21 เมษายน 2549 10:03 น.
เรไร
เคว้งคว้างเพราะว่างเปล่า.....ที่เงียบเหงาเพราะเศร้าหมอง
เจ็บช้ำน้ำตานอง...................แล้วจะโกรธจะโทษใคร
ทุ่มเทเสาะแสวง...................พอรู้แจ้งแล้วไฉน
แหนหวงห่วงอาลัย.................มิอยากให้ไกลลับลา
กระโจนลงห้วงเหว.................ดีหรือเลวไม่รู้ว่า
เดินตามปรารถนา.................จะขีดเส้นให้เป็นไป
สมปองได้ครองคู่....................คอยเชิดชูพิสมัย
ยื้อยุดสุดหัวใจ........................ก็จากไปไม่เหลียวแล
เคว้งคว้างเพราะว่างเปล่า.......ต้องทนเหงาเพราะพ่ายแพ้
น้ำตาท่วมดวงแด...................จะหวั่นใดในช้ำตรม
ดอกไม้ยังงดงาม.....................แม้มีหนามที่แหลมคม
เมื่อยามแซมเสียบผม.............ได้ชื่นชมด้วยสายตา
ท้องฟ้ายังสดสวย.....................ระบายด้วยเมฆบนฟ้า
อีกทั้งพสุธา.............................ยังมีป่าเขียวขจี
สายน้ำระเรื่อยไหล..................ปลาน้อยใหญ่ว่ายเร็วรี่
อาศัยในวารี............................ถึงแม้มีอันตราย
ผู้คนไม่สิ้นหวัง........................ทุ่มพลังทั้งร่างกาย
ดิ้นรนและขวยขวาย.................สุขสบายมาใส่ตัว
ชีวิตเพิ่งผลิแย้ม........................จะแต่งแต้มดีหรือชั่ว
เหตุผลหรือเมามัว.....................อยู่ที่จิตจะคิดตรอง
โลกนี้ก็ยังหมุน..........................อยู่ที่คุณจะหันมอง
รื่นรมย์หรือหม่นหมอง...............น้ำตานองหรือชื่นบาน
ลมหายใจยังมี...........................ก็อยู่ที่จะก้าวผ่าน
จะก้าวอย่างกล้าหาญ.................อยู่ที่การตัดสินใจ
19 เมษายน 2549 00:24 น.
เรไร
ค่ำแล้วสิมืดมน....................สุริยนก็หม่นแสง
ริ้วรอยประกายแดง...........ขณะแฝงนภาพราว
ค่ำคืนได้เริ่มต้น.................อีกคราว
คืนค่ำอันเหน็บหนาว..........เปลี่ยวร้าง
เด่นกระจ่างดวงดาว...........พราวระยับ
ดารดาษลอยคว้าง..............ประดับฟ้า ราตรี
หรีดหริ่งและเรไร................เสนาะใสสนั่นเสียง
ยามรับสดับเพียง..................กปณาอุราตน
เรื่องราวที่ปวดร้าว..............ทุกข์ทน
อาภัพแสนสับสน.................หม่นเศร้า
สุขสันต์รื่นกมล....................ผันเปลี่ยน
เวียนว่ายคอยวนเฝ้า............รอบล้อม เรียงราย
ดาราคะเนนับ........................สิประดับระยับฉาย
สุขสม ธ พร่างพราย................หฤทัยสุขารมณ์
เมื่อดาวแห่งโศกเศร้า.............ขื่นขม
จรัสแสงตรอมตรม..................เจิดจ้า
ช่วงชีวิตระทม.........................ถมทับ
ย่อยยับรอดาวล้า.....................เมฆซ้อน บดบัง
กี่คืน ฤ กี่วัน...........................วปุหวั่นมิมีหวัง
ชีพนี้จะอยู่ยัง...........................อนุมานทะเลดาว
15 เมษายน 2549 01:02 น.
เรไร
เมื่อวันวานหากใครได้ยินชื่อ
คนเขาลือต่างก็รักคุณทักษิณ
ทั้งใต้เหนือที่ไหนก็ได้ยิน
ทั่วทุกถิ่นอาณาเขตประเทศไทย
เหมือนศรัทธาเราสองเคยครองคู่
คอยเชิดชูสร้างฝันมิหวั่นไหว
สานสัมพันธ์ร้อยร่วมรวมดวงใจ
สร้างฝันใฝ่เพื่อวันอันงดงาม
เพราะทักษิณทำชั่วจึงมัวหมอง
ทั้งจำลองอ้างธรรมซ้ำเหยียดหยาม
สนธิด้วยพูดพร่ำว่าต่ำทราม
ลืมหมดความเป็นเพื่อนเหมือนไม่มี
เหมือนกับเธอหมางเมินทำเหินห่าง
รักมันจางจากใจจึงหน่ายหนี
คงอยากฆ่าให้ตายวายชีวี
เหมือนกับที่พันมิตรคิดก่อการ
โปรดเถิดนะดวงใจใช้เหตุผล
อย่าพร่ำบ่นเกรี้ยวโกรธโปรดสงสาร
อย่าเสือกไสไล่ส่งจนซมซาน
ไม่หน้าด้านเป็นก้างอยู่ขวางคอ
อย่าทำเกลียดเหยียดหยามตามสนธิ
อย่าได้ริอ้างธรรมทำหัวหมอ
เหมือนจำลองงี่เง่าเท่านั้นพอ
ฉันมาขอเว้นวรรคไม่รักเธอ
14 เมษายน 2549 00:07 น.
เรไร
นิยามว่ารักแท้.............ของคน
ชีวิตมีหนึ่งหน..............เท่านั้น
สุขและทุกข์ปะปน.......ขมขื่น
โศกสะอื้นอดกลั้น.......เชื่อไว้ ในนิยาม
ประสบการณ์ผ่านพ้น....วันวัย
เพียงเพราะว่าหัวใจ........พ่ายแพ้
ขื่นขมระทมใน.............หัวอก
ปลงตกว่ารักแท้...........มิได้ มีจริง
ความเอ๋ยความรัก
ยามสลักปักทรวงให้ห่วงหา
จนหลงใหลได้ปลื้มลืมเวลา
เพียงเพราะค่าคำหวานซ่านฤทัย
ดังดื่มด่ำน้ำอ้อยอร่อยลิ้น
ชวนถวิลหลงรสอดมิไหว
หากต้องงดดื่มกินคงสิ้นใจ
เสาะแสวงคว้าไขว่มาให้ตน
คำนิยามว่าไว้ในรักแท้
หนึ่งชีวิตพบแน่แค่หนึ่งหน
เพียงหนึ่งครั้งสลักจิตชีวิตคน
แต่ฉันค้นพบทางที่ต่างกัน
เพราะมิเคยรู้ซึ้งถึงความหมาย
ใจและกายวิปโยคจมโศกศัลย์
เข็ดขยาดรสหวานมานานวัน
ดื่มแล้วมันขมขื่นกลืนไม่ลง
คำนิยามว่าไว้ในรักแท้
ก็เป็นแค่สิ่งยั่วยวนชวนลุ่มหลง
ฉันไม่อยากพ่ายแพ้ได้แต่ปลง
ใจสาปส่งนิยามนั้นมันหลอกลวง
14 เมษายน 2549 00:00 น.
เรไร
เงินเงินเงินเงิน
น่าเศร้าเหลือเกิน........คนเมินหน้าหนี
ฉันมันจนยาก..............ลำบากทั้งปี
ไม่ใช่เศรษฐี...............มั่งมีเงินตรา
ที่พึ่งคือหวย
หวังให้โชคช่วย...........ร่ำรวยสักครา
ชีวิตรื่นรมย์.................สมปรารถนา
คงมีคุณค่า..................ราคาของคน
จะไปหาเธอ
ทรัพย์สินปรนเปรอ......เลิศเลอสุขล้น
เงินทองมากมาย.........ถวายหน้ามน
ไม่มีเล่ห์กล................อยากดลบันดาล
โปรดอย่าโกรธเคือง
ตัวฉันมีเรื่อง...............ข้องใจมานาน
ต้องเอาเงินทอง..........มากองกี่ล้าน
จึงได้พบพาน..............รักแท้จากเธอ