28 สิงหาคม 2547 00:13 น.
เรไร
เห็นซอแขวน ที่ข้างฝา พาใจหวน
เคยคร่ำครวญ เล่นล้อ ต่อเพลงหวาน
ในเวลา เงียบสงัด รัตติกาล
ค่ำคืนนั้น เสียงใส ให้ครื้นเครง
บนเส้นเสียง เรียงถ้อย ร้อยกวี
คือดนตรี สองเรา เฝ้าบรรเลง
ฉันตีขิม เธอสีซอ ต่อเป็นเพลง
เล่นกันเอง แว่วหวาน กังวานไพร
สะบัดไม้ ไล่เรียง เคียงเสียงซอ
เคล้าเคลียคลอ หวีดหวิว เพลงพริ้วไหว
เป็นเพลงรัก ฝากฝัง ที่กลางใจ
ปล่อยหทัย ปลิดปลิว ละลิ่วลอย
ราตรีนี้ มีเพียง สำเนียงเศร้า
ขิมตัวเก่า เล่าเรื่องราว ที่เหงาหงอย
กระหน่ำมือ สื่อเสียง เพียงรอคอย
มาเกี่ยวก้อย ร้อยบรรเลง เพลงของเรา
25 สิงหาคม 2547 23:54 น.
เรไร
รักใครที ก็พัง หวังวอดวาย
คงจะสาย เกินกว่า หาอีกหน
ถึงจะเหงา จำใจ ให้จำทน
กระวายวน คนเดียว ช่างเปลี่ยวใจ
เพื่อนผมถาม ทำไม อยู่คนเดียว
ไม่เปล่าเปลี่ยว อ้างว้าง บ้างหรือไร
ผมก็ตอบ ว่ามีบ้าง อยู่ข้างใน
ที่เหงาใจ ก็ทำลืม กล้ำกลืนเอา
ให้เลี้ยงปลา สักตัว คงดีแท้
เราก็แค่ ให้อาหาร มันตอนเช้า
เพียงมองหน้า เคาะดู ตู้เบาเบา
เห็นหน้าเรา ก็ว่ายมา หาทุกที
อยู่อย่างนี้ สบายใจ ใครจะเหมือน
ปลาคือเพื่อน ไม่เคยด่า เมินหน้าหนี
ไม่เคยงอน ต้องมาง้อ ขอคืนดี
ขอแค่มี อาหาร สำราญใจ
ไม่เคยขอ ให้โทรหา เวลานี้
ไม่เคยมี ปัญหา มาแก้ไข
ไม่คอยตาม ว้าวุ่น ให้ขุ่นใจ
ไม่ขอไป ไหนไหน ให้นำพา
แค่แหวกว่าย ในตู้ อยู่กับที่
ไม่ต้องมี สิ่งปรนเปรอ ที่เลอค่า
ไม่เคยพูด โป้ปด ประชดด่า
คอยหาว่า ลวงหลอก กลอกกลิ้งไป
รักกับเธอ หัวใจ ฉันมันล้า
มาเลี้ยงปลา ดีกว่า ใครว่าไหม
ไม่ต้องห่วง ใครจะกลิ้ง หรือจริงใจ
ขอตัวไป ดูหน้าปลา ให้อาหาร
@@@@@@@@@@@@@@@@
วันนี้ตื่นแต่เช้า แบกสวิงไปช้อนกุ้ง
มาเลี้ยงปลา เจอกับเพื่อนที่กลับมาจากซื้อกับข้าวกับแฟน
เพื่อนมันถาม เหงาหรือไงถึงได้เลี้ยงปลา ปลูกต้นไม้ฆ่าเวลาไปเรื่อย
บอกให้หาแฟนสักคน จะได้เลิกเลี้ยงปลา
เลยตอบมันไปว่า เลี้ยงปลาน่ะดีแล้ว ไม่เห็นมันบ่นอยากกินอะไร
อยากไปไหน ไม่ต้องไปรับ ไปส่ง มันอยู่ในตู้เฉย อ้าปากงับ งับ
ไปเรื่อยไม่เห็นบ่นเลยสักคำ ใช่ไหมเพื่อน
เพื่อนที่มันมากับแฟน ขำครับ
ไม่รู้ว่าขำอะไรของมันทั้งสองคนเลย
@@@@@@@@@@@@@@@@
24 สิงหาคม 2547 02:32 น.
เรไร
งานงานงาน ปวดกะบาล งานเยอะแยะ
ต้องมาแงะ สะสาง ไม่ว่างเว้น
งานงานงาน หนักกะบาล ทั้งเช้าเย็น
อยากจะเป็น เด็กอีกที ไม่มีเศร้า
ตั้งแต่เช้า ก้มหน้า มาทำต่อ
นั่งหน้างอ หัวหงอก ออกสีขาว
ผมทั้งหัว ที่หงอก สีดอกเลา
จนใครเขา นินทา ว่าบ้างาน
งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข
ฉันสนุก สนาน กับงานฉัน
ทำกันไป ทำด้วยใจ ให้สำราญ
พอกลับบ้าน ยังเก็บ เหน็บเอามา
งานฝากรอย ลึกลง ตรงหน้าผาก
เป็นเส้นลาก ฝากไว้ ใกล้หางตา
เอ๊ะนี่มัน เขาเรียกว่า รอยตีนกา
เหนื่อยจนล้า นอนดีกว่า เลิกบ้างาน
24 สิงหาคม 2547 00:47 น.
เรไร
หาเหตุผล ที่จะรัก นั้นยากเย็น
กว่าจะเป็น คนรู้ใจ ใช่ของง่าย
ที่จะไป ห่างร้าง ช่างง่ายดาย
เหตุผลใด ก็รั้ง ยั้งไม่ไหว
เพราะรักฉัน น้อยไป หรือไงนั่น
จึงแปรผัน หันเห ให้ห่างหาย
ให้เหตุผล สารพัน ฉันต้องไป
เบื่อหัวใจ ทนช้ำ ย้ำชีวา
หรือต้องการ สิ่งใด ในรักแท้
มันดูแย่ ยับเยิน เกินรักษา
อยู่กันไป ยิ่งห่างไป กว่าใจคว้า
ทางข้างหน้า ต่างไป ไม่มีกัน
ฉันเข้าใจ ต่างคน ต่างค้นคิด
ว่าชีวิต เหมือนเป็น เส้นขนาน
เพียงวันหนึ่ง ทางร่วม ก็รวมกัน
จุดตัดฝัน ชั่วคราวครั้ง ยามพลั้งไป
เหตุผลใด เหนี่ยวรั้ง ยั้งไม่หยุด
มันคงคุด รักฉัน นั้นจางหาย
คงได้แค่ ซ่อนใจเก็บ เหน็บเอาไว้
น้ำตาไหล ล้นเอ่อ เมื่อเธอลา
@@@@@@@@@@@@@@@
เธออาจมีร้อยเหตุผล ที่เธอจะไป
แต่ฉันมีเพียงเหตุผลเดียวที่ให้เธออยู่
@@@@@@@@@@@@@@@@
20 สิงหาคม 2547 14:27 น.
เรไร
เศร้าสลด บทสุดท้าย มลายลง
ใจเจ้าคง รวดร้าว ราวรุ่มร้อน
แผลในใจ ฝากไว้ ในครั้งก่อน
จะเว้าวอน ผู้ใด ใครไม่มี
ถอดสลัก ความรัก ที่ปักแน่น
ฝังความแค้น พยายบาท พิฆาตนี้
จะจดจำ คนทำ ช้ำฤดี
ไม่ขอมี ดวงใจ มอบให้ใคร
ปิดประตู ลงกลอน สั่งสอนจิต
เพ่งพินิจ รักหวาน ที่สั่นไหว
ที่แน่แท้ สิ่งนั้น แค่ฝันไป
เหมือนดั่งไฟ สิ้นสลาย ละลายพลัน
ปล่อยหัวใจ ผ่านผัน เพียงวันนี้
ดวงฤดี โศกตรม จมความฝัน
หรือหัวใจ ไร้ค่า หาคู่กัน
จึงปล่อยฉัน ทนสู้ อยู่ลำพัง
โซเซซัด พลัดพราก จากรักขม
เคยสุขสม หดหู่ ดูสิ้นหวัง
พเนจร เกลือกดิน หมดสิ้นทาง
เดินเคว้งคว้าง คนเดียว เปลี่ยวหัวใจ
เห็นทะเล กั้นขวาง ทางข้างหน้า
พักอุรา เอนกายลง คงพอไหว
เหนื่อยอ่อนล้า ใจอ่อนแรง ไม่แข็งใจ
กลางหาดทราย นอนดูดาว พราวนภา
ให้คลื่นสาด ซัดกาย ให้หายทุกข์
ฤทัยสุข ทิ้งไว้ ใจอ่อนล้า
เพียงแค่ได้ คืนพลัง หวังกลับมา
เชิดชีวา ค้ำชู สู้ชีวี