29 ธันวาคม 2547 00:21 น.
เรไร
อยากเอาขา ข้างซ้าย ก่ายหน้าผาก
ยิ่งคิดมาก หลายเรื่อง เปลืองสมอง
ทั้งหนี้สิน มากมาย มาก่ายกอง
ด้วยเงินทอง เป็นเหตุ เหลือเศษตังค์
จะเลิกเป็น พ่อครัว ก็กลัวอด
แสนรันทด หดหู่ ดูหมดหวัง
จะซื้อหวย รวยหุ้น ทุนน้อยจัง
เพ้อไปมั้ง เก้อเปล่า แล้วเอาไง
ขายขนม ถั่วดำ ก็ทำพิษ
คนก็คิด ว่าทะลึ่ง จึงสงสัย
หาทางแปลก แหวกนำ ไม่ซ้ำใคร
แล้วไฉน โดนติฉิน คำนินทา
อยากจะเขียน กลอนขาย ได้อย่างเขา
ก็ความเศร้า มากมาย ไม่ได้หา
คอยเป็นเพื่อน เหมือนมิตร ติดตามมา
ทุกเวลา นาที ก็มีมัน
พอนึกถึง สุขบ้าง ช่างหายาก
เศษเสี้ยวกาก ธุลีเถ้า เอาไว้ฝัน
บรรเลงกลอน อ้อนออด ถอดรำพัน
ภาษานั้น ก็เหหวน ชวนตาลาย
หรือไปเป็น นักร้อง จ้องขายเสียง
ส่งสำเนียง เพลงบรรเจิด ดูเฉิดฉาย
ผิดจังหวะ ตกร่อง ข้องใจตาย
หายใจเข้า บางครั้ง ยังคร่อมเลย
ราชการ ไปรษณีย์ คงดีกว่า
แล้วปํญญา บังเกิด จึงเปิดเผย
ไม่ต้องทำ ทนลำบาก ยากเหมือนเคย
แค่ยืนเฉย ลิ้นแผล่บแผล่บ แลบออกมา
หรือแต่งตัว องอาจ อย่างมาดนุ่ม
นายแบงค์หนุ่ม สุดเท่ห์ เสน่หา
ต้องตากแดด เช้าบ่าย หลายเวลา
ครุฑที่หน้า ธนาคาร นั้นเป็นไง
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
........ ยังว่าอีกหลายตำแหน่งน่ะครับ ........
...แล้วผมจะเลือกที่ไหนดี .....
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
28 ธันวาคม 2547 19:14 น.
เรไร
หน่อนรินทร์ราชวงศ์องค์กษัตริย์
ราชนัดดามาสิ้นชีพตักษัย
โทมนัสเหล่าประชาทั่วฟ้าไทย
ต้องครรไลเพราะถูกคลื่นกลืนชีวา
บ้านเขาหลักที่พักตากอากาศ
ธรรมชาติพิโรธโกรธนั่นหนา
พลันพินาศพรากโอรสจากมารดา
เปรียบดังฟ้าฟาดลงตรงกลางใจ
เหมือนหัวใจทวยราษฎร์แทบขาดรอน
คุณพุ่มนอนสงบนิ่งไม่ติงไหว
สู่นิรันดร์ ณ ศาลาสหทัยฯ
ชลนัยน์โศกสะอื้นทั้งผืนดิน
27 ธันวาคม 2547 00:06 น.
เรไร
หนึ่งทุ่มสิบห้า...............ยินเสียงแม่ค้า
เข็นรถเข็นมา...............ร้องดังกังวาน
ขนมอร่อย.....................บัวลอยไข่หวาน
ขอเชิญรับทาน..............ซาบซ่านถึงใจ
ประกันรสชาติ..............กะทิไม่ขาด
อย่าให้พลั้งพลาด..........เครื่องเคราเอาใส่
ถั่วเหลืองเผือกมัน........ค่อยหั่นลงไป
พร้อมด้วยไข่ไก่............ฟองใหญ่น่าทาน
ชายหนุ่มซื้อกัน..............แม่ค้าไม่ทัน
กะทิก็คั้น.......................เด็ดขาดมันหวาน
ฉุดมือยื้อแย่ง.................ขันแข่งมิปาน
เข้าคิวรอนาน.................อิจฉาจริงเรา
อยากขายเอาอย่าง..........เผื่อจะรวยบ้าง
มองหาหนทาง...............คิดพลางโง่เขลา
บัวลอยมีแล้ว.................ขายแห้วไม่เอา
นึกไปใจเศร้า................จะทำไงนี่
และแล้วคิดคึก.............ขยันยามดึก
ก็สมใจนึก...................ตรึกตรองถ้วนถี่
จะขายถั่วดำ.................หัวค่ำไม่ดี
ไว้ค่อนราตรี.................สี่ทุ่มค่อยมา
หมาหอนโหยหวน.........อยากเชิญขอชวน
อย่าได้เรรวน................ถั่วดำร่ำหา
มามะมาลิ้ม..................ช่วยชิมสักครา
ถั่วดำที่ค้า.....................ราคาพอดี
......กาพย์ธนัญชยางค์ ๓๒....
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
บัวลอยขายดีหัวค่ำ ถั่วดำขายกันดึก ดึก
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
26 ธันวาคม 2547 00:04 น.
เรไร
ผู้ชายดอกไม้
แย้มบานผลิใน............หทัยเรื่อยมา
ความรักไม่สิ้น............ถวิลหวังหา
จับใส่ทุกครา..............ทิวาราตรี
ดอกไม้เมืองกรุง
มิวายหมายมุ่ง.............รุ่งเรืองแสงสี
อยู่ในกระถาง..............อ้างว้างชีวี
สวยมากหลากสี.............ไม่มีใครมอง
มิเคยเหินห่าง
อร่ามท่ามกลาง...........เส้นทางหม่นหมอง
รายล้อมด้วยพิษ..........ใครคิดจับจอง
กล้าเป็นเจ้าของ..........มองเมินมิวาย
ความรักมีจริง
เหมือนชายคู่หญิง.......คือสิ่งที่หมาย
ถึงแม้ถูกทุบ..............ตุ๊บตั๊บตัวตาย
ชิวิตดับหาย...............ยังได้เชยชม
ผู้ชายดอกไม้
ใช่มากหัวใจ............หมายลืมระทม
หวังไว้มีสุข..............พ้นทุกข์ขื่นขม
เริงรื่นภิรมย์.............แม้ตรมตรอมตาย (ซ้ำเลี่ยงไม่ได้)
แม้ฉันเป็นดอกไม้..........เมืองกรุง
คงครุ่นคิดหมายมุ่ง.........ไม่สิ้น
หลงกลิ่นจรุง..................ปรุงแต่ง
ถึงมอดม้วยดับดิ้น..........ไม่ท้อ ขอยอม
25 ธันวาคม 2547 00:34 น.
เรไร
เอนกายลง พักใจ ไว้กับฉัน
ให้ลืมวัน ทุกข์ทน แต่หนหลัง
หากว่าล้า สิ้นไร้ กายกำลัง
มีฉันยัง อยู่นี่ ไม่หนีไกล
แม้ความฝัน หลุดลอย ถอยออกห่าง
เริ่มเลือนลาง จางลง อย่าสงสัย
กลับมาหา ฉันเถิด โปรดเปิดใจ
คอยสร้างใหม่ ความหมาย ให้สองเรา
ซับน้ำตา ร่วงหล่น บนอกฉัน
ที่หวาดหวั่น กลืนกล้ำ ช้ำจากเขา
อย่าให้มัน ตามหลอน ซ่อนบังเงา
ลืมรักเก่า ทิ้งมันไป ไกลใจกาย
ฉันจะคอย เคียงคู่ อยู่ตรงนี้
ณ ตรงที่ แสงบุหลัน อันเฉิดฉาย
ณ ตรงนี้ รักฉัน(เธอ) มั่นมิคลาย( never die)
สานถักสาย สัมพันธ์ นิรันดร