12 พฤษภาคม 2548 22:14 น.
เรไร
จดปากกาจารึกลงบนกระดาษ
บรรจงวาดเรื่องราวความรู้สึก
ที่ผ่านมาตามจิตที่คิดนึก
เรื่องร้าวลึกหลายหนยังวนเวียน
บทกวีบางบทนั้นรำพันว่า
เอาน้ำตาร่วงลงบรรจงเขียน
ความทุกข์ทนมากมายหลายเล่มเกวียน
สร้างบทเรียนสอนไว้หัวใจตน
บางบทสร้างความสุขสนุกสนาน
ให้หน้าบานยิ้มได้ตั้งหลายหน
เรื่องขี้เมาลึกลับเรื่องสัปดน
ให้ผู้คนได้อ่านสำราญใจ
บางบทเล่าเรื่องราวเงาชีวิต
ทางลิขิตสับสนเกินทนไหว
ดูสิ้นไร้ไม้ตอกจะบอกใคร
หาทางใหม่ที่จะไปยังไม่เจอ
บทบางบทพบทางสว่างไสว
ก้าวเดินไปบางครั้งก็พลั้งเผลอ
คิดวาดพบสิ่งประเสริฐแสนเลิศเลอ
หลงพร่ำเพ้อเฝ้าถวิลจินตนา
บทกวีบางบทแสนหดหู่
น่าอดสูสะท้อนความอ่อนล้า
สูญสิ้นหวังน่าสมเพทเวทนา
สาเหตุมาจากความลำเค็ญมิเว้นวาง
มีบางบทค่อนแคะเที่ยวแขวะเขา
โถน่าเศร้าคำน้อยคอยถากถาง
แสดงท่าจริงใจไม่ซ่อนพราง
ว่าเปลือกบางไร้คราบมาฉาบกาย
บทกวีร้อยฝันรำพันถึง
ห้วงคำนึงดวงทหัยให้มั่นหมาย
กลัวว่าความรักนั้นจักวอดวาย
สูญสลายไปลับกับสายลม
บางบทแสร้งซ่อนเล่ห์สเน่หา
ในอุราทวงถามความสุขสม
บทระรื่นชื่นชีวากามารมณ์
หลงในหล่มสุนทรียรสบทอัศจรรย์
บทบางตอนร้อนรุ่มกลุ้มใจแท้
ในดวงแดงายงมจมโศกสันต์
คร่ำครวญถึงเหว่ว้าแสนจาบัลย์
มิรู้วันสดชื่นลืมหายไป
บางบทเขียนเวียนวนจนเวียนหัว
หน้ามืดมัวตาลายให้สงสัย
นั่งถ่างตาอย่างนี้มีอะไร
คนว่าให้บ้านี่หว่าบ้าเขียนกลอน
11 พฤษภาคม 2548 16:33 น.
เรไร
วันแห่งวัยล่วงเลยผ่านมานานแล้ว
ไร้วี่แววไขว่คว้าหาสุขสม
ให้ชีวาทวงถามความภิรมย์
เศร้าตรอมตรมเป็นเงาทาบทับวิญญาณ์
เหลือเพียงแค่หัวใจที่ผ่ายผอม
จึงจำยอมรับสภาพอนาถา
อยู่มันไปอย่างท้อรอเวลา
ขอรักษาหัวใจให้ทุเลา
เคยหนาวสั่นสะท้านเมื่อวานนี้
เห็นอัคคีกองเพลิงเริงร้อนเร่า
หวังไปแนบแอบอิงไอบรรเทา
ขยับเข้าหาไออุ่นละมุนละไม
ทั้งเห็นความเรืองอร่ามแลงามผ่อง
ยามเมื่อมองเห็นทางสว่างไสว
คอยเติมเชื้อใส่ขอนฟ่อนฟืนไฟ
จนเผลอไผลสร้างกรอบล้อมรอบตัว
เป็นกำแพงอัคคีที่ร้อนรุ่ม
ค่อยค่อยสุมลุกลามตามไปทั่ว
เกือบถูกเผาเพราะเราหลงเมามัว
มิขลาดกลัวจึงแทบตายวายชีวา
จึงดิ้นรนตาเหลือกกระเสือกกระสน
อยากหลุดพ้นออกไปใจคิดฝ่า
ต้องบาดเจ็บกันบ้างเป็นธรรมดา
หลุดออกมาเริ่มต้นใหม่ได้อีกวัน
จึงยอมทนปวดร้าวจากหนาวเหน็บ
ยังจำเจ็บแสบร้อนเมื่อตอนนั้น
รอดมาจากกองไฟบรรลัยกัลป์
ยังหวาดหวั่นสั่นไหวมิหายเลย
อยู่มันไปอย่างนี้คงดีกว่า
ให้ด้านชาชินไว้ใจเจ้าเอ๋ย
หากไขว่คว้าไออุ่นที่คุ้นเคย
มิวางเฉยความโศกาคงมาเยือน
9 พฤษภาคม 2548 18:59 น.
เรไร
แ ม้ น หั ว ใ จ ย่ อ ย ยั บ นั บ ห มื่ น ห น
เ จ็ บ จึง ท น ร้ า ว ร อ น ด้ ว ย อ่ อ น ล้ า
ล่ ว ง เ ล ย วั ย ผั น ผ่ า น ก า ล เ ว ล า
ยั ง ค ง ต ร า ต รึ ง ไ ว้ ใ น ก ม ล
ใ ค ร ค น ห นึ่ ง เ ดิ น เ ดี ย ว ด า ย ใ ต้ ผื น ฟ้ า
ทั้ ง อุ ร า วุ่ น ว า ย ค ล้ า ย สั บ ส น
เ พี ย ง หั ว ใ จ ม อ บ อุ่ น ไ อ ใ ค ร สั ก ค น
พ า ก้ า ว พ้ น วิ ป โ ย ค อั น โ ศ ก ต ร ม
ณ ต ร ง นี้ ค ว า ม ห วั ง ยั ง ร อ ยู่
จ ง รั บ รู้ ค น ค อ ย ดั บ ทุ ก ข์ ทั บ ถ ม
จ ะ ค อ ย ซั บ น้ำ ต า ค ร า ร ะ ท ม
ค ว า ม ขื่ น ข ม ชี ว า ม า แบ่ ง ปั น
เ อ า ท่ อ น แ ข น อุ่ น อุ่ น ห นุ น แ ท น ห ม อ น
ข อ จ ง น อ น ห ลั บ ต า นิ ท ร า ฝั น
จ ง ลื ม เ รื่ อ ง ร้ า ว ร าน ใ น ว า น วั น
สู่ ห้ ว ง ห ร ร ษ ทุ ก ข์ ใ ด ไ ด้ บ ร ร เ ท า
ม อ ง น ภ า สุ ก ส ก า ว ด าว ด ว ง นั้ น
เ ค ย ห น า ว สั่ น อุ ร า พ า เ งี ย บ เ ห ง า
ม า แ บ่ ง ปั น อุ่ น ไ อ หั ว ใ จ เ ร า
ร่ ว ม ผิ ง ด า ว อ า ศั ย รั ก ใ ห้ พั ก พิ ง
ฝ า ก ด อ ก ไ ม้ น า น า น พ ร ร ณ
ฝ า ก ค ว า ม ฝั น อั น สู ง ค่ า
ฝ า ก ร อ ย ยิ้ ม แ ล ะ นำ ต า
ที่ ห ลั่ ง ม า จ า ก หั ว ใ จ
ฝ า ก ส า ย รุ้ ง ที่ แ พ ร ว พ ร า ว
ฝ า ก แ ส ง ด า ว อั น แ ส น ไ ก ล
เ ป็ น บ ท เ พ ล ง อ่ อ น ห ว า น
เ ป็ น ส า ย ธ า ร อ่ อ น ไ ห ว
ฝ า ก รั ก ห ว า น ล ะ ไ ม . . . ม อ บ ใ ห้ เ ธ อ
ใ ห้ เ ธ อ ก้ า ว ไ ป อ ย่ า ไ ห ว ห วั่ น
จุ ด ห ม า ย ร่ ว ม กั น เ ร า ฝั น ใ ฝ่
ใ ห้ โ ล ก นี้ ง ด ง า ม เ กิ ด ค ว า ม สุ ข ส ด ใ ส
มี ร อ ย ยิ้ ม ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ม อ บ ใ ห้ ทุ ก ค น
ป ลู ก ค ว า ม ฝั น อั น ยิ่ ง ใ ห ญ่
ก ว่ า ด ว ง ใ จ ทุ ก ด ว ง
จุ ด ไ ฟ รั ก ใ ห้ โ ช ติ ช่ ว ง
ดั บ ไ ฟ ล ว ง เ ล่ ห์ ม า ย า
โ ล ก ส ว ย ด้ ว ย น้ำ ใ จ
เ ป็ น รั กใ ห ม่ เ ร า ขึ้ น ม า
คื น นี้ ถ้ า เ ธ อ ห น า ว ร่ ว ม ผิ ง ด า ว บ น ฟ้ า
. . . . จ า ก รั ก จ า ก ศ รั ท ธ า. . . ข อ ง เ ร า
ผิ ง ด า ว
ชู เ กี ยร ติ ฉ า ไ ท ส ง
9 พฤษภาคม 2548 13:22 น.
เรไร
ร้อนกันนักจักพาไปพักร้อน
หลบไปนอนกอบสุขทุกข์จงหลบ
พบผองเพื่อนเยือนมิตรที่คิดพบ
ไปเพื่อลบรอยเศร้าเอาทิ้งไป
ท่องเที่ยวทั่วท้องถิ่น ณ ดินแดน
สวยสุดแสนสวนสน แนวต้นไม้
อิ่มเอมอกอุ่นอาบ ซาบซึ้งใจ
มีมิตรใหม่มากมาย หลายหลายคน
เชิญมาร่วมพร้อมพรักสมัครสมาน
เริงสราญเพื่อหยุดให้หลุดให้พ้น
ลืมหมางเมินหมองมัวทั้งตัวทั้งตน
สิ้นสับสนทุกข์ทนกระวนกระวาย
ผูกไมตรีกลมเกลียวเกี่ยวใจผูก
หมายร่วมปลูกความฝันด้วยมั่นหมาย
อายใยเพื่อนหากจริงใจใยต้องอาย
เพียงสร้างสายสัมพันธ์กันพร้อมเพียง
8 พฤษภาคม 2548 05:08 น.
เรไร
กลางหาดทรายเงียบงันวันเหงาเหงา
แสงโสมเศร้าสาดส่องเพียงมองเห็น
ระลอกคลื่นแตกละอองฟองกระเซ็น
ลมพัดเย็นพาไออาบฉาบผิวกาย
กลางหาดทรายเหน็บในสายลมผ่าว
ในค่ำคืนที่แสงดาวมีความหมาย
เพียงมีเจ้าเคียงคู่อยู่มิคลาย
ไม่แหนงหน่ายหักเหแม้เวลา
ในอ้อมอกโอบกอดพรอดจุมพิต
แนบสนิทดั่งต้องมนต์เสน่หา
ในอ้อมแขนเชยชิดแนบนิททรา
ใต้ฟากฟ้าพักพิงอิงอุ่นไอ
พรจุมพิตจงลืมโลกที่โศกเศร้า
ทิ้งความเหงาให้ที่พักรักอาศัย
ให้พรนี้เหนือค่ากว่าพรใด
พำนักใจมาแอบอิงนั่งผิงดาว