อากาศร้อนอบอ้าว เท้าที่ก้าวเดินด้วยความรีบเร่งผ่านตรอกซอกซอยเป็นระยะ เหงื่อเริ่มไหลซึมเพราะความร้อนระอุแทบแผดเผาในช่วงฤดูซัมเมอร์นี้ มูร้าทและเอดานุ๊ซ สองพี่น้องชายหญิงชาว turkish ที่นั่งอยู่มุมหนึ่งปากซอยตรงประตูหน้าบ้านของพวกเขา กำลังนั่งร้อยลูกปัดออกมาวางขายซึ่งดูแล้วมีไม่กี่ชิ้น ทั้งคู่หันมามองฉันด้วยความสนอกสนใจหรือประหลาดใจ คงคิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติคนหนึ่งในสายตาที่พบ เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาผิวพรรณความเป็นเอเชียที่ไม่ค่อยมีมาเดินให้ได้เห็นบ่อยนัก เหมือนกับฝรั่งหัวแดงทั่วไปที่เคยคุ้นตา สายตาและความสนใจทำให้ต้องหันมองตอบยิ้มให้แล้วหวนเดินกลับมาหา พวกเขามองยิ้มตอบรับความรู้สึก ดูตื่นเต้นต่างลุกขึ้นยืน "แมร์ฮาบา" นั่นคือคำทักทาย "สวัสดี" แก่ผู้มาเยือน ฉันทักทายตอบกลับเป็นภาษาเดียวกัน "บุ๋ยหรุน" ทั้งสองคนกล่าวเชิญชวนเพื่อเลือกชมสินค้าที่วางขายอยู่ สองพี่น้องพยายามอธิบายพูดจายิ้มแย้มแจ่มใสไม่มีเขินอาย ฉันพยายามทำความเข้าใจกับเสียงใสๆ เพื่อชักจูงให้ตัดสินใจซื้อสิ้นค้าเหล่านั้น แต่ละชิ้นทำเป็นเครื่องประดับ สร้อยคอ ต่างหู กำไล และอื่นๆ ฉันหยิบต่างหูขึ้นมา "คูเป๊ะ" มูร้าทหนุ่มน้อยบอก เปลี่ยนไปจับที่รัดผม "โทก๊ะ" เอดานุ๊ชสาวน้อยหน้าหวานพูด ฉันคิดในใจทำให้ได้เรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ จากพวกเขา พร้อมหยิบกระดาษปากกาขึ้นมาจดบันทึกและถามต่อ สินค้าแต่ละชิ้นดูแล้วไม่ได้มีความละเอียดละออในฝีมือนักตามประสาเด็กทำ ทั้งสองชำเรืองแอบมองฉัน "ชิน จาโป้น" นั่นเป็นคำถามที่พยายามถามว่ามาจากที่ไหน "ชิน" เป็นคนจีนหรือ "จาโป้น" เป็นคนญี่ปุ่นหรือ ฉันบอกว่าเป็น "คนไทย"เขาทำเสียง "โอ่ออออ โฮ้ฮฮฮฮ" ปากยื่นลากเสียงยาวออกมา ทำตาโต๊โต ด้วยความตื่นเต้นดีใจเหมือนได้พบสิ่งแปลกใหม่ เลือกดูสินค้าเเต่ละชิ้นฉันจึงถาม "ไม่ไปโรงเรียนกันหรือ" เป็นภาษาเติร์กกรี๊ชเเบบพอเข้าใจ เพราะเห็นว่าเป็นวันธรรมดาปกติ พวกเขาบอกเป็นช่วงปิดภาคเรียนเลยมานั่งร้อยสร้อยคอกำไลขายจากลูกปัดยามว่างให้กับนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา ฉันรู้สึกเอ็นดูชื่นชมถึงความตั้งอกตั้งใจของพวกเขาที่ไม่ปล่อยเวลาว่างให้เปล่าประโยชน์ เด็กตัวแค่นี้ยังรู้จักคิด รู้จักทำ สินค้านั้นไม่ใช่จุดสนใจอะไรนักแต่เพราะความน่ารักมิตรไมตรีและมีบางสิ่งที่น่าสนใจตรงนี้ ทำให้อยากเป็นเพื่อนพูดคุย ดูพวกเขาก็สนุกกับการที่ได้พบเพื่อนใหม่ ฉันเองก็ได้หยุดพักคลายร้อน มูร้าทและเอดานุ๊ชพยายามโฆษณาสินค้าต่อ ทำมือท่าทางประกอบการพูด หยิบชิ้นนั้นชิ้นนี้ให้ทดลอง ทั้งหมดทำกันเองบ่งบอกความภาคภูมิใจในฝีมือ บอกราคาแต่ละชิ้น นำวัสดุอะไรเป็นส่วนประกอบในการทำ ฉันยืนดูและอดยิ้มภูมิใจแทนไม่ได้ถึงความไร้เดียงสาและกิริยา อธิบายจนจบโดยไม่สนใจว่าคนฟังจะรู้เรื่องหรือไม่ ซึ่งฉันเองก็อยากจะรู้ดูถึงความตั้งใจว่าเขาจะพูดอะไรต่อ
ฉันหันไปจับสร้อยคอชิ้นหนึ่งร้อยด้วยลูกปัดสีสันผสมปนเปไปหมดอาจเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง "บูเนกาด๊า" ฉันถามซึ่งหมายความว่า "อันนี้ราคาเท่าไร" มูร้าทรีบตอบเสียงดังฟังชัด "อิกิ้บูจุ๊ค" ฉันพูดทวนตามเร็วๆ "อิกิ้บูจุ๊ก" ทั้งคู่หัวเราะร่า เอิ๊กอ๊าก แววตามีความสุขแล้วพูดเลียนแบบเสียง"อิกี้บูจุ๊ก อิกี้บูจุ๊ก" เสียงสำเนียงของฉันคงจะแปลกๆ เพี๊ยนๆ ไปจากพวกเขา มูร้าทและเอดานุ๊ช พยายามสอนทำปากให้พูดออกเสียงตามช้าๆ ทุกครั้งที่พูดตามเขาจะดีใจหัวเราะเหมือนกับกำลังฝึกหัดสอนเด็กขวบสองขวบ ทำให้นึกถึงฝรั่งที่พูดภาษาไทยไม่ชัด ฉันก็คงจะขำหัวเราะเหมือนเด็กสองคนนี้ เราสามคนคุยกันไม่ค่อยได้ศัพท์ได้ความนักมีแต่เสียงหัวเราะ อิ๊ก ๆ อ๊ากๆ คิ๊กๆ คั๊กๆ ไปด้วยกัน สองพี่น้องช่วยกันหยิบเหรียญสตังค์มาเรียงนับให้ดูแล้วบอกว่าเท่านี้แหละคือ "อิกี้บูจุ๊ก" เกรงว่าฉันจะไม่เข้าใจ เป็นเงิน 2.50 ลิร่า ประมาณ 70 กว่าบาท ฉันลองสวมสร้อยคอ มูร้าทรีบวิ่งเเจ้นเข้าไปในบ้านหยิบกระจก "อายน่าๆ (กระจก)" ยื่นให้ฉันส่องดู "ช็อคกู้แซล" หมายความว่า "สวยมากครับ" มูร้าทพูดชมเอาใจลูกค้าเร่งปิดการขายยังกับมืออาชีพ คนฟังเอียงคอทำตาโตเล็กน้อยแบบเข้าใจว่า "จริงๆ หรือที่พูด" เขายิ้มอายบิดตัวไปมาเล็กน้อยเสื้อไม่สวมใส่จนเห็นซี่โครงทั้งสองข้าง ฉันจึงควักเงินแบงค์ 5 ลิร่า จ่ายให้บอกไม่ต้องทอน เขายื่นมือและโค้งศรีษะเล็กน้อยรับเงินดีใจตื่นเต้นดูมีความสุขอีกหลายเท่า เสียงขอบคุณ "ช็อค เเทเเฌคกูร์ เอแดริม" (ขอบคุณมากครับ คะ) ฉันพยักหน้ายิ้มให้ขอถ่ายรูปและกล่าวลา หันหลังเดินจากไปก่อนก้าวพ้นปากซอย "อับร่า อับร่า" เสียงตะโกนเรียกมาตามหลังแปลว่า "พี่สาว พี่สาว" จึงหันกลับไป ทั้งสองยืนยิ้มกระโดดโบกไม้โบกมือตะโกน"อียี โยลจุลุคลาร์ อิยี ฌั้นสราร์" หมายความว่า "ขอให้เดินทางปลอดภัยโชคดี" ฉันยิ้มโบกมือตอบขอบคุณ ทำให้มีความสุขลืมความร้อนไปชั่วขณะ แม้จะช่วงเวลาสั้นๆ แต่ได้อะไรมากมาย มิตรภาพต่างวัยต่างเชื้อชาติต่างภาษา เห็นความเป็นพ่อค้าแม่ค้าตัวน้อยๆ การแสดงสปิริตเป็นนักขายอย่างมืออาชีพ ความจริงใจซื่อสัตย์ต่อลูกค้าผู้ซื้อ ที่สำคัญยังมีจิตวิญญาณของความเป็นครูอีกต่างหากที่สอนฉันพูดออกเสียงตามและนับโชว์เหรียญสตางค์ให้ดู ทุกครั้งที่เห็นสร้อยลูกปัดนั้น อดยิ้มเสมอๆ ทำให้นึกถึงคำพูดล้อเลียน "อิกี้บูจุ๊ก อีกี้บูจุ๊ก" กับใบหน้าที่ยิ้มแย้มเสียงหัวเราะปนใสซื่อ ในความรู้สึกของฉัน พวกเขาคือ "iki" แปลว่า"สอง" ส่วนฉันเป็นเพียงแค่"buguk ( .50)" เศษเสี้ยวที่ผ่านเข้ามาหาพวกเขาในช่วงขณะหนึ่ง ต่างแลกเปลี่ยนเติมเต็มความสุขเล็กๆ น้อยๆ แก่กันและกัน ซึ่งมิอาจประเมินค่าเป็นเงินได้ แต่มากด้วยความประทับใจมิรู้ลืม "iki-buguk"
23 มกราคม 2552 20:14 น. - comment id 103464
สวัสดีค่ะ พี่รอยทาง ไม่ว่าเราจะได้พบคนเชื้อชาติใด ในแววตาที่สื่อความหมายของความใสซื่อบริสุทธิ์ คือ มิตรภาพ ที่สื่อถึงกันได้ดี และในที่ตรงนี้ ตรงตัวอักษร ของพี่รอยทาง ทำให้ดอกบัว ได้รับมิตรภาพ ที่ให้คำเรียนรู้ภาษา และความหมายของคำ มิตรภาพที่ไม่มีวันสิ้นสุด ตราบใดที่เรายังเปิดตอนรับอยู่เสมอ แววตาสื่อความหมายของจิตวิญญาณ ในตัวตนของคนนั้น ทอแสง แห่งความผูกมิตร รอยยิ้มแห่งเมืองสยามยังงดงามเสมอค่ะ ด้วยมิตรภาพทางตัวอัษร สุขสันต์วันตรุษจีนค่ะพี่รอยทาง ให้พบแต่ความสุขเสมอค่ะ
23 มกราคม 2552 20:35 น. - comment id 103465
มิตรภาพสวยงามนัก
23 มกราคม 2552 20:47 น. - comment id 103467
สวัสดีคะ น้องดอกบัว สบายดีนะคะ พีไม่ค่อยได้เข้ามาเขียนอะไรนัก เพราะไม่มีเรื่องจะเขียน ฮิ ฮิ ได้เเต่มาเเอบอ่านจากมิตรรักนักเขียนที่นี่เเหละคะ เป็นความจริงเช่นนั้น ถึงเเม้เราจะต่างชาติ ต่างภาษา คุยกันไม่เข้าใจ เเต่ปฏิกิริยาสามารถบ่งบอกถึงความรู้สึกนั้นๆ ได้ สายตา ท่าทาง การยิ้มเเย้มเเจ่มใส อยากพูดอยากคุยเเต่มันสื่อภาษาไม่ได้ เเม้เเต่ตัวอักษรผ่านการเขียนนั่นเเหละคะ ขอขอบคุณสำหรับมิตรไมตรีเช่นกันคะ
23 มกราคม 2552 21:09 น. - comment id 103468
สวัสดีคะ คุณก่อพงษ์ สำหรับมิตรไมตรีที่เข้ามาทักทาย อ่านงานเขียนของคุณทีไร ก็ทำให้มีเเรงบันดาลอยากที่จะเขียน ขอให้มีความสุข สุขภาพเเข็งเเรงนะคะ
23 มกราคม 2552 21:16 น. - comment id 103469
...... อ่านเรื่องราว แล้วน่ารักมากๆคะ ดูรอยยิ้มของเด็กๆไม่ว่าชนชาติไหน ก็สดใสบริสุทธิ์เหมือนกัน เปรียบเสมือนผ้าขาวนะคะ ....ทักทายคะ หายไปนานเลยนะคะ
25 มกราคม 2552 05:11 น. - comment id 103482
สวัสดีคะ คุณฉางน้อย มิตรภาพคือสิ่งที่สวยงาม เพราะทำให้เรารู้ว่าโลกนี้น่าอยู่ขึ้นเยอะ หากเราขาดซึ่งมิตรไมตรี เอาเเต่เเก่งเเย่งชิงดีชิงเด่นกัน เราก็คงจะอยู่ในโลกนี้ด้วยความลำบากใจ ขอบคุณมากนะคะสำหรับมิตรภาพที่หยิบยื่นให้มาทักทาย