25 มกราคม 2548 09:13 น.
เรไร
เหนื่อยเอ๋ยเหนื่อย ทำงาน เช้ายันค่ำ
ทนตรากตรำ กลางแดด ถูกแผดเผา
แต่จมปลัก ย่ำกับที่ ชีวีเรา
อยู่จุดเก่า หมดหวัง กำลังใจ
ผีมาบอก คาถา มหาเวทย์
ได้รู้เหตุ ค้างคา ถ้าสงสัย
ชี้ให้เห็น ทางชีวา พาเดินไป
มีอยู่ใน เจ็ดข้อ ขอเท้าความ
ข้อที่หนึ่ง โยงใย สายโลหิต
เชื้อใกล้ชิด ผู้ใหญ่ ใยต้องถาม
ไม่ต้องเก่ง หรือไขว่คว้า พยายาม
แค่มีนาม -สกุล หนุนน้อมนำ
ข้อที่สอง ข้างเคียงศิษย์ สนิทสนม
คอยชื่นชม ตามลุยไฟ ว่ายข้ามน้ำ
ใช้อะไร หนักหนา ข้าก็ทำ
พร้อมรับคำ บัญชา ถ้าสั่งการ
ข้อที่สาม ดูดีดี ข้อนี้ขลัง
เสบียงคลัง เนยนม ขนมหวาน
เผื่อเจ้านาย เปรี้ยวปาก อยากรับทาน
เลี่ยงลูกหลาน รับรอง สนองคุณ
ข้อที่สี่ นายว่า ขี้ข้าพลอย
แม้จะถ่อย ยอมรับ สนับสนุน
นายทำบาป หยาบช้า ยังว่าบุญ
พอค้ำจุน สอพลอ ขอสิ่งใด
ข้อที่ห้า อย่าดัง ฟังแล้วคิด
จงผู้มิตร ลูกหลาน ท่านเอาไว้
หากวันหนึ่ง เกี่ยวข้อง ดองเมื่อใด
คงไม่ปล่อย ให้เขยยาก ลำบากกาย
ข้องที่หก วิชา ต้องกล้าแกร่ง
พังกำแพง กั้นกลาง ขวางจุดหมาย
จงรู้ให้ รู้จริง สิ่งมากมาย
ไม่ต้องอาย ยืนหยัดอย่าง ทรนง
ข้อที่เจ็ด สุดท้าย ร่ายคาถา
การเมืองมา ใส่ใจ จงไหลหลง
ตีสนิท อุดมการณ์ นั้นมั่นคง
ถึงขึ้นลง นรกสวรรค์ ฉันตามไป
คือทางลัด ก้าวหน้า ในหน้าที่
หากไม่มี ทางเจริญ อย่าสงสัย
หากมีบ้าง ความสำเร็จ อยู่ไม่ไกล
พบโชคชัย ในการงาน ชั่วกาลเอย
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
สายโลหิต ..ศิษย์ข้างเคียง..เสบียงหลังบ้าน
ขี้ข้าสอพลอ..เจาะไข่แดง ..แกร่งวิชา..บ้าการเมือง
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
23 มกราคม 2548 01:04 น.
เรไร
ตัวเรายัง หนุ่มแน่น แสนหดหู่
ไปหาญสู้ คนชรา น่าผิดหวัง
ดูสาวสาว กดเลขหมาย สายแทบพัง
หลายคนจัง สงสัย ทำไรมา
ไปลงนะ หน้าทอง มาหรือเปล่า
หรือไปเอา ขุนแผน แขวนนั่นหนา
ถึงได้มี เสน่ห์ เย้ายวนตา
อยากรู้ว่า ทำได้ อย่างไรกัน
สาวระนอง ยังฝากถาม ความคิดถึง
หมายเลขหนึ่ง.. กดไป ดั่งใจฝัน
ถ้อยคำหวาน ออดอ้อน ซ่อนจำนัล
เอ๊ะไงนั่น เบอร์แปลก แทรกพอดี
กดพักสาย ที่หนึ่ง บึ่งไปรับ
ใช้สลับ สายซ้อน อ้อนคนนี้
เสียงละเมียด นุ่มชะมัด สวัสดี
ลพบุรี โทรมา ว่าอย่างไร
ทักทายกัน ปรองดอง ฉันท์น้องพี่
ณ บุรี แปดริ้วดิน ถิ่นอาศัย
เมืองละโว้ โทรมา หาตั้งไกล
เบอร์อะไร เรียกจริง กริ่งเริ่มดัง ( สายที่ 3)
สามสามห้า ต่อเนื่อง สาวเมืองฮิ
ตั้งสติ รับสาย คล้ายผิดหวัง
โทรมาผิด รับแล้ว วางไวจัง
พิโธ่พิถัง อยากสดับ ก็อับจน
กำลังงง สงสัย ใครกันหว่า
เบอร์แปลกตา อุรา พาฉงน
หวัดดีค่ะ หนูมา จากเมืองนนท์
คุยด้วยคน นะจ๊ะ มาร่ำลา
ลืมสนิท โม้เกิน เพลินไปเรื่อย
ชักเริ่มเหนื่อย ปวดแขน แสนเมื่อยล้า
ลืมไปเลย สามเบอร์ เก้อค้างคา
แบตนั่นหนา หมดไฟ ช่วยไว้ทัน
อนิจจา วาสนา ของข้าน้อย
จำต้องถอย ออกห่าง จากทางฝัน
มาแพ้พ่าย คนชรา ได้ไงกัน
จิตหวาดหวั่น ขอยอม ตรมตรอมตาย
ยังหนุ่มแน่น แต่ไหง ไม่หอมหวล
มิเชื้อชวน แม่หญิง อิงดังหมาย
ต้องยอมแก่ เสียละมั้ง ทั้งใจกาย
น่าละอาย เมาดีกว่า พาเพลิดเพลิน (555)
22 มกราคม 2548 02:13 น.
เรไร
เปรียบชีวิต เกิดมา ดั่งผ้าขาว
อ่านเรื่องราว หลายหลาก จากสีสรร
ยิ่งเติบโต ล่วงกาล มานานวัน
ผ้าผืนนั้น มากลวดลาย ในชีวา
เริ่มตั้งแต่ แม่พ่อเรา ร่างเค้าโครง
ลากเส้นโยง หวังวาด ปรารถนา
จิตกรรม งดงาม อร่ามตา
บนผืนผ้า สร้างความเชื่อ สวยเหนือใคร
ถึงวัยรุ่น หอมหวน อบอวลรัก
เห็นประจักษ์ สีแสง แดงสดใส
วางเอาเอง บรรจงจูบ รูปหัวใจ
ที่ฝันใฝ่ โหยหา พะว้าพะวัง
เมื่อพลาดพลั้ง รักคุด สุดขมขื่น
ทนกล้ำกลืน รักนี้ เป็นสีม่วง
ทั้งชีวิต จิตใจ ให้ทั้งดวง
ถูกหลอกลวง เจ็บช้ำ จำจนตาย
สีลงไว้ ป้ายเลอะ ดูเปรอะเปื้อน
ภาพบิดเบือน แตกต่าง อย่างใจหมาย
เป็นสีเทา หดหู่ มิรู้วาย
ชีวิตคล้าย ร้างไร้ ในเส้นทาง
แต้มแต่งเติม ฤดี เพิ่มสีสรร
เป็นรางวัล ท่องไป ในโลกกว้าง
คือสีเขียว เกี่ยวเก็บสุข ทุกข์เว้นวาง
เที่ยวไปอย่าง คนซัดเซ พเนจร
แม้บางครั้ง ตกต่ำเห็น เป็นสีคล้ำ
ดูมืดดำ เพราะตัว มัวหลอกหลอน
เดินทางชั่ว เกลือกกลั้ว สิ่งบั่นทอน
คอยหลบซ่อน ด้วยพิษ ฤทธิ์สุรา
กว่าจะผ่าน คืนวัน อันรันทด
โศกสลด หมดหวัง ทั้งเหว่ว้า
เงยหน้าดู แหงนมอง จ้องนภา
เป็นสีฟ้า ก็เห็นทาง กระจ่างใจ
ผ้าสีขาว เราเอง ละเลงสี
เหมือนชีวี ผ่านมา อย่าสงสัย
จะวิจิต งดงาม สักปานใด
หรือจะใส่ หมองมัว ไปชั่วกาล
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
...วาดเอง ก็ละเลงเอาเอง ใสหรือไม่ ก็ใจเราเท่านั้นที่เห็น....
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
19 มกราคม 2548 21:16 น.
เรไร
....เอาหัวใจล้อเล่น..เห็นเป็นของสนุก.ยินดีบนความทุกข์
.คุณคงแสนสุขใจ.อย่างไรคงไม่สน..น้ำตาหล่นไม่นึก
..ความรู้สึกไม่มี..ฤดีใครวอดวาย....สุขสมอารมณ์หมาย
..จะเป็นตายก็ช่าง..จะอ้างว้างแค่ไหน..ช่างหัวมันปะไร
แค่ฉันได้ชัยชนะ..คือสะใจก็พอ..เพียงขอให้ได้ทำ
ทำฉันต้องเหว่ว้า.เหงาหงอย
ชีวิตเพียงรอคอยพร่ำเพ้อ
ทนอยู่อย่างเลื่อนลอย..หมองหม่น
หรืออยากให้ฉันเก้อ.อย่างนี้ จนตาย
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
.....อักษรพาไป งงไป งงมา...ไม่รู้เรียกว่าอะไร...
....................ตามใจตัวเองสักวัน....................
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
15 มกราคม 2548 22:27 น.
เรไร
นิ่งมองนภา.......ริมสายธารา
เห็นหมู่เมฆา.......ล่องลอยเลื่อยไหล
รูปนั้นรูปนี้........ฤดีคิดไป
แต่งแต้มเติมใส่.....ในจินตนา(การ)
ฟ้าคงมิเหงา.....กลางวันมิเศร้า
ตะวันคลอเคล้า....คอยเฝ้าใฝ่หา
อยู่หลายชั่วโมง...ไม่โกงเวลา
ถึงคราวลับฟ้า......ในสายนที
ที่ริมฝั่งน้ำ....เมื่อยามเย็นย่ำ
ฟ้าเริ่มมืดดำ...พลบค่ำคืนนี้
พระจันทร์สว่าง.พราวพร่างราตรี
ส่องทางวิถี.....งามวับจับตา
อยากอธิฐาน....วิงวอนกราบกราน
โปรดจงประทาน...ท่านเทวดา
ให้พรสักข้อ.......ขอเป็นนภา
สุริยันจันทรา.....มาอยู่คู่ใจ
ก็คงเลิกเศร้า....หัวใจไม่เหงา
คงได้บรรเทา.....ชีวิตสดใส
ตะวันชิงพลบ........เลือนลบเมื่อใด
จันทราชิดใกล้......อยู่ในราตรี
แต่ความจริงนั้น....ก็ผิดที่ฝัน
จะเป็นฟ้านั่น......ได้กันไงนี่
ได้แต่โศกเศร้า..เงียบเหงาอย่างนี้
ทิวาราตรี........ชีวีเดียวดาย