ตอนที่ 12
แต่ในเหตุการณ์ระทึกนั้น มันกลับทำให้หญิงสาวคิดถึงวิธีการที่จะดึงให้ชายหนุ่มอยู่กับเธอเพียงลำพัง เพราะจากอ้อมกอดที่เธอกำลังถูกโอบอยู่นี้ มันช่างอุ่นทั้งกายและอุ่นทั้งใจ หญิงสาวถือโอกาสนี้รบเร้าให้ชายหนุ่มไปส่งที่บ้าน
“โชคค้างที่บ้านกับแพรวได้ไหม” หญิงสาวเอ่ยเมื่อชายหนุ่มขับรถมาจอดหน้าบ้านตน
“จะดีหรือแพรว เราอยู่กันแค่สองคน เดี๋ยวชาวบ้านรู้เข้าแพรวจะเสียหายนะ”
“ใครๆ ก็รู้ว่าเราเป็นเพื่อนกัน และเป็นหุ้นส่วนกันด้วย ไม่มีใครเขาคิดอย่างนั้นหรอก”
มันก็จริงอย่างที่หญิงสาวว่า คนส่วนใหญ่ในละแวกนี้ต่างก็รู้ว่าทั้งสองเป็นเพื่อนกัน และโชคก็เคยเข้านอกออกในบ้านหลังนี้มาตั้งแต่เด็กแต่...
“แม่บ้านก็อยู่นี่” ชายหนุ่มว่า
“เขาก็นอนในห้องเขา แพรวอุ่นใจกว่าหากคนที่อยู่ด้วยจะเป็นโชค...แพรวกลัวนะโชค” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมส่งสายตาอันเว้าวอน
ชายหนุ่มอดเป็นห่วงหญิงสาวไม่ได้แต่ในเสี้ยวความรู้สึกเขาเองก็พอจะรู้ว่าแพรวพรรณรู้สึกเช่นไร เพราะมีเพื่อนบางคนเคยบอกว่า แพรวพรรณแอบชอบตนอยู่ แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว บัดนี้ความรู้สึกของหญิงสาวอาจจะแปรเปลี่ยนไปก็เป็นได้ แต่ในความขัดแย้งของความรู้สึกนั้นทำให้เขาเริ่มคิดถึงอานนท์ เพราะหากอานนท์อยู่ด้วยอีกคนหนึ่งเขาคงไม่อึดอัดขนาดนี้
“แล้วนนท์ล่ะ เราโทรไปตามนนท์มาอยู่ด้วยกันดีไหม”
“นนท์ไปต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อวาน โชคลืมแล้วเหรอ” หญิงสาวตอบด้วยเสียงอ่อย
เมื่อทนรบเร้าจากเพื่อนไม่ไหว ประกอบกับในคืนนี้ฝนตกหนัก เขาเองก็ขี้เกียจขับรถกลับบ้านอยู่เหมือนกัน อีกทั้งแม่บ้านก็อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แพรวพรรณดีใจเป็นที่สุดที่จะได้อยู่กับชายที่หมายปองสองต่อสองภายในบ้านของตน หญิงสาวจัดแจงเสื้อผ้ามาให้ชายหนุ่มเปลี่ยนและผลักหลังชายหนุ่มให้ไปอาบน้ำก่อนตน แต่หลังจากที่หญิงสาวเข้าไปทำธุระของตนเสร็จสรรพ ชายหนุ่มก็ต้องตกใจในภาพเบื้องหน้าของตนเอง
แพรวพรรณในชุดนอนเนื้อบางเบา...
ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธเลยว่าหญิงที่อยู่เบื้องหน้านี้ เป็นหญิงสาวที่หน้าตาดี อีกทั้งรูปร่างที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ยิ่งอยู่อาภรณ์เช่นนี้แล้วหัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นๆ โดยยากจะควบคุม
เขาได้แต่เสตามองไปที่ทีวีจอใหญ่ในห้องรับแขก
“โชคไม่ต้องนอนที่โซฟาหรอก นอนห้องเดียวกับแพรวก็ได้ ห้องอื่นไม่ได้ทำความสะอาด”
ชายหนุ่มปฏิเสธ หญิงสาวก้าวเข้ามาอย่างเชื่องช้า ด้วยสายตาที่ยั่วยวน และทิ้งร่างลงบนโซฟาข้างๆ ชายหนุ่ม
“แหมโชค ตอนเด็กๆ เรายังเคยนอนด้วยกันเลย ขนาดตอนเรียนมหาวิทยาลัยเราก็ยังเคยนอนด้วยกันไม่ใช่เหรอ”
“มันไม่เหมือนกันนะแพรว นั่นเราอยู่รวมกันหลายคน” ชายหนุ่มพูดโดยไม่มองหน้าหญิงสาว
“หรือโชคคิดอะไรอยู่ แพรวคิดว่าโชคเป็นเพื่อน แพรวกับนนท์ยังเคยนอนห้องเดียวกันเลย”
หญิงสาวไม่พูดเปล่ากลับพาร่างในอาภรณ์เนื้อบางเบานั้น เข้าไปใกล้ชายหนุ่มแทบจะชิดบนโซฟาตัวใหญ่นั้น พลางจับข้อมือชายหนุ่ม
เหมือนร่างกายปราศจากการควบคุม ชายหนุ่มเดินตามหญิงสาวไปโดยดี ซึ่งเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจริงๆ แล้วในบัดนี้หญิงผู้ที่กำลังเกาะกุมข้อมือของเขาอยู่นี้ คิดอย่างไรกับเขากันแน่
หญิงสาวยิ้มให้กับความลุล่วงอีกหนึ่งเปราะ อย่างไรเสียคืนนี้เธอจะต้องหลับในอ้อมกอดของชายหนุ่มผู้นี้ให้ได้
เสียงฟ้าร้องยังดังกึกก้องเป็นระยะๆ สายฟ้าแลบแปรบปราบ แพรวพรรณเอามืดปิดหูพร้อมกับหลับตาปี๋ ปากก็ร้องด้วยความตกใจ หล่อนจงใจกระโดดเข้าหาชายหนุ่ม จนเขาตั้งตัวไม่ทัน ทำให้บัดนี้ร่างของคนทั้งสองล้มลงบนเตียงที่คลุมด้วยผ้าสีหวานนั้น
เมื่อกายใกล้กันถึงเพียงนี้แล้ว จมูกของชายหนุ่มจึงได้สัมผัสกับกรุ่นกลิ่นกายของหญิงสาว
กลิ่นของแพรวพรรณช่างหอมดีจริงๆ เส้นผมก็นุ่มเหมือนเส้นไหมเนื้อตัวนุ่มเนียนน่าสัมผัส
ชายหนุ่มสูดกลิ่นหอมนั้นเข้าเต็มปอด
“โชค...แพรว...กลัว” หญิงสาวออเซาะด้วยน้ำเสียงเย้ายวน
ไม่พูดเปล่าหล่อนเอื้อมมือไปกอดชายหนุ่มเอาไว้ ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกใหญ่
“แพรวทำอะไร”
“แค่กลัวเท่านั้นโชค”
เสียงฟ้าคำรามมาอีกรอบ หญิงสาวยิ่งกอดรัดชายหนุ่มให้แน่นกว่าเดิม
แม้แพรวพรรณจะเป็นเพื่อนกันก็ตาม แต่เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง มีเลือดมีเนื้อเหมือนคนอื่นๆ การกระทำของแพรวพรรณทำให้ชายหนุ่มปล่อยใจให้ล่องลอยไปตามอย่างชายทั่วไปที่เมื่ออยู่ใกล้หญิงสาวสวยในอาภรณ์บางเบาเช่นนี้ ยิ่งเนื้อกายสัมผัสกัน ความซาบซ่านของกามารมณ์ก็กำลังเข้าครอบงำจนเขาเองไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
หญิงสาวกอดชายหนุ่มไว้แน่น เขาเองก็เช่นกัน ที่บัดนี้มือทั้งสองก็กำลังกอดรัดหญิงสาวอยู่ หญิงสาวกระซิบข้างหู
“หนาวไหมโชค” หญิงสาวกระซิบอีกครั้ง
“กอดแพรวให้แน่นๆ นะ แพรวกลัว หนาวด้วย”
ว่าแล้วหญิงสาวก็ใช้มืออันเรียวสวยนั้นไล้ไปตามแผงหน้าอกที่แข็งแรงของชายหนุ่ม
หล่อนเอาริมฝีปากได้รูปสวยนั้นประกบไปที่ปากของชายหนุ่ม ลิ้นต่อลิ้นสัมผัสกันอย่างซาบซ่าน รสจูบของแพรวพรรณช่างร้อนแรงเกินที่เขาจะหักห้ามใจได้ เพลงแห่งกามารมณ์กำลังเริ่มบรรเลงขึ้นแข่งกับเสียงของสายฝนด้านนอกที่กำลังกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย
หญิงสาวเริ่มบรรเลงเพลงรักได้อย่างเร่าร้อน ริมฝีปากของทั้งสองบดขยี้กันอย่างดูดดื่ม ชายหนุ่มใช้มือข้างหนึ่งเคล้นคลึงไปที่ยอดถันของหญิงสาว อีกมือหนึ่งก็ดึงรั้งสะโพกอันงอนงามนั้นเข้ามาชิด เช่นเดียวกับหญิงสาวที่บัดนี้มือข้างหนึ่งกำลังปลดเปลื้องอาภรณ์ของชายหนุ่มออก ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ไปตามเนื้อกายที่กำยำนั้น
อารมณ์แห่งความสุขสมในความหวังในชายที่ตนหมายปอง
อารมณ์แห่งการเสพสมในรสกามที่กำลังซาบซ่าน
มันผสมผสานกันในห้วงเหวแห่งความรักของหญิงสาวที่มีต่อชายหนุ่ม
ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามที่เธอต้องการ หากคืนนี้เธอกับโชคลงเอยกันด้วยดี วันรุ่งขึ้นเธอก็จะใช้ชื่อว่าเป็นเมียของชายหนุ่มโดยทางพฤตินัย
ความกระหยิ่มยิ้มย่องแทรกเข้ามาในช่วงเวลาแห่งการเสพกามของหญิงสาว
แต่กิจกามที่กำลังดำเนินอยู่นั้นกลับอยู่ในสายตาของผู้เฝ้ามอง ที่บัดนี้ยืนสแยะยิ้มอยู่ปลายเตียง โดยที่คนทั้งสองไม่สามารถมองเห็นได้
“หมดเวลาของเธอแล้วแพรวพรรณ”
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์ดังลั่นห้อง
มันเป็นเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่ม
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ยังดังไม่หยุด...
เหมือนบางสิ่งบางอย่างกระชากชายหนุ่มออกมาจากหุบเหวแห่งกามารมณ์ เขาถอนใบหน้าออกมาจากปทุมถันอันเอิบอิ่มนั้น แล้วจ้องมองหญิงสาวที่กำลังหลับตาพริ้มที่ตรงหน้า
“แพรว...”
ชายหนุ่มผละออกจากร่างอันเปล่าเปลือยนั้น
เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว สายตามองหาอาภรณ์ที่ถูกปลดเปลื้องออกไป
“โชคเป็นอะไรไป ใครโทรมาก็ช่างเถอะ เรามาต่อเรื่องของเราดีกว่า” หญิงสาวพูดแผ่วเบาไม่วายที่จะดึงรั้งข้อมือของชายหนุ่มเอาไว้
“แพรว...เรา...ไม่น่าทำแบบนี้เลย”
หญิงสาวลุกพรวดขึ้นมาจากเตียง พลางดึงผ้าห่มผืนบางขึ้นมาปกปิดร่างอันเปล่าเปลือยนั้นแล้วรีบเข้าประชิดชายหนุ่มทันที สองมือกอดรัดไว้ ราวกับว่าชายหนุ่มกำลังจะหายไปต่อหน้าต่อตา
“โชค...ก็รู้ว่าแพรวคิดยังไงกับโชค ให้โอกาสแพรวนะ”
หญิงสาวไม่พูดเปล่า พยายามเล้าโลมชายหนุ่ม หวังจะให้อารมณ์อันเร่าร้อนเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา กลับมาคุกรุ่นอีกครั้งหนึ่ง
ชายหนุ่มสลัดหญิงสาว จนร่างนั้นเซไปชนขอบเตียง
น้ำตาหยดเล็กๆ เริ่มออกมาเรียกคะแนนสงสารให้กับหญิงสาว
“โชคอย่าทำอย่างนี้กับแพรวเลย แพรวรักโชคนะ รักมานานแล้ว โชคให้โอกาสแพรวสักครั้งนะ แพรวสัญญาว่าจะทำทุกอย่างที่โชคต้องการ ได้โปรดเถอะ” หญิงสาวพูดทั้งน้ำตา
“ใส่เสื้อผ้าเสียเถอะแพรว แม่เราโทรมา เราขอโทรหาแม่ก่อนนะ”
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ แล้วเดินออกไปนอกห้อง ปล่อยให้หญิงสาวส่งเสียงสะอึกสะอื้นภายในห้องแต่เพียงลำพัง
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แกรักโชคมากใช่ไหม แกจะได้เจออะไรอีกมาก”
รันชรีเปล่งเสียงหัวเราะกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเพราะเธอเองเป็นผู้ที่ทำให้เสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มดังขึ้น
ชายหนุ่มนั่งทอดกายอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ในห้องรับแขก เขาสับสนเหลือเกินกับการกระทำของตนเอง เขายอมรับว่าเมื่อเขาเห็นแพรวพรรณในชุดนอนนั้น ทำให้เขาอึดอัดไม่น้อย ยิ่งเมื่อฝ่ายหญิงเล้าโลม เขาเองกลับไม่ปัดป้องหรือปฏิเสธการกระทำของเธอ ตรงกันข้าม ยังจะไปผสมโรงกับเธออีก ยิ่งคิดเขายิ่งโกรธตัวเองมากขึ้น ที่ทำอะไรไปโดยขาดสติ
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะติดต่อกลับไปยังผู้เป็นมารดา แต่พลันนั้นเขากลับต้องรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า เพราะเบอร์ที่โทรมาเมื่อสักครู่นี้เป็นเบอร์บ้านของรันชรีที่กรุงเทพฯ ซึ่งเขาเองยังไม่เชื่อตาตัวเอง เพราะเมื่อครั้งแรกที่โทรศัพท์ดัง เขาหยิบขึ้นมาดู มันเป็นเบอร์โทรศัพท์ของผู้เป็นมารดาอย่างจริงแท้แน่นอน
“รัน...โทร...มา” เขารำพึง
เขาได้แต่ปล่อยให้ความงุนงงเข้าครอบงำ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักสองสามนาที
หญิงสาวใบหน้าสวยก็เดินออกมาจากห้องนอนด้วยดวงตาชื้น
“โชค หากโชคต้องการแบบนี้แพรวก็จะทำตามที่โชคต้องการ”
หญิงสาวในชุดนอนเนื้อบางเบาพูดในมือมีหมอนและผ้าห่มติดมาด้วย
“ฝนยังตกหนักอยู่เลย โชคไม่ต้องกลับหรอก อันตราย แพรวเอาหมอนและผ้าห่มออกมาให้ โชคก็นอนที่โซฟานี่แหละ แพรวจะนอนในห้องคนเดียว”หญิงสาวพูดเหมือนคนสำนึกผิด
ชายหนุ่มรีบออกจากบ้านเมื่อตอนเช้าตรู่ เพราะเขาต้องไปรับมารดาออกจากโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ลืมที่จะสั่งแม่บ้านเอาไว้ก่อนกลับว่าตนจะไปรับมารดาและไม่ต้องปลุกแพรวพรรณ