ตอน 16
รุ่งเช้าแพรวพรรณและอานนท์ต่างก็ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดีกับเหตุการณ์ที่ประสพมาเมื่อคืน หากเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้โชคฟัง เขาจะเชื่อหรือเปล่า แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของแพรวพรรณก็ดังขึ้น
“กิตติ”
หญิงสาวยังคงไม่รับสายนั้น แต่ปล่อยให้เสียงโทรศัพท์ดังไปเรื่อยๆ หล่อนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ใช่แล้วหล่อนควรจะเร่งให้กิตติไปตามรันชรีโดยเร็ว เพื่อหล่อนจะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วรันชรียังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่บัดนี้หล่อนอุ่นใจขึ้นมาก เพราะก่อนออกจากวัด พระชราเจ้าอาวาสได้มอบน้ำมนต์และด้ายสายสิญจน์ให้กับทั้งแพรวพรรณและอานนท์
“คุณกิตติ คุณอยากเจอรันชรีไหม ตอนนี้รันอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ ฉันเพิ่งคุยกับเขาเมื่อวานนี้ และบอกว่าคุณกำลังจะไปหาและเอาเงินไปคืน ฟังจากน้ำเสียงแล้วรันคงดีใจมากและบอกว่าจะรอคุณอยู่ที่บ้าน คุณรีบไปหารันสิ” แพรวพรรณสร้างเรื่องขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เหมือนคนบนฟ้าต้องการอยากให้เขาไถ่บาปจากความผิดครั้งยิ่งใหญ่ ในที่สุดเขาก็จะได้พบกับรันชรีอีกครั้งหนึ่ง เขาไม่หวังที่จะให้รันชรียกโทษให้ เพียงแต่ยอมรับฟังคำขอโทษจากเขาก็เพียงพอแล้ว เขาพร้อมจะทำทุกอย่างที่รันชรีต้องการ หากมันจะทำให้ความผิดที่เขาทำกับเธอมันเบาบางลงได้
หลังจากวางสาย กิตติจัดการเคลียร์เอกสารและงานทุกอย่าง ก่อนจะบอกทุกคนว่าจะไปธุระที่กรุงเทพฯ สักสามสี่วัน
..........................................................................................................................
แม้ว่าจะมาเป็นปี แต่กิตติก็จำทางไปบ้านหญิงอันเป็นที่รักได้อย่างแม่นยำ เลี้ยวตรงสามแยกข้างหน้าก็จะถึงแล้ว แต่เขาก็ต้องแปลกใจกับทัศนียภาพรายรอบ หากนับจากปากซอยจนถึงบ้านหญิงสาวน่าจะมีบ้านที่ดูเหมือนมีผู้คนอยู่อาศัยเพียง 4-5 หลังเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้าน ข้างบ้าน ล้วนแล้วแต่ติดประกาศขายบ้านกันทั้งนั้น คงมีเพียงบ้านของรันชรีเพียงหลังเดียวที่มีคนอาศัยอยู่ยิ่งท้องฟ้ามืดครึ้มเช่นนี้บรรยากาศมันช่างวังเวงจนขนหัวของเขาลุกชัน
แต่ก็ช่างเถอะใครจะอยู่หรือจะไปมันไม่เกี่ยวอะไรกับเขา สิ่งที่เกี่ยวกับเขามีเพียงรันชรีคนเดียวเท่านั้น
เขาก้าวขาลงจากรถ สายลมแรงๆ วูบใหญ่พัดผ่านกายเขาไป เขารู้สึกมึนๆ ในศีรษะ แต่ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าคงเป็นเพราะเขาขับรถมาไกลจึงเกิดอาการเพลีย ประกอบกับความตื่นเต้นที่จะได้พบรันชรีอีกครั้งหนึ่ง
ดอกกุหลาบสีแดงยังคงแย้มบานเหมือนครั้งที่เขาเคยมาที่นี่กับรันชรี สนามหญ้าเขียวขจีราวกับถูกห่มคลุมด้วยผ้ากำมะหยี่ผืนใหญ่ แต่ก็เขาก็ยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าเหตุใดเพื่อนบ้านจึงหายไปหมด แล้วหญิงสาวอยู่อย่างไรท่ามกลางบ้านที่ไม่มีคนอยู่เช่นนี้ รันชรีอยู่บ้านคนเดียว หากเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวจะทำเช่นไร ความห่วงใยในตัวหญิงสาวเริ่มตีตื้นตามมา
ครืน...ครืน...
กัมปนาทจากฟากฟ้าส่งมาจากเบื้องบน เมฆดำลอยเลื่อนมาบดบังความสว่างไสวจากแสงอาทิตย์ เขาแหงนมองที่มาของเสียงจากเบื้องบน พลางกดกริ่งที่หน้าบ้าน
เหมือนจะหยุดลมหายใจของตนเอง ทันทีที่หญิงสาวเปิดประตูกระจกบานใส รอยยิ้มที่เขาคุ้นเคยถูกประทับลงไปในใจอีกครั้ง แม้จะซูบผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ใบหน้ารันชรียังคงน่ารักมีเสน่ห์เช่นเดิม หญิงสาววิ่งออกมาแล้วหยุดอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“รัน...” บุรุษผู้สำนึกผิดเอ่ยชื่อหญิงสาวอีกครั้ง
ไม่มีคำพูดใดๆ จากหญิงสาว เธอเปิดประตูรับชายที่ตนรักหมดหัวใจ มีเพียงรอยยิ้มและอ้อมกอดเท่านั้น ที่หญิงสาวทักทายเขาแทนคำพูด
“รัน ผมกลับมาหาคุณแล้ว” เขาเอื้อนเอ่ยต่อหญิงสาว
“ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ผมเถอะที่รัก ผมรักคุณ” ความรู้สึกผิดพรั่งพรูออกมาเป็นคำพูด
“ไม่เป็นไรค่ะที่รัก มันผ่านไปแล้วและมันก็จบไปแล้ว รันรักคุณค่ะ รันรอคุณทุกวันแล้ววันนี้คุณก็กลับมาหารัน” หญิงสาวพูดทั้งน้ำตา
“หยุดร้องไห้เถอะคนดีของผม ต่อไปนี้ผมจะไม่ทำให้คุณร้องไห้อีก” ฝ่ายชายใช้มือเช็ดน้ำตาให้หญิงสาวแล้วฝากรอยจุมพิตไปทั่วใบหน้าเล็กๆ นั้น
ครืน...ครืน...
ประหนึ่งใครสักคนบนฟากฟ้าจะเป็นพยานสำหรับการกลับมาขอโทษของกิตติในวันนี้ ในที่สุดฝนเม็ดเล็กๆ ก็โปรยปรายลงมา
“เข้าบ้านเถอะค่ะ” หญิงสาวจูงมือชายคนรักไปที่ประตูบ้าน
ทุกอย่างภายในบ้านยังคงเหมือนเมื่อครั้งที่เขาเคยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับหญิงสาว ความสุขอย่างหาที่เปรียบไม่ได้มันเอ่อล้นเต็มหัวใจของชายผู้สำนึกผิด เขาจะไม่มีวันทำร้ายหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าอีกเด็ดขาด เขาจะทำทุกอย่างให้ผู้หญิงคนนี้มีความสุข เขาพร้อมจะจัดพิธีแต่งงานหากหญิงสาวต้องการ
หญิงสาวเดินนำหน้าฝ่ายชาย เมื่อถึงห้องโถงกลางบ้านฝ่ายชายสวมกอดหญิงสาวจากด้านหลัง หญิงสาวหันหน้ากลับมาหาเจ้าของไออุ่นนั้น หน้ากับหน้าแทบจะชิดกัน
“รัน...คุณยังไม่ตอบผมเลยว่า จะยกโทษให้ผมไหม”
“รันไม่โกรธคุณและยังรักคุณเสมอคะ”
ฝ่ายชายเมื่อได้ยินเช่นนั้น ความรู้สึกผิดที่คั่งค้างอยู่ในใจมาแรมปีก็มลายหายไปสิ้น
เขาเลื่อนมือทั้งสองจากเอวอันกลมกลึงขึ้นทาบทับไปที่ใบหน้าของหญิงสาวแทน ใบหน้านั้นช่างนิ่มนวลเหมือนครั้งก่อนเก่าที่เขาเคยสัมผัสมาก่อน รอยจุมพิตในครั้งนี้ที่ประทับไปบนหน้าผากของหญิงสาว มันมาจากความรักทั้งหมดของเขา มันออกมาจากใจ มิใช่การเสแสร้งเหมือนการกระทำอันเลวทรามที่เขาเคยทำลงไป
“แค่คุณกลับมารันก็ดีใจแล้วค่ะ อะไรที่มันเลวร้ายเราอย่าพูดถึงมันดีกว่า” หญิงสาวบอก
“ได้จ๊ะคนดีของผม ต่อไปนี้ผมจะรักคุณและเราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน มีลูกด้วยกัน และจะไม่มีวันพรากจากกันอีก” กิตติบอกทุกอย่างตามที่ใจของเขาความจริงของหัวใจ
“ใช่ค่ะ เราจะไม่มีวันพรากจากกัน เราจะต้องอยู่ด้วยกันจนตาย” น้ำเสียงของหญิงสาวกลับเยือกเย็นลงในทันที แต่ผู้รับฟังไม่ได้คิดอะไร เขาคิดแต่เพียงว่าช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ของเขานี้ จะมีผู้หญิงที่ชื่อรันชรีเคียงข้าง และมีลูกมีหลาน สร้างครอบครัวขึ้นมาให้มีความสุข
หญิงสาวรั้งร่างของฝ่ายชายเข้ามาในแนบชิดยิ่งขึ้น ริมฝีปากเล็กๆ นั้นประทับไปที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างจงใจ เนิ่นนานเท่าใดแล้วที่กิตติไม่ได้รับสัมผัสแห่งรอยจุมพิตที่ร้อนแรงและอ่อนโยนในทีเช่นนี้ เขาผละออกจากหญิงสาว สองมือกุมหัวไหล่ของเธอไว้
“ผมรักคุณ ผมรู้แล้วว่าผมรักคุณ”
จากนั้นก็เป็นเขาเองที่ดึงร่างหญิงสาวนั้นมาประทับรอยจูบอีกครา แล้วค่อยๆ ช้อนร่างอันบอบบางนั้นหายลับเข้าไปในห้องนอน
ความอิ่มเอมจากรสสวาทที่หญิงสาวมอบให้ เขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอทำให้เขามีความสุขมาก นับตั้งแต่ที่เขาทำผิดต่อเธอ เขาได้ลิ้มลองรสสวาทนั้นจากหญิงสาวนับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเหมือนเธอคนนี้ อาจเป็นเพราะในรสสวาทนั้นมันถูกปรุงแต่งไปด้วยความรัก ความรักที่เธอมีต่อเขาและบัดนี้ในรสสวาทนั้นมันได้ผสมผสานความรักของเขาเข้าไปด้วย
“รันผมเอาเช็คมาคืนคุณ” ฝ่ายชายกำลังจะลุกจากเตียง แต่ถูกฝ่ายหญิงรั้งไว้เสียก่อน
“ไม่จำเป็นแล้วค่ะที่รัก ทุกอย่างมันจบไปแล้ว รันไม่ต้องการเงิน มีเพียงความรักจากคุณเท่านั้นที่รันต้องการ” หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาขณะนี้ แนบใบหน้าลงไปกับแผงอกอันเปลือยเปล่า มือข้างหนึ่งก็กอดก่ายเขาราวกับกลัวว่าเขาจะหนีหายไปอีกครา
“ผมขอโทษนะรัน ที่ผมต้องทำอย่างนั้น ผม...” หญิงสาวใช้ริมฝีปากตนเองประกบจูบฝ่ายชายเพื่อหยุดยั้งการเอ่ยอ้างถึงเหตุผลกับเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมา
เมื่อถอนรอยจูบนั้นออกมาแล้ว
“คุณไม่ต้องบอกเหตุผลอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างมันจบแล้ว รันไม่อยากฟังเรื่องเก่าๆ ต่อไปนี้จะมีแค่เรื่องของเราและความรักของเราเท่านั้นนะคะ คุณคือคนที่รันรักหมดหัวใจค่ะ”
โอ! รันชรี...
เขารำพึงชื่อหญิงสาวในลำคอ เหตุใดหนอตนจึงกล้าทำสิ่งที่เลวร้ายกับผู้หญิงที่จิตใจดีคนนี้ได้ เขาทำสิ่งที่ไม่ดีกับเธอ แต่เธอกลับไม่โกรธ ให้อภัยและยังให้โอกาสกับเขาอีกครั้งหนึ่ง ยิ่งคิดกิตติยิ่งรู้สึกผิด ความรักที่มีต่อหญิงสาวมันเอ่อล้นเต็มทุกห้องหัวใจจนไม่อยากจากเธอไปไหนอีกแล้ว
หลังฝนตก ท้องฟ้าย่อมแจ่มใสเสมอ กิตติรู้สึกเบาโล่งทั้งร่างกายและจิตใจ เขาไม่มีปมอะไรในใจที่ติดค้างอยู่อีกแล้ว หวนนึกถึงเช็คใบนั้นที่ยังคงนอนอยู่ในกระเป๋า เขาจะต้องคืนให้รันชรีให้ได้ แต่หากหล่อนยังปฏิเสธที่จะรับอีก เขากะว่าเอาไปคืนโชค เขาเหลือบตามองไปที่หญิงสาวที่กำลังหลับใหลอยู่ข้างๆ กาย แล้วค่อยๆ ลุกออกมาจากเตียงอย่างแผ่วเบาและเชื่องช้า เพราะเกรงว่าหล่อนจะตื่นจากการนิทราอันแสนสุขนั้น