4 พฤศจิกายน 2548 00:11 น.

นางฟ้าจำแลง

เรไร


ฉันเห็นภาพนางฟ้าเอื้ออารี
ผู้แสนดีสถิตห้วงสรวงสวรรค์
มีเมตตาหาผู้ใดใครเทียมทัน
หลงใฝ่ฝันหมายปองจับจองใจ

เห็นเพียงภาพฉาบไว้บนใบหน้า
หลงมารยาของเธอจนเผลอไผล
ความโง่เง่าเขลาโฉดจะโทษใคร
มิฉงนสงสัยในอุรา

ฟังถ้อยคำฉ่ำหวานพาลหลงซื่อ
คิดว่าคือนางสวรรค์จากชั้นฟ้า
เพลินหลงใหลไปกับคำพูดจา
ปลอบประโลมยามเหว่ว้าว่าห่วงกัน

อีกแววตาอาทรผ่อนความเศร้า
ลวงหลอกเราปักใจไปเชื่อมั่น
สุดท้ายกลับกระชากหน้ากากพลัน
นางสวรรค์กลับกลายคล้ายนางมาร


เมื่อนางฟ้าแสนดีหนีไปแล้ว
ไม่เหลือแววภาพฝันอันแสนหวาน
นึกกว่าอยู่บนสวรรค์ชั้นวิมาน
เวลาผ่านก็เห็นความเป็นจริง

ก็เป็นคนเดินดินกินข้าวแกง
ทำเสแสร้งว่าฉันนั้นดียิ่ง
เอาร่างให้ซาตานมารพักพิง
ยอมถูกสิงแลกชื่อเสียงอันเกรียงไกร
				
1 พฤศจิกายน 2548 19:05 น.

If Tomorrow Never Comes

เรไร


ถ้าหากรุ่งพรุ่งนี้ไม่มีฉัน
ทิวาวันมิข้ามกาลผ่านไปถึง
ราตรีนี้คงครุ่นคิดจิตคำนึง
เพ้อรำพึงคิดมากมิอยากนอน

จึงมิกล้าหลับตาในค่ำคืน
กลัวไม่ฟื้นสิ้นใจอยู่ใกล้หมอน
เพราะว่ายังห่วงหาและอาวรณ์
มิอาจซ่อนความห่วงใยในสายตา

นั่งเฝ้ามองเหม่อดูคู่ชีวิต
หลับสนิทมีรอยยิ้มพริ้มใบหน้า
จะมีฉันบ้างไหมในนิทรา
กลัวแต่ว่าความฝันนั้นเลือนลาง

ถึงแม้เหลือเวลาอยู่แค่นี้
ก่อนราตรีลับลาอุษาสาง
ว่ารักที่มอบให้ไม่เคยจาง
ใจและร่างทั้งชีวีพลีให้เธอ

หากว่ารุ่งทิวามาไม่ถึง
ความหวานซึ้งถ้อยคำที่พร่ำเพ้อ
ใช่เป็นเพียงลมผ่านไปให้ละเมอ
อย่าให้เก้อว่ามีฉันนั้นห่วงใย

หากสวรรค์เบื้องบนดลบันดาล
ให้เพียงผ่านถึงรุ่งสางสว่างไสว
ขอเอ่ยคำว่ารักจากหัวใจ
ขอฝากไว้คงมั่นดังสัญญา

แต่ถ้าหากพรุ่งนี้ไม่มีฉัน
ฝากความฝันสักหนให้ค้นหา
จงข้ามผ่านโศกเศร้าเหงาอุรา
ถึงแม้ว่าวันพรุ่งนี้ไม่มีเรา
 				
30 ตุลาคม 2548 10:21 น.

ดาวดวงน้อย

เรไร


เธอเป็นดั่งดาวดวงน้อย
ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า
ส่องแสงสว่างนำพา
ชีวาคนสิ้นกำลัง

เธอเป็นดั่งดาวดวงน้อย
ที่คอยนำทางสร้างหวัง
ฟื้นซากหัวใจผุพัง
เป็นดั่งแสงทองของใจ

เธอเป็นดั่งดาวดวงน้อย
ล่องลอยเกินฉันคว้าไขว่
เหมือนภาพความฝันห่างไกล
เพียงไหนใช่สิ่งสำคัญ

เธอเป็นดั่งดาวดวงน้อย
ที่ลอยอยู่กลางใจฉัน
สถิตชั่วนิจนิรันดร์
ตราบวันชีวินสิ้นลม 
				
25 ตุลาคม 2548 22:27 น.

ฟากฝั่งฝัน

เรไร


เรือลำน้อยอยากเล่นลมชมคลื่นเห่
กลางทะเลปรวนแปรแผ่ไพศาล
เอากายเป็นลำเรือเพื่อล่องธาร
จิตวิญญาณแทนใบในวารี

นำความหวังฝันใฝ่ใส่หางเสือ
เอาความเชื่อศรัทธาทำหน้าที่
เป็นเข็มทิศนำทางกลางนที
เป็นเครื่องชี้จุดหมายให้ชีวา

ออกจากท่าที่เทียบอย่างเงียบเหงา
เพียงสำเภาดั้นด้นออกค้นหา
อย่างเคว้งคว้างล่องไปในธารา
ต้องฟันฝ่าก็มิหวั่นอันตราย

ย่อมต้องมีอุปสรรคคอยขัดขวาง
ในระหว่างทางถึงซึ่งจุดหมาย
มีทั้งลมพัดเฉียงมาเรียงราย
ทั้งคลื่นร้ายพายุโถมเข้าโรมรัน

ยามทะเลราบเรียบเปรียบกระจก
หวาดวิตกคว้างคว้างเหมือนร้างฝัน
ยามราตรีไร้เงาทาบอาบแสงจันทร์
ก็มิหวั่นยังร่อนเร่พเนจร

เสียงดวงดาวกระซิบแผ่วดังแว่วหวาน
เรื่องร้าวรานเป็นดั่งว่าอุทาหรณ์
เมื่อสายลมแห่งรักเอื้ออาทร
เจ้าคงจรถึงฝั่งฝันอันแสนไกล
				
24 ตุลาคม 2548 21:14 น.

คนคุ้นใจ

เรไร


ไม่มีใครไม่มีใครในตาสอง
ที่จะมองแล้วรู้สึกนึกโหยหา
มิมีใครเมื่อพบได้สบตา
แล้วประหม่าไหวหวั่นนั้นไม่มี

คนคุ้นเคยมิตรสหายมากมายนัก
หาคนจักรู้ใจหาใครที่
เพียงสบตาซ่านทรวงดวงฤดี
ในโลกนี้มีไหมใครเทียมเธอ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเรไร