30 ธันวาคม 2553 18:40 น.
เรไร
ตราบเท่าที่หัวใจยังไม่แพ้
เพียงเพราะเราอ่อนแอแค่บางครั้ง
อาจเป็นเพราะหัวใจไร้พลัง
แต่ความหวังยังเปี่ยมล้นอยู่ท้นทรวง
ตราบเท่าที่หัวใจยังไหวเต้น
อาจโอนเอนอ่อนแอแค่บางห้วง
แค่ถูกโลมเร้าให้ใจทั้งดวง
โดนเล่ห์ลวงสารพันอย่าหวั่นเลย
ตราบเท่าที่หัวใจเจ้ายังเจ็บ
ยังกอดเก็บความเศร้ามิเปล่าเฉย
จนรู้สึกอ้างว้างเหมือนอย่างเคย
ใจเจ้าเอ๋ยแม้ลำเค็ญมิเป็นไร
ตราบเท่าที่ลมหายใจยังมีอยู่
เพียงเราสู้อุปสรรคสักแค่ไหน
อีกมินานทุกข์ทนคงพ้นไป
เพียงแต่เริ่มต้นใหม่ไม่สายเกิน
2 กันยายน 2553 16:11 น.
เรไร
- หนึ่ง -
ณ คืนนั้นดารารายพร่างพรายแสง
ส่องแสดงดาษรดาเวหาหาว
ดูกระพริบวิบแววช่างแพรวพราว
สุกสกาวเหมือนภาพวาดเหนือหาดทราย
ณ คืนนั้นลมทะเลก็เห่กล่อม
ความตรมตรอมอ้างว้างก็จางหาย
พอคลื่มโถมฟุ้งฟองละอองกระจาย
โอบกอดกายดื่มด่ำความฉ่ำเย็น
ณ คืนนั้นความเหงาเจ้าหน่ายหนี
คือราตรีแห่งฝันตาฉันเห็น
แต่ก็คือความจริงในสิ่งเป็น
คล้ายละอองเย็นโอบกอดตลอดเวลา
ณ คืนนั้นหัวใจได้เดินสู่
ทางคลอคู่บนหาดแห่งปรารถนา
คลื่นก็โถมลมซัดคอยพัดพา
ดวงดาราวับวิบกระพริบมอง
- สอง -
มือเกี่ยวก้อยใจดวงน้อยร่วมร้อยฝัน
ความผูกพันระหว่างเราเป็นเจ้าของ
เริงระรื่นชื่นชมสมใจปอง
กอดประคองเคียงสัมผัสในรัตติกาล
แรงคลื่นลมรวนเรทะเลลึก
ในยามดึกคลื่นเย็นกระเซ็นซ่าน
ม้วนตลบครืนครืนบนผืนธาร
ละลอกริ้วลิ่วละลานตระการตา
แล้วคลื่นลมม้วนตลบใกล้ซบฝั่ง
ยิ่งประดังถั่งโถมโหมเข้าหา
ผ่านเกาะแก่งโขดเขินเนินศิลา
กระเซ็นซ่าทั่วมหาชลาลัย
- สาม -
ณ คืนนั้นคลื่นโถมลมกระหน่ำ
เข้าสาดซ้ำโรมรันสนั่นไหว
เสียงโครมครืนคลื่นคลั่งดั่งเภทภัย
ก่อนเสือกไสซบสะอื้นสู่ผืนดิน
ณ คืนนั้นทะเลเรียบเงียบสงบ
คลื่นซวนซบหาดทรายหมายถวิล
พลันสายลมพัดโบยระโรยริน
ให้ห้วงจินต์ได้จำจดความงดงาม
29 สิงหาคม 2553 23:32 น.
เรไร
ในวันหนึ่งงดงามในยามบ่าย
ริมหาดทรายทะเลเรียบดูเงียบเหงา
สายลมพัดบางบางอย่างแผ่วเบา
ฟ้าหม่นเทาแต่งดงามเมื่อยามมอง
ในวันหนึ่งความเหงาเจ้าจับจิต
จึงครุ่นคิดคร่ำครวญชวนหม่นหมอง
หากมีใคร่วมฝันตามครรลอง
คงมิต้องเฝ้ารำพึงในหนึ่งวัน
ในวันหนึ่งหัวใจเจ้าไผลเผลอ
เพียงพบเจอเสี้ยวนาทีที่สุขสันต์
ว่ามีเราสร้างนิยามความผูกพัน
มีเธอฉันก้าวเดินบนเนินทราย
ในวันหนึ่งวันนี้นาทีหนึ่ง
คงซ่านซึ้งงดงามเปี่ยมความหมาย
สองเราเดินเคียงข้างมิห่างกาย
ความเปล่าเปลี่ยวเดียวดายมลายลง
ในวันหนึ่งที่เห็นเส้นขอบฟ้า
ห้วงเวลาภิรมย์สมประสงค์
ใจสองดวงผูกพันอย่างมั่นคง
ให้ยืนยงเป็นเรานานเท่านาน
ในวันหนึ่งวันใดในวันหนึ่ง
ถ้อยรำพึงเธอสดับฉันขับขาน
ฉันจะอยู่ด้วยหวังริมฝั่งธาร
ขอฝันหวานฝันซึ้งเพียงหนึ่งใคร
13 สิงหาคม 2553 21:10 น.
เรไร
ในเวลาเจ็บช้ำค่ำคืนหนึ่ง
เราได้เดินไปถึงซึ่งความเหงา
ณ ที่มีเสมือนเพื่อนเพียงเงา
ดูว่างเปล่าเคว้งคว้างบางเวลา
ทำได้เพียงอดสูในรู้สึก
จึงนิ่งนึกแปลบปลาบภาพโหยหา
ครวญคำนึงวันวานที่ผ่านมา
แม้นเป็นภาพที่เลือนพร่าครารัญจวน
คล้ายผ้าผวยสักผืนในคืนหนาว
ลดความเจ็บปวดร้าวคราวนึกหวน
พออบอุ่นแนบกายได้ทบทวน
สิ่งผันผวนในชีวีไม่จีรัง
กอดอดีตกอดเงากลางเปล่าเปลี่ยว
เพียงผู้เดียวเพ้อรำพึงถึงความหลัง
กอดซากเศษความสุขที่ผุพัง
ให้ความหวังหลับใหลไปชั่วกาล
8 มิถุนายน 2553 07:50 น.
เรไร
๏..ดอกเอ๋ยแม่กระดังงา.........แรกแย้มงามตา
เย้ายวนชวนให้เด็ดดม
ภมรโฉบเฉี่ยวหวังชม............หมายปองภิรมย์
สุขสมต่างหมายจับจอง
ร่อนถลาแข่งขันครอบครอง......ผู้เดียวเกี่ยวดอง
เจ้าของแนบเนาว์เคล้าคลอ
ดอมดมพะเน้าพะนอ.................สมดังเฝ้ารอ
ล่วงคืนเลยวันผ่านกาล
กระดังงาแกล้มแย้มผลิบาน.......พบความร้าวราน
ถูกผลาญแผดเผาด้วยไฟ
โลมเลียลุกลามเผาไหม้.............แต่กลับสดใส
กรุ่นกลิ่นหอมฟุ้งขจร
สะพรั่งชูช่อเกสร........................สวยลึกรุ่มร้อน
คราได้สัมผัสชิดเชย
เจ้ากระดังงาเจ้าเอ๋ย...................หาใดเปรียบเปรย
มิเคยสักครั้งลืมเลือน
บุปผาใดเสมอเหมือน.................จิตสั่นฟั่นเฟือน
โหยหาเมื่อยามห่างไกล
เจ้ากระดังงาลนไฟ.....................พร้อมพลีหัวใจ
เคียงกายคู่เจ้าเนาว์นาน ๚ะ๛