20 ตุลาคม 2547 22:39 น.
เรไร
ฉันขอหมอนใบนั้น
ที่คุณฝันฉันได้หนุน
ฉันคงคิดถึงคุณ
ซบแอบอุ่นหนุนนอน
หากตื่นในราตรี
ดวงฤดีถูกกัดกร่อน
หทัยรานร้าวรอน
จะกลับหมอนแล้วนอนต่อ
หอมละมุนกรุ่นกลิ่น
ปรางยุพินแนบละหนอ
เนียงเนาเคล้าพนอ
จะกอบก่อไม่ท้อเลย
ก่อนวันพรุ่งรุ่งสาง
เหมือนคู่นางเคียงเขนย
ปล่อยค่ำคืนผ่านเลย
กอดเกยหมอนนอนนิททรา
ขอเถิดน่ะหมอนคุณ
หวานละมุนหนุนใฝ่หา
อุ่นแอบแนบอุรา
ทั้งทิวาและราตรี
20 ตุลาคม 2547 16:32 น.
เรไร
เพราะเคยเจ็บ ช้ำทน แต่หนหลัง
สิ้นกำลัง ซวนซบ สลบไสล
ไม่เคยมี หยาดทิพย์โถม ชะโลมใจ
หิวกระหาย ร้างไร้ ใครดูแล
กว่าจะหยัด ลุกยืน ขึ้นมาได้
เกือบไม่ไหว นั่งคอยรอ ด้วยท้อแท้
แทบดับดิ้น สิ้นสลาย ในดวงแด
มีก็แต่ ซากจิต ที่ติดกาย
ค่อยค่อยเติม ความหวัง ทั้งที่ท้อ
ค่อยค่อยก่อ ความฝัน วันสุดท้าย
ค่อยค่อยต่อ ใยชีวิต ให้ติดกาย
กว่าจะหาย ได้ยืนยง ทะนงตน
เพราะเรียนรู้ รับรส ในบทเศร้า
ความเปลี่ยวเปล่า มองไป ใครไม่สน
เจ็บคนเดียว ช้ำคนเดียว เปลี่ยวกมล
น้ำตาล้น ผู้เดียว เหลียวหาใคร
เห็นคนเศร้า เหงาจิต คิดสงสาร
ความร้าวราน ระทด เก็บกดไว้
ฉันเคยอยู่ ด้วยฉันรู้ ฉันเข้าใจ
แค่น้ำใจ ช่วยคืน ฟื้นอุรา
เคยขื่นขม ตรมใจ บ้างไหมครับ
มีใครดับ ความร้าวรอน ยามอ่อนล้า
เคยมีไหม ทุกข์ระทม จมน้ำตา
ผ้าเช็ดหน้า สักผืน ยื่นจากใจ
@@@@@@@@@@@@@@@@@
....เพราะเรามองกันด้วยตาเนื้อ....
@@@@@@@@@@@@@@@@@
20 ตุลาคม 2547 02:40 น.
เรไร
ผิดด้วยหรือ ที่ช่วยเหลือ เอื้ออาทร
คนเดือดร้อน ซานซม น่าสงสาร
แค่มาช่วย ปัดเป่า ความร้าวราน
ใช่ยักษ์มาร ร้างไร้ ในเมตตา
เป็นศิราณี ดูแล คอยแก้ไข
ปัญหาใด ใหญ่น้อย คอยปรึกษา
ทั้งสมาน ใจป่วย ช่วยเยียวยา
แล้วมาว่า ผมผิด คิดได้ไง
เห็นใครเหงา เศร้าทรวง ดวงยี่หวา
หากน้ำตา ร่วงเล็ด คอยเช็ดให้
ใช่นิยม ชมชอบ แค่ปลอบใจ
ผิดใช่ไหม มีน้ำใจ ใฝ่เมตตา
ยามนิททรา มโหรี ปี่บรรเลง
คอยครวญเพลง กล่อมให้ ใช่เสน่หา
หลับตาลง ปลงใจ ได้สักครา
พอทิวา ผันคืน คงชื่นใจ
พอกายา มีแรง ให้แข็งขืน
พลันลุกยืน จากซานซม จมพิษไข้
เมื่อเดินเหิน แคล่วคล่อง ได้ว่องไว
ก็จากไป ฝากจำ คำขอบคุณ
แค่นั่งลง ตรงนี้ ไม่มีใคร
ไม่ฝันใฝ่ ไขว่คว้า มาเกื้อหนุน
หาได้หวัง หัวใจ ใครเกื้อกูล
อยากทำบุญ ช่วยคน ให้พ้นภัย
ผิดด้วยหรือ ดำรงตน เป็นคนดี
ความปราณี เมตตา มีค่าไหม
จะก่นว่า ด่ากัน ไม่เป็นไร
แต่หัวใจ อย่าตีตรา ฆ่ากันเลย
@@@@@@@@@@@@@@@@@
.....ผิดใช่ไหมที่เป็นฉัน.....
@@@@@@@@@@@@@@@@@
19 ตุลาคม 2547 15:48 น.
เรไร
ใครคนไหน อกหัก เพราะรักคุด
หัวใจหลุด ถูกฉุดหาย หรือหน่ายหนี
จะรักล่ม จมสลาย วายฤดี
ก็ต้องมี ใครทำ ให้ช้ำใจ
ทั้งสาวน้อย คอยใคร ใจพร่ำเพ้อ
หลงละเมอ คอยเฝ้า เขาอยู่ไหน
ทั้งหญิงสาว โศกสลด รันทดใน
ไม่มีใคร ใยช้ำ ระกำทรวง
ใครหนอทำ งามขำ ให้ช้ำจิต
เฝ้าครุ่นคิด ผิดหวัง ยังห่วงหวง
ดวงทหัย กลืนกล้ำ เพราะคำลวง
ใยมาพ่วง ให้ผม ขมขื่นใจ
เป็นกระโถน ท้องพระโรง ถูกโยงเข้า
ใครจะเศร้า ทุกข์จน ทนไม่ไหว
โยนให้ผม ใครอกหัก ว่าชักใย
ช่างทำได้ ว่าร้าย ทำลายใจ
@@@@@@@@@@@@@@@@@
..ใครอกหักรักคุด ตรอมตรม ลงที่ผมทุกที น่ะพี่...
@@@@@@@@@@@@@@@@
19 ตุลาคม 2547 14:47 น.
เรไร
เพียงลมโลม กายหวั่น สั่นสะท้าน
ถึงดวงมาลย์ ซานซม เพราะลมเพ้อ
วจีเอ่ย เผยหลอกให้ ใจละเมอ
ต้องขวยเก้อ เขินอาย ละลายทรวง
ถึงอวดโอ้ โป้ปด จนหมดลม
ด้วยคำคม ชมเชย เผยห่วงหวง
จะเชิดชู บูชายิ่ง สิ่งทั้งปวง
ไฉนลวง เป็นเนืองนิจ ให้จิตตรม
หรือคารม คมหอก ที่บอกกล่าว
เป็นเรื่องราว ย้ำไป ให้ขื่นขม
ดุจพระแสง แทงทิ่ม แทบสิ้นลม
หรือสุขสม ภิรมย์รื่น ชื่นฤดี
เป็นเสี้ยนหนาม ตามตำ ให้ช้ำชอก
ด้วยคำหลอก กลอกกลิ้งฉาบ อาบฉวี
คอยสดับ รับรู้ฤทธิ์ ปลิดชีวี
เพียงวลี เอ่ยปาก ฝากรักลวง
@@@@@@@@@@@@@@@@@@
......อย่าเอื้อนเอ่ย เฉลยวาจา
ถ้าหาใช่มาจากหัวใจ......
@@@@@@@@@@@@@@@@@