16 มีนาคม 2548 02:27 น.
เรไร
บนถนนหัวใจ
ทางจะไปไม่เกินฝัน
ผสานสร้างสัมพันธ์
ด้วยคงมั่นกันสองเรา
บนถนนหัวใจ
จับมือไว้มิให้เหงา
อ้างว้างคงบรรเทา
ไม่เปลี่ยวเปล่าเศร้าเดียวดาย
บนถนนหัวใจ
เริ่มต้นใหม่ยังไม่สาย
ความหวังอันมากมาย
คือจุดหมายในชีวี
บนถนนแห่งนี้ ยังมี
ความปรารถนาดี มอบให้
เพียงอย่าตัดไมตรี แค่รับ
คงมั่นฝันเราไว้ ตราบสิ้น ดินฟ้า
เพียงสองคนเท่านั้น นำพา กันไป
เหมือนโชคชะตา ท่านสร้าง
ก้าวเดินผ่านกาลเวลา ครองคู่
มิหม่นหมองอ้างว้าง เลิกร้าง ห่างกัน
บนถนนหัวใจ
ที่ยิ่งใหญ่ใช่คือฝัน
คงเป็นสิ่งสำคัญ
แค่มีกันเท่านั้นพอ
บนถนนหัวใจ
จะก้าวไปไม่มีท้อ
จุดหมายที่เฝ้ารอ
เราเสริมต่อก่อให้เต็ม
15 มีนาคม 2548 01:28 น.
เรไร
ยามดึกดื่น เลยล่วง แสนห่วงเพื่อน
อยากจะเตือน เอาไว้ ให้สักหน
โดยเฉพาะ สตรี มีหลายคน
จะโดนบ่น ก่นด่า นึกว่าพร
หากว่ายัง สวยสดใส วัยสะพรั่ง
ควรระวัง ไว้เป็น อุทาหรณ์
อยู่ดึกดืน ค่อนราตรี มิหลับนอน
จงลงกลอน หน้าต่าง อย่าวางใจ
โจรผู้ร้าย มากอยู่ ดูเยอะแยะ
จ้องงัดแงะ บ้านเธอ อย่าเผลอไผล
ติดเหล็กดัด ป้องกันไว้ ไม่เป็นไร
แต่ยังไง ให้มิดชิด ปิดประตู
กันงูเงี้ยว เขี้ยวขอ อสรพิษ
อาจโดนปลิด ชีวา น่าอดสู
ต้องวายปราณ ด้วยฤทธิ์ พิษของงู
อย่าลืมดู เข้มงวด คอยตรวจตรา
ทั้งประตู หน้าต่าง อย่าวางเฉย
ทำละเลย มิคำนึง ถึงปักษา
จะฝากรอย เหยียบย่ำ ซ้ำบาทา
ที่หางตา เป็นร่องลึก จงตรึกตรอง...(แถวบ้านเรียก ตีนกา)
7 มีนาคม 2548 13:27 น.
เรไร
หากบอกว่าฉันเหงา
ผู้คนเขาคงขำขัน
เริงร่าอยู่ทุกวัน
แล้วฉับพลันมาเปลี่ยนไป
ค่ำคืนกลางคิมหันต์
แต่หนาวสั่นทนไม่ไหว
อดสูอยู่ในใจ
มองหาใครไม่เห็นมี
ห่มผ้าสักกี่ผืน
สะดุ้งตื่นเหมือนถูกผี
อำเราร้าวฤดี
ค่อนราตรีมิหลับนอน
ยิ่งดึกยิ่งสงัด
หมาจรจัดมันกลับหอน
หวาดหวั่นใจสั่นคลอน
ยิ่งขวัญอ่อนจะอ้อนใคร
มีแต่ปลาในตู้
ว่ายเวียนอยู่มิหลับไหล
มองฉันหิวหรือไง
กินเข้าไปได้เลิกมอง
ขวัญเอ๋ยเจ้าขวัญแก้ว
กระเจิงแล้วไม่แคล้วหมอง
ความเศร้าเข้าจับจอง
ณ หอห้องของทหัย
สงสัยจะใกล้บ้า
มองเห็นปลามันพูดได้
เจรจาว่ากระไร
มิเข้าใจบอกอีกที
ก็เอ็งน่ะฟุ้งซ่าน
มัวฝันหวานเขาก็หนี
สมแล้วโดนย่ำยี
โดนสักทีจะได้จำ
รอยรักมันฝังลึก
ความคิดนึกลึกถลำ
หวานล้ำเป็นคำนำ
รอยชอกช้ำตามติดมา
สุดแสนจะขวยเขิน
หมายังเมินมิเหลียวหา
นั่งดูแต่ตู้ปลา
คงใกล้บ้าแล้วสิเรา
5 มีนาคม 2548 09:46 น.
เรไร
หากสองเรารักมั่น
ก็แต่งงานกันดีไหม
ได้เกี่ยวดองสองใจ
อยู่อาศัยร่วมชายคา
ให้ผู้ใหญ่สู่ขอ
เจ้าจงรอรับเถิดหนา
เงินทองเพชรนิลจินดา
ตระเตรียมมาให้ครบครัน
พิธีการขันหมาก
แห่ไปจากบ้านของฉัน
ขนมนมเนยสารพัน
สินสอดทองหมั้นบรรจง
คล้องห่วงบ่วงมงคล
บันดาลดลสมประสงค์
รักกันเป็นมั่นคง
ให้พระสงฆ์เจริญพร
ให้ผู้เฒ่าผู้แก่
ทั้งพ่อแม่เรามาสอน
อยู่กันนิรันดร
มิสั่นคลอนให้จีรัง
บรรเลงเพลงกล่อมหอ
แขกเหลื่อรอหลั่งน้ำสังข์
เคลิบเคลิ้มยามได้ฟัง
หลงภวังค์ไปทั้งงาน
งานฉลองสมรส
ได้กำหนดวิวาห์หวาน
ติดตรึงซึ้งดวงมาน
สุขสำราญงานมงคล
ก่อนที่จะไปเขียน
ขึ้นทะเบียนขอสักหน
ดวงแดแม่หน้ามล
อย่าสับสนฟังให้ดี
ทะเบียนสมรสนั้น
คือผูกพันฉันไม่หนี
แต่อายุที่มี
ครบหนึ่งปีมาต่อที...ก็แล้วกัน
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เมื่อวาน ไปบ้านเพื่อนกันหลายคน นั่งคุยกันสารพัดเรื่อง
เพื่อนให้แฟนไปหยิบของให้หน่อย อะไรให้ไม่รู้ จำไม่ได้
แต่แฟนเพื่อนไม่ยอมไปหยิบให้ เพื่อนผมเลยขู่แฟน
บอกเดี๋ยวเถอะไม่ไปต่อทะเบียนให้
ผมก็ถาม ต่อทะเบียนอะไรหว่า
เพื่อนตัวดีมันบอกว่า ทะเบียนสมรส น่ะสิ รู้งี้ปล่อยให้ขาดไปตั้งนานแล้ว
ไม่น่าไปต่อเล้ย .... ขำกันวงแทบแตก ...
สักพัก แฟนเพื่อนผมก็ไปหยิบของ ...
แต่ไม่ได้ส่งกับมือน่ะ ส่งมากลางอากาศเลย 5555
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
1 มีนาคม 2548 01:10 น.
เรไร
ไม่ต้องกล่าว คำร่ำลา เมื่อคราจาก
ไม่ต้องฝาก คำหวานซึ้ง คิดถึงฉัน
ไม่ต้องเอ่ย ว่ากี่ปี มิลืมกัน
ไม่ต้องหวั่น จะไป ไม่หันมา
เป็นแค่เพียง ลมหนาว คราวพัดผ่าน
เป็นตำนาน พลั้งพลาด ปรารถนา
เป็นอย่างที่ ควรเป็น ใช่เย็นชา
เป็นเพราะว่า ทางที่ต่าง ห่างออกไป
อะไรหรือ คือความจริง สิ่งที่หวัง
อะไรยัง ยื้อยุด ฉุดเอาไว้
อะไรทำ ร้องไห้โฮ โศกาลัย
อะไร อะไร ร้าวฉาน มันด้านชา
แล้ววันนี้ ถึงวัน ฉันได้คิด
แล้วดวงจิต เลิกขลาด หวาดผวา
แล้วสติ พลิกฟื้น คืนศรัทธา
แล้วน้ำตา ก็แห้งหาย ไปได้เอง
ตัวเองคิดว่ารู้ ทุกอย่าง
เห็นซึ่งในหนทาง พลาดพลั้ง
มัวจมกับรักร้าง แล้วนั่น
หดหู่อีกกี่ครั้ง หากแม้ ไม่ยอม ทำใจ