนรน ผ่านพ้นไป 				
28 มิถุนายน 2548 22:04 น.

เล่าสู่กันฟัง (อวสาน)

เรไร


รีบโทรหาครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
ยุ่งสอนเด็กหรือเปล่าเราไม่รู้
ทางดอนเมืองรันทดน่าหดหู่
ไม่มาดูมาแลแต่ให้บอก

คราวที่แล้วถูกบุกมาปลุกปล้ำ
จากงามขำทำชายให้ช้ำชอก
เหมือนดั่งว่าใช้มนต์ดลใจหลอก
แล้วยังบอกจะกลับมาหาอีกที

ใกล้เวลานอนไม่หลับกระสับกระส่าย
ช่างวุ่นวายจะอยู่ต่อหรือขอลี้
เพื่อนไม่มาเวรกรรมทำไงดี
ก็วันนี้แล้วนะเธอจะมา

มันตื่นเต้นหวั่นไหวหัวใจสั่น
พอตะวับลับลับดับฟากฟ้า
กลัวแต่เธอทำเฉเสียเวลา
รีบอาบน้ำอาบท่าตั้งตารอ

สี่ทุ่มกว่ายุงก็ชุมกลุ้มใจนัก
มิหาญหักห้ามจิตคิดจนท้อ
ยากันยุงที่เตรียมไว้คงไม่พอ
เวลาก็ผ่านไปไวจริงจริง

จนเที่ยงคืนดึกนักอยากพักผ่อน
มาหลอกหลอนกันแท้แม่โจรหญิง
โกหกเราจะเคล้าคลอขอแอบอิง
โถมาทิ้งไปลับน่าอับอาย

นั่งหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ฝันเห็นงูเขี้ยวโง้งคงดุร้าย
กระเสือกกระสนฉันนี้ต้องหนีตาย
คงจะหมายชีวาให้จาบัลย์

แล้วมีเสียงมาปลุกจงลุกขึ้น
ยังมึนมึนลืมตานึกว่าฝัน
แม่โจรสาวมาได้อย่างไรกัน
โอ้โหนั่นตั้งสามคนจะปล้นใคร

ตายแน่แล้วหัวใจต้องวายแน่
ทั้งเชือกแส้เข็มขัดจัดมาไว้
กระทิงแดงยาโด๊ปนั่นบานตะไท
แล้วยังไข่อีกโหลโถเตรียมมา

มิพูดพล่ามถามไถ่อะไรก่อน
มัดมือแน่แขนไว้ทั้งซ้ายขวา
อีกคนหนึ่งฉีกทึ้งดึงเสื้อผ้า
หัวเราะร่าเริงรื่นชื่นชีวัน

แขนขาถูกมัดไว้ให้อึดอัด
เห็นเธอผลัดเปลี่ยนผ้าทำท่าขัน
มองเราเป็นอาชาไนยหรือไรกัน
เริ่มหวิวหวั่นสั่นไหวทั้งใจกาย

เหมือนฉันเป็นม้าป่าท่าผยอง
ดูลำพองยามขี่ก็วิ่งส่าย
สะบัดดิ้นยิ่งขย่มข่มมิวาย
ช่างใจร้ายควบม้าไม่ปราณี

ใช้แส้ตีดังขวับดับความฮึก
กลับยิ่งคึกลิงโลดกระโดดหนี
ยิ่งกระแทกกระทั้นอย่างเร็วรี่
ยิ่งควบขี่หวังกำหราบปราบพยศ

สะบัดจนคนแรกกระแทกพื้น
ม้ายังยืนกำแหงแรงไม่หมด
คนต่อไปเรียงคิวกันพารันทด
มาจับกดขย่มซ้ำจนช้ำใน

จนสว่างคาตาดูฟ้าเหลือง
ยังขุ่นเคืองเรื่องราวจากคราวไหน
เธอสร้างรอยมลทินสิ้นเยื่อใย
ประทับตราบาบไว้ให้จดจำ				
27 มิถุนายน 2548 01:41 น.

มะเร็งในอารมณ์

เรไร


ผมปวดหัวตัวร้อนนอนไม่หลับ
เหมือนโดนทับลักขณาด้วยราหู
พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกแปลกจริงตู
เดี๋ยวหดหู่เดี๋ยวเหงาเจ้าอารมณ์

อยากจะไปพบหมอขอรักษา
ศรีธัญญาที่จำเพาะคงเหมาะสม
หรือป่วยไข้ทำพิษจิตจึงตรม
มันขื่นขมหรืออกเดาะเพราะเหตุใด

หมอให้เล่าให้ฟังอย่างละเอียด
มีเรื่องเครียดการงานนั้นบ้างไหม
หรือเรื่องราวทุกข์ร้อนซ่อนทรวงใน
จงบอกให้ตรวจดูรู้อาการ

จึงลำดับเรื่องราวในคราวก่อน
มันเดือดร้อนสิ้นสุขสนุกสนาน
ถูกเล่ห์กลฉ้อฉลของคนพาล
จนร้าวรานมัวหมองขุ่นข้องจิต

สารพันปัญหาพากลัดกลุ้ม
ดั่งไฟสุมรุมเร้าเข้าทำพิษ
พอจะดับเพลิงนั้นก็พลันติด
มิหมดฤทธิ์จากใจไปเสียที

หมอฟันธงไปว่าอาการแย่
จะให้แน่ควรไปฉายรังสี
ทั้งปอดตับไส้พุงถุงน้ำดี
ให้ถ้วนถี่วิเคราะห์เจาะประเด็น

ผลที่ตรวจออกมาว่าปลอดโรค
แต่เศร้าโศกไปบ้างอย่างที่เห็น
ทรมานความรู้สึกนึกลำเค็ญ
เพราะว่าเป็นมะเร็งร้ายในอารมณ์

หมอก็บอกวิธีที่รักษา
เอาธรรมะเถิดหนาเข้ามาข่ม
ดับความทุกข์ละลายกับสายลม
อย่าโง่งมเก็บไว้กับใจตัว				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเรไร