9 พฤศจิกายน 2547 22:12 น.
เรไร
เมื่ออกหัก รักคุด สุดขมขื่น
จำกล้ำกลืน ความระทม ข่มใจไว้
ทนเหน็บหนาว ร้าวรอน ซ่อนฤทัย
รักจากไกล เหลือจิต จะติดตาม
จะเหหัน ทางไหน ใจว้าเหว่
แกล้งทำเฉไฉไปไม่เข็ดขาม
ทำซึมเซ่อ ซ่าเขียนกฏ บทนิยาม
ไม่ครั่นคร้าม ความรัก จะหักเอา
หน้าชื่นมื่น รื่นรมณ์ ตรมในอก
น้ำตาตก ตรงอุรา หน้าไม่เฉา
สร้างรอยยิ้ม กลบเกลื่อน เลือนลบเงา
ฉันไม่เศร้า ไม่เคยเก็บ ให้เจ็บใจ
ยามกลับคืน เคหา ขอบตาร้อน
ความร้าวรอน ซ่อนมา พาหลั่งไหล
โภชนา อาหาร บานตะไท
ไม่สนใจ สะอื้น กลืนไม่ลง
มีแกงเห็ด เป็ดย่าง ทั้งหมูหัน
มัสหมั่น แกงมะเขือ มีเนื้อหลง
ทั้งแกงส้ม ต้มยำ ปลากระพง
หน่อไม้ดง ใจมันชืด ก็จืดพอ
คอก็ขม ลิ้นก็ขื่น กลืนไม่ได้
อาหารใด รสล้ำ นำเสนอ
ภัตตาคาร เลิศหรู สู้บำเรอ
น้ำตาเอ่อ ร่วงริน กินเข้าไป
@@@@@@@@@@@@@@@@
.....มีอาหารหวานคาวสารพัด
ยากจะกัดทนฝืนมันขื่นลิ้น
น้ำในตาร่วงโรยโอ้ยชีวิน
สะอื้นกินรู้รสหยดน้ำตา.....
@@@@@@@@@@@@@@@@
9 พฤศจิกายน 2547 19:39 น.
เรไร
ตอนที่ฉัน เป็นเด็ก ยังเล็กนัก
เฝ้าหลงรัก นที ที่ไพศาล
เห็นทะเล ครั้งใด ใจลนลาน
ว่าเมื่อกาล เติบใหญ่ ได้ล่องเล
ต่อกำปั่น อย่างโง่เขลา เอาไว้แล่น
หวังท่องแดน ตั้งใจ ไม่หันเห
ด้วยไม่รู้ อันตราย ในทะเล
ลมเกเร คลื่นสาดซ้ำ ลำกระเด็น
เห็นราบเรียบ เปรียบกระจก อกประมาท
มิเคยหวาด หวั่นอันใด ไม่เคยเห็น
คลื่นบนน้ำ ดังมา ซ่ากระเซ็น
ยังรู้เป็น รู้หลบคลื่น ไม่ตื่นกลัว
คำโบราณ ขานไข เอาไว้ว่า
ใต้ธารา ยากจะเดา เงาสลัว
ระรื่นลิ่ว ผิวน้ำ ระวังตัว
ที่น่ากลัว คลื่นใต้น้ำ จำให้ดี
เรือของเรา ต่อเอง ด้วยโฉดเขลา
เขาเย้ยเอา ว่าเสนียด โดนเสียดสี
จะสู้คลื่น อย่างไร ในวารี
สำเภานี้ หรือจะล่อง ท้องทะเล
หามีใคร เสี้ยมบอก ตอกหมุดหมัน
เรือของฉัน ต่อด้วยใจ หาใช้เล่ห์
ด้วยกำลัง หวังแล่นลม ชมทะเล
ใช่เกเร ต่อเรือ เพื่อรุกราน
ประจัญบาน กระซวก พวกใจเสาะ
ทำสะเดาะ รู้แจ้ง แกล้งสงสาร
ให้โลกรู้ ข้าสร้างเรือ เพื่อตำนาน
เห็นโจษจาน ได้สู้คลื่น ผืนนที
คลื่นใต้น้ำ ธรรมชาติ ที่ว่าร้าย
ก็ยังบ่ายเบียงภัยได้หลบหนี
คลื่นใต้น้ำ กระหน่ำ ซ้ำชีวี
ก็ยังดีกว่า คลื่นโหม ทึ่คนทำ
@@@@@@@@@@@@@@@@
คลื่นถั่งโถม บนผิวน้ำ ยังทำใจ
ข้างล่างไซร้ ไม่ฝืนเดิน เกินกำลัง
@@@@@@@@@@@@@@@@
8 พฤศจิกายน 2547 22:22 น.
เรไร
มาตามรอย ความหลัง ที่ฝังจำ
มาเก็บกำ สิ่งที่อก ทำตกหาย
มาก่อฟื้น คืนวัน ฝันวอดวาย
มาด้วยหมาย เกี่ยวก้อย ร้อยพงไพร
ตามสัญญา ที่คร่ำครวญ จะหวนกลับ
ตามมารับ วันสดชื่น คืนสดใส
ตามสดับ ความรู้สึก ลึกข้างใน
ตามหัวใจ คิดหวน ทวนความจำ
เก็บเอาฝัน ร่วงหล่น เที่ยวค้นหา
เก็บน้ำตา ซ่อนซม จมถลำ
เก็บสำนึก มาเรียงถ้อย ร้อยลำนำ
เก็บเอาธรรมชาติวาดความงาม
ฝันของใคร สะดุด เคยหลุดหาย
ฝันดีร้าย หวิวไหว ให้วาบหวาม
ฝันปีนป่าย หวังฟูเฟื่อง รุ่งเรืองนาม
ฝันไปตาม ด้วยแรง แห่งอารมณ์
ของของใคร สิ้นสูญ อยากพูนสุข
ของเคยทุกข์ อยากลืม ความขื่นขม
ของฉันนั้น ผ่านเฉย เลยระทม
ของตรอมตรม อยากชะ ให้ละลาย
ฉันป่ายปีน ขึ้นเดิน บนเนินผา
ฉันคิดว่า หวังเพียงหวัง ยังไม่สาย
ฉันมาตาม เก็บฝัน นั้นใส่กาย
ฉันมาดหมาย คืนกลับบ้าน สำราญใจ
6 พฤศจิกายน 2547 21:08 น.
เรไร
สุริยัน สดับลง ตรงขอบฟ้า
ผืนนภา ส้มแดง แสงอ่อนอ่อน
ผ่านยอดไม้ กางกั้น ตะวันรอน
หมู่นกจร บินกลับ แลลับตา
กระท่อมน้อย ยามเย็น เห็นตะวัน
ยอแสงพลัน ลบหาย ที่ปลายฟ้า
หาท่อนไม้ ก่อไฟปรุง หุงข้าวปลา
ที่เหนื่อยล้า โรยลา มาสู่เรือน
หยิบสุรา ยาดองตั้ง ที่ข้างฝา
ตองพันยา มวนสูบ สูดแม้นเหมือน
มะยมจิ้ม เปรี้ยวลิ้น ลืมวันเดือน
ทำแชเชือน ชมชิม ลิ้มเมรัย
ค่อยละเลียด เจียดริน ลิ้นรู้รส
อยากลืมหมด บทที่จิต พิสมัย
ละเลียดซ้ำ หลายจอก บอกอาลัย
สุดฤทัย เรื่องเก่า ข้าเฝ้าครวญ
จิตใจหวั่น พรั่นพรึง คิดถึงเจ้า
ลืมรสเหล้า จากเจ้าจึง คนึงหวน
ตะวันล้า ลงลับ ดับรัญจวน
ให้แปรปรวน ปลื้มปลาบ ถึงภาพนาง
โฉมสุดา มารศรี ของพี่เอ๋ย
ก่อนเจ้าเคย เชยชิด มาคิดหมาง
อุราร่ำ กล้ำกลืน สะอื้นพลาง
ไร้หนทาง เพราะต่างวงศ์ พงษ์เผ่าพันธุ์
เป็นดอกฟ้า อยู่ราว ดาวดึงษ์
จะเอื้อมถึง ก็เกินใจ จะใฝ่ฝัน
มองเห็นเจ้า สูงสง่า วิลาวัลย์
หมาอย่างฉัน เฝ้าชะแง้ แค่สายตา
ให้วาดหวัง ก็ชั่งใจ เอาไว้ก่อน
จะเคียงหมอน ก็หันเห สิเน่หา
ไม่ภิรมย์ ตัวข้าแล้ว แม่แก้วตา
ชลนา หลั่งริน แทบสิ้นใจ
เหมือนอีกา อยากสมสู่ เป็นคู่หงส์
ฐานะคง พงษ์พันธ์ มิมั่นหมาย
จะคู่กา นางหงส์ เจ้าคงอาย
พรหมพระพาย พัดพราก ให้จากกัน
ด้วยต่างวงศ์ พงษ์เผ่า เศร้ายิ่งนัก
จะห้ามหัก ห้ามอก ก็โศกศัลย์
ยิ่งชิดใกล้ ยิ่งเหินห่าง จางจาบัลย์
ด้วยชนชั้น กั้นกลาง ระหว่างเรา
จิบยาดอง มวนตอง ของคนยาก
เป็นเพียงซาก ชีวิต ลิขิตเหงา
เฝ้าพะวง หลงรูป จูบแต่เงา
กอดความเศร้า ร้าวราน ผ่านราตรี
6 พฤศจิกายน 2547 00:46 น.
เรไร
วันนี้ดีนักหนา ให้หรรษามีความสุข
สิ้นสลายคลายทุกข์ จงสนุกทุกคืนฝัน
จงมีแต่ความสดใส คิดหวังใดในสิ่งฝัน
ขอให้เป็นจริงพลัน มหัศจรรย์สมฉายา
magic คือชื่อนั้น สุขสันต์วันเกิดเถิดหนา
ปล่อยวางห่างกายา เคยอ่อนล้าจากการงาน
ทำสิ่งที่อยากทำ ให้บานฉ่ำความสำราญ
จิตใจให้เบิกบาน เลิกร้าวรานสักนาที
คอยชี้ทางสร้างหวัง เป็นกำลังทางช่วยชี้
โอกาสคนไม่มี นำสิ่งดีสู่ชีวิต
ด้วยกุศลผลบุญ ช่วยค้ำจุนหนุนจิต
มั่งมีในมวลมิตร ใครคิดร้ายให้แพ้ภัย
ขอให้มีสุขี คุณพระศรีรัตนตรัย
จงดลบันดาลให้ สุขสมใจให้นานนาน