23 ธันวาคม 2547 21:17 น.
เรไร
ดอกเอ๋ยเจ้าดอกไม้.........งามวิไลแน่หนักหนา
แบ่งบานอยู่ในป่า............ทรงคุณค่าแห่งความงาม
งามยิ่งกว่าสิ่งไหน...........ซ่อนเอาไว้คือขวากหนาม
ครุ่นคิดเหมือนนิยาม.......หมู่ชนตามหวังชมเชย
ภุมราร่อนไปหา..............มวลบุปผาอย่าเมินเฉย
รีบหุบกลีบดอกเลย.........มิยอมเผยเฉลยตัว
ทรงคุณค่าในป่า............แต่เวลาพาอับเฉา
ร่วงโรยลาไปเปล่า.........ดูสิเศร้าโศกโศกา
ดอกไม้ในป่าร้าง...........งามงดกลางความเหว่ว้า
แห้งเหี่ยวตามเวลา........กับพนานิจนิรันดร์
บุปผางามสุดห้าม..................หักใจ ให้เชย
ป่าเปลี่ยวแสนกว้างใหญ่........สุดหล้า
แม้งามสักเพียงไหน...............ไร้คู่
เลยเหี่ยวแห้งกายล้า................ร่วงแล้ว แก้วตา
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
...มิได้มีเจตนาพาดพิงถึงใคร ... แต่จงใจครับ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
20 ธันวาคม 2547 21:55 น.
เรไร
ทำผิด ใดเล่า เจ้าขวัญจิต
จึงครุ่นคิด คลั่งแค้น แสนอดสู
หน้าไม่มอง ตาไม่แล แม่โฉมตรู
แกล้งไม่รู้ ไม่สน โถจนใจ
แค่เมื่อคืน ไม่โทร โมโหแล้ว
โอ้น้องแก้ว อย่าใจดำ ทำสงสัย
เครือข่ายล่ม ไปก่อน พี่ร้อนใจ
หลงอยู่ใน มุมอับ ดับสัญญาณ
พอออกมา มีสาย ไม่ได้รับ
จะโทรกลับ แบตก็น้อย พลอยสะท้าน
พลันก็ดับ คิดแล้วท้อ ทรมาน
เดินให้พล่าน กลัวเจ้าโกรธ โปรดเข้าใจ
หาบุปผา หลากสี ที่เจ้าชอบ
ถือไปมอบ แทนคำ นำไปให้
เจ้าก็ว่า เอามา หาทำไม
กินไม่ได้ สิ้นเปลือง รู้เรื่องเปล่า...(เสียงเพื้ยน)
งั้นพี่ทำ อาหาร จานอร่อย
แม่เนื้อกลอย มาลิ้ม ชิมกุ้งเผา
ตัวโต๊โต เจ้าชอบ เคยตอบเรา
ก็ไม่เอา สักคำ ทำเชือนแช
อยากเอาทอง คล้องคอ ที่ศอน้อง...(คอ ศอ เหมือนกัน)
หรือจะกอง ตรงหน้า ว่าทองแท้
กระทั่งปลาย หางตา ไม่มาแล
เป็นทองแน่ ทองน้อย คือฝอยทอง .... (ขี้เหนียว อีก)
ขวัญสุดา มารศรี ของพี่เอ๋ย
ทำละเลย ให้กมล ต้องหม่นหมอง
งั้นลงเรือ ชมท้องน้ำ ตามคูคลอง
ไปกันสอง แค่เรา เจ้าว่าไง
จะอาฆาต มาดร้าย พี่ไม่ว่า
ปืนเอามา เกาทัณฑ์ มิหวั่นไหว
ถ้าพี่ตาย โกรธหาย สบายใจ
เล็งมั่นไว้ เหมือนจับวาง กลางฤดี
ทำหน้าบึ้ง งอนตะบึง ดูขึงขัง
ความเปล่งปลั่ง จะลด กระถดหนี
คิ้วขมวด ปวดหัวเปล่า เจ้าคนดี
อภัยพี่ ลืมไป อย่าได้จำ
จะแง่งอน ปั้นปึ่ง ไปถึงไหน
ว้าวุ่นใจ เปล่าเปล่า เจ้างามขำ
ให้พี่ทำ ฉันใด ไม่เอ่ยคำ
เดี๋ยวพ่อปล้ำ เสียดีไหม ได้เลิกงอน
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
....ได้แรงบันดาลใจมาจาก..ง้อ ของคุณ ผู้เฒ่า
.....ขออนุญาตเลียนแบบครับ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
19 ธันวาคม 2547 23:35 น.
เรไร
วันนี้ไม่มีฉัน
นึกถึงกันมีบ้างไหม
หากต้องห่างร้างไกล
จะมีใครคิดถึงกัน
กาลเวลาผ่านเฉย
หรือไม่เคยเลยร่วมฝัน
ไปไหนก็ปล่อยมัน
ไม่สำคัญอย่างนั้นเชียว
เป็นเพียงแค่คนอื่น
ทนกล้ำกลืนไม่แลเหลียว
ไม่เคยสักนิดเดียว
จะข้องเกี่ยวกันอย่างไร
ไม่เป็นไร คงไม่เป็นไร
หากจะไปในวันนี้
ไปในวันที่ยังไม่ลืมฉัน
ไม่รู้ว่าอีกกี่ ปีเดือนจะได้พบกัน
อย่าให้มันสำคัญ ... อีกแลย
ขอฉันไปดีกว่า ถ้าจะอยู่อย่างนี้
จะเดินไปไม่หันมาหันมา
สัญญาว่ามิหวนคืน
ถึงแม้ว่า ต้องเจอหน้าใคร ใคร
ถ้าถามว่าเธอไปไหน ... จะไม่บอกว่าเธอไม่มีใจอีกแล้ว
จะบอกว่า เธอมีแนวทางไปของตัวเอง ... ที่ไร้ฉัน
ไปแล้วน่ะคงต้องไป ... ฉันต้องไป ... ใช่อยากไป
ไม่รู้จะอยู่ทำไม หัวใจมันแตกดับยับเยินหมดสิ้น
กลัวเหมือนกัน.... กลัวว่าจะสะอื้นไห้ แล้วใครได้ยิน
ให้หยามหมิ่นอับอาย
ลากหัวใจผุพัง
ลากความหวังหดหาย
ลากไปพร้อมใจกาย
สู่ที่หมายลางเลือน
17 ธันวาคม 2547 20:57 น.
เรไร
สิ้นสายสวาท
ดังถูกมีดบาด..........ปาดปลิดริดทิ้ง
แล้วมาขยำ.............ให้ช้ำเสียจริง
ที่เคยเย่อหยิ่ง.........แน่นิ่งเจียนตาย
เซโซซวดซบ
กายแทบสลบ.........ไม่ลบเลือนหาย
ความรักครั้งเก่า.....เราแสนเสียดาย
มาสิ้นสลาย.............วอดวายลงไป
ธำรงค์วงน้อย
เคยสวมนิ้วก้อย.......เจ้าจำได้ไหม
แม้ค่าเพียงนิด.........ดวงจิตข้างใน
ทุกอย่างฝากไว้........ทิ้งไม่ใยดี
ช่างมันปะไร
ก็แค่หัวใจ..............ของชายคนนี้
สักวันคงจาง............ลบล้างสักที
ขอรอที่นี่.................ชีวีโศกา
17 ธันวาคม 2547 06:27 น.
เรไร
ขอความรักให้ฉัน
หรือมีเพียงฝันหม่นหมาง
รอยแห่งรักเลือนลาง
คงจืดจางห่างหายไป
ขอหัวใจให้ฉัน
หรือแบ่งปันให้ไม่ได้
คือห้วงแห่งอาลัย
คนร้างไร้พอได้มี
ขอร้าวรานให้ฉัน
ฝันค้างฝันของวันนี้
มีแต่รักภักดิ์ดี
พร้อมยอมพลีมอบให้เธอ
ขอศรัทธาให้ฉัน
เพื่อข้ามวันไม่ไผลเผลอ
หยดหยาดราดบำเรอ
อย่าให้เก้อโดยลำพัง
ขอความหวังให้ฉัน
คราวที่มันผิดพลาดพลั้ง
ยามล้มปลุกพลัง
ให้ชีพยังอยู่ต่อไป
ขอคำตอบให้ฉัน
พลัดพรากกันไม่หวั่นไหว
คือสัญญาหัวใจ
สู่หทัยนิจนิรันดร์
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ขอความรักให้ฉัน
จะแบ่งปันมาก็ไหว
ยังดีไม่เป็นไร
แค่เสี้ยวใจนั้นก็พอ
.... ขอให้ฉัน...ได้ไหม