Home บ้านรักในรอยแค้น ตอนที่ 8

สมภพ แจ่มจันทร์

ตอนที่ 8

ในขณะที่อาการของมารดายังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น จู่ๆ ก็มีข้อความจากแพรวพรรณส่งมาถึงชายหนุ่ม หลังจากการอ่านข้อความนั้นแล้ว ยิ่งทำให้ชายหนุ่มทวีความตึงเครียดขึ้นอีกหลายสิบเท่า เขาตัดสินจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลผู้เป็นมารดา ส่วนตนเองนี้ขอกลับมาพิสูจน์บางสิ่งให้แน่ชัดก่อนแม้ผู้เป็นบิดาจะเอ่ยถามสักเท่าใด หาได้มีคำตอบเล็ดลอดออกมาจากปากบุตรชายไม่

แม้ว่าโชคจะรู้จักนิสัยใจคอแพรวดีว่าเธอค่อนข้างจะเป็นคนขี้อิจฉาเล็กๆ เพราะที่ผ่านมาแพรวมักจะโทรศัพท์มาเล่าเรื่องราวต่างๆ ของรันให้โชคฟังอยู่เป็นประจำ นับตั้งแต่เรื่องรันมีแฟน เรื่องรันพาแฟนไปกรุงเทพฯ และเรื่องรันไปขลุกอยู่ที่บ้านแฟนจนไม่ค่อยได้เข้ามาที่ร้าน จนถึงวันนี้เรื่องรันยักยอกเงิน มันชักจะยังไงแล้ว แต่โชคก็ได้แต่บอกไปว่าแล้วจะจัดการเอง

 จิตใจของโชคเริ่มสั่งให้สมองครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ เพราะทุกอย่างยกเว้นเรื่องรันชรียักยอกเงิน มันเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น แต่โชคถือว่านั่นคือสิทธิส่วนบุคคล รันชรีเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเธอย่อมมีผู้ชายเข้ามาจีบเป็นเรื่องธรรมดา หรือถ้าหากเธอจะมีแฟนมันก็เป็นเรื่องธรรมดาอีก แต่ถามว่าโชคเห็นด้วยไหมกับการที่เพื่อนสนิทจะคบกับผู้ชายคนนั้น เขาค่อนข้างจะติดไปทางลบ เพราะเขาเชื่อในสายตาผู้ชายที่มองผู้ชายด้วยกันออก แต่กระนั้นโชคก็ไม่มีสิทธิ์จะไปตัดสินใครจากความรู้สึกนึกคิดของตนเอง

ชายหนุ่มกลับมาที่ร้านโดยไม่แจ้งให้ใครทราบล่วงหน้า เขาสังเกตดูพฤติกรรมของรันชรี เป็นจริงอย่างที่แพรวพรรณบอกไปเสียทุกอย่าง เมื่อเขาเอ่ยถามถึงเงินหมุนเวียนของร้านที่มีอยู่

เสียงสนทนาเล็ดออกมาจากห้องบัญชีบริเวณด้านในสุดของร้าน พนักงานหลายคนพยายามเงี่ยหูฟังว่าคู่สนทนาภายในกำลังโต้เถียงกันเรื่องอะไร นับตั้งแต่คุณรันของพนักงานทั้งหลายเข้ามาช่วยโชคบริหารงานร้านนี้ ไม่เคยมีครั้งไหนที่การสนทนาระหว่างคนทั้งคู่ จะทำให้พนักงานในร้านแตกตื่นเท่าวันนี้

“ฉันถามว่าสมุดบัญชีมันหายไปไหน” โชคพูดกับรันชรีด้วยน้ำเสียงดุดัน

“ฉันทำหาย แกก็ให้ทางแบ้งค์เขาทำสเตทเม้นท์ออกมาให้สิ”รันชรีตอบโดยไม่สบตาผู้ถาม

“มันเป็นเอกสารสำคัญแกทำหายได้ยังไง นี่มันวันหยุดยาว กว่าธนาคารจะเปิดอีกตั้งสี่วัน”

“แล้วแกเป็นอะไรขึ้นมาถึงได้อยากเช็คยอดเงินเอาวันนี้”

“ฉันแค่อยากรู้เท่านั้น หรือแกไม่อยากให้ฉันรู้”

“แกก็เช็คยอดในโปรแกรมบัญชีได้นี่โชค”

“ฉันแค่อยากเห็นตัวเงินสดเท่านั้น ว่ามันยังอยู่ดีหรือเปล่า”

“โชคแกเป็นอะไรหรือเปล่า”หญิงสาวกล่าวด้วยจิตใจหวาดหวั่น แต่ก็ยังฝืนที่จะสบตาคู่สนทนาที่จ้องเธอตาเขม็ง

 “ได้สิรัน งั้นฉันจะเช็คยอดขายในโปรแกรม ไว้ธนาคารเปิดแกไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”

.................................................................................................................

เหมือนโชคยังเข้าข้างหญิงสาวอยู่บ้าง หลังจากโชคเดินจากไป รันชรีถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอรีบล็อคกุญแจห้องบัญชี แล้วกดโทรศัพท์ไปหาชายคนรักทันที และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาทราบ พลางบอกให้รีบจัดการเรื่องเงินให้เร็วที่สุดก่อนที่โชคจะรู้เรื่องนี้เข้า แต่เธอก็เบาใจเมื่ออีกฝ่ายยืนยันว่าภายในสองวันนำเงินทั้งหมดมาคืนให้เธอ

สองวัน สามวัน สี่วัน จนถึงวันที่ธนาคารเปิด บัดนี้คำว่ากระวนกระวายคงเทียบไม่ได้กับสิ่งที่หญิงสาวกำลังประสพอยู่นี้ เธอพยายามติดต่อชายคนรัก แต่นี่ผ่านวันนัดมาแล้ว เขาก็ยังติดต่อไม่ได้

“ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะทำกับฉันได้ลงคอ แกรักผู้ชายคนนั้นมากใช่ไหม ฉันเคยเตือนแกแล้วแต่แกก็ไม่เชื่อ ตอนนี้แกรู้หรือยังว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นยังไง”

ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกจากปากหญิงสาว มีเพียงเสียงสะอื้นเล็กๆ เท่านั้นที่เล็ดลอดออกมา

                “แกอาศัยช่วงที่ฉันต้องไปดูแลแม่ มาฉวยโอกาสตลบหลังฉันแบบนี้หรือรัน คำว่าเลวมันยังไม่พอสำหรับการกระทำของแกเสียดายที่เราคบกันมาเป็นสิบๆ ปี” ชายหนุ่มมองดูหน้าหญิงสาว ที่บัดนี้ความโกรธเกลียด มันได้เข้ามาครอบคลุมทุกอณูสัมผัสจนหมดสิ้น

“ฉัน...ฉัน”หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“พอแล้วรันแกไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ฉันไม่อยากฟัง แกมันเพื่อนทรยศ เห็นคนอื่นดีกว่าเพื่อน  ถ้าแกรักมันมากก็ไปอยู่กับมันเลย ฉันผิดหวังในตัวแกมาก ออกไปซะเถอะฉันอยากอยู่คนเดียว”ชายหนุ่มกล่าวโดยที่ไม่มองหน้าคู่สนทนาแม้สักนิด

หญิงสาวค่อยๆ ชันกายจากโซฟาตัวใหญ่ พลางใช้หลังมือซ้ายปาดหยดน้ำตาที่กำลังจะหลั่งรินลงมา มือขวาจับลูกบิดประตู และพาตัวเองออกไปจากห้องเล็กๆ ห้องนี้

กลุ่มพนักงานทีออกันอยู่ที่ปากประตูต่างแตกฮือไปคนละทาง เมื่อรันชรีเปิดประตูออกมา

ความเสียใจที่ถูกคนรักหลอกลวง ความเสียใจที่ตนเองตัดสินใจผิด ความเสียใจที่ทำให้เพื่อนผิดหวัง ความเสียใจที่เพื่อนไม่ยอมฟังคำอธิบายใดๆ มันถูกปิดล็อคอยู่ในหัวใจในขณะนี้

แพรวพรรณและอานนท์มาตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ ทั้งสองหันไปมองตามเสียงประตูที่ถูกเปิดออก แล้วยิ้มอย่างสุขใจ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามที่พวกเขาคาดคิด ป่านนี้โชคคงรู้แล้วว่ารันชรีเอาเงินของร้านไป และคงจบไม่สวยสักเท่าไหร่เมื่อดูจากสีหน้าของรันชรีและดวงตาแดงช้ำ

“สมน้ำหน้า ฉันเตือนแกดีๆ แล้ว ก็ไม่ยอมไป มันต้องเจอแบบนี้” แพรวพรรณเอ่ยกับรันชรีเมื่อหญิงสาวเดินมาใกล้ๆ

รันชรีหันมองแพรวพรรณแวบหนึ่ง เหตุใดแพรวพรรณจึงพูดเช่นนั้น หรือเพื่อนคนนี้จะรู้เรื่องเงินที่เธอนำไปให้กิตติ แล้วเธอจะรู้ได้อย่างไร แต่มันก็ป่วยการที่จะคิด เพราะในยามนี้คนที่รันชรีต้องคิดถึงมากที่สุดคือโชค เพื่อนโกรธเคืองเธออย่างรุนแรง มีวิธีใดบ้างที่จะทำให้เพื่อนคลายความรู้สึกนี้ลงไปได้

แพรวพรรณถือวิสาสะเข้าไปในห้องบัญชีนั้น หญิงสาวก้าวเข้าไปหาเพื่อนชายในทันทีโดยมีอานนท์เดินตามเข้ามาทีหลัง

“พวกไม่ซื่อสัตย์ โชคแกต้องแจ้งความนะ ข้อหายักยอกทรัพย์” แพรวเสนอความคิดเห็น

เงียบ....เงียบ ยังคงมีแต่ความเงียบเท่านั้น

“ไม่อย่างนั้นก็ไล่มันไปซะ แล้วไม่ต้องคืนหุ้นที่มันเอามาลงทุน ขืนเอาไว้ อีกหน่อยมันต้องพาผู้ชายของมันมายึดร้านแน่ๆ แพรวเคยเตือนโชคแล้ว ถึงโชคจะรู้จักกับนังนั่นมาเป็นสิบปี แต่มันก็เพิ่งรู้จัก ไม่ใช่คนบ้านเดียวกัน ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า ไว้ใจไม่ได้หรอก” แพรวพรรณเสนอความคิดเห็นอีกรอบ

มันก็จริงอย่างที่พรรณพรรณว่า ให้รันชรีออกไปจากร้านแล้วยึดหุ้นทั้งหมดไว้ ทุกอย่างก็ไม่ต้องมีอะไรติดค้างกัน ส่วนเพื่อนที่ไม่ซื่อสัตย์คนนั้นจะไปทางไหน หรือจะไปอยู่กับผู้ชายที่ไหนเขาจะไม่สนใจใยดีอีกต่อไป

“แต่ยังไงโชคยังมีแพรวอยู่ทั้งคนนะ พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เล็ก พ่อแม่ก็รู้จักกันหมด เราไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว ไล่มันไปซะ เชื่อแพรวเถอะ ช่วงนี้แม่โชคยังไม่หายดีแพรวกับนนท์จะมาช่วยเอง แล้วก็เลิกคิดถึงเพื่อนทรยศคนนั้นได้แล้ว” แพรวพรรณเอื้อมมือไปแตะหลังมือชายหนุ่มเบาๆ พร้อมกับสบสายตากับอานนท์ที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน

นับตั้งแต่วันนั้นรันชรีพยายามติดต่อกับชายคนรัก แต่ก็เปล่าประโยชน์ เธอได้แต่ฝากข้อความทิ้งไว้ และหวังว่าอีกไม่นานกิตติจะกลับมาหาเธอพร้อมกับคลี่คลายปัญหาทุกอย่างที่เธอกำลังประสพอยู่ในขณะนี้ ทางฝ่ายเพื่อนรักในขณะนี้นอกจากจะไม่มองหน้าเธอแล้ว โชคยังพาแพรวพรรณและอานนท์เข้ามาร่วมบริหารงานที่ร้าน ส่วนโชครีบกลับไปดูแลมารดาที่โรงพยาบาล ทำให้บัดนี้คนทั้งคู่กลายเป็นเจ้าของร้านไปโดยปริยาย

 

                

comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน