Asssasin วีรบุรุษแห่งเลือดบทที่ 5

LoveNeverJang

บทที่ 5 ประจันหน้าบรรชิตมาร
	เธอแปลกใจกับสายตาคู่นั้น เธอหันมาเพื่อจะถามลูฟี่ว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่ทันใดนั้นเอง  โกเล็ม (Golem) ปิศาจหินที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายร่างกายเป็นหินแข็ง  ก็พังประตูร้านเข้ามาพร้อมกับมอนสเตอร์จำนวนมากซึ่งแต่ละตัวมีถิ่นอาศัยต่างกัน  ทั้งโพริ่ง (Poring) ที่มีจำนวนมาก ลักษณะของมันเป็นวงกลมสีชมพู  ร่างกายคล้ายเยลลี่  โคบอล (Kobold) หมาที่เดินสองขามีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่ตัวเล็กกว่ามาก ถิ่นอาศัยปกติทิศตะวันตกของเกฟเฟ่นนอกจากจำนวนที่มากแล้วยังขึ้นชื่อเรื่องความสามัคคีของพวกมัน  พวกมันเพียงไม่กี่สิบตัวสามารถล้มหมีได้เพียงวิ่งผ่าน อโนเลี่ยน (Anolian) ปิศาจจระเข้ที่เดินสองขาเหมือนมนุษย์ในมือมีดาบสองคมวาววับถิ่นอาศัยเดิมอยู่ที่ชายหาดโคโมโด (Comodo) เมืองแห่งการเสี่ยงดวง  อนูบิส (Anubis) ปิศาจหมาเฝ้าสุสาน แห่งพีระมิดร่างกายใหญ่โตของมันแม้จะดูเทอะทะแต่กลับมีความคล่องแคล่วอย่างน่ากลัว  ออร์ค  ซอมบี้ (Orc zombie) ซากศพของเหล่าอมนุษย์ที่ตายแล้ว  แต่ฟื้นคืนชีพขึ้นปกติจะพบได้มากในสุสานของหมู่บ้านออร์คทางตอนใต้ของเกฟเฟ่น  และสุดท้ายที่มีจำนวนมากคือเหล่าเมอร์แมน (Merman) เงือกที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์แต่ถูกคำสาปให้มีร่างกายคล้ายปลาอาศัยอยู่ใต้น้ำเพื่อเฝ้าทรัพย์สมบัติ  เมื่อโกเล็มโผล่พ้นประตูเข้ามา  ก็ปรากฏลูกศรสองดอกปักเข้าที่กลางหัวอย่างแรงด้วยทักษะเฉพาะตัวของเหล่านักธนู (Acher) ดับเบิ้ลสต๊าฟ (Double straf) แต่ลูกธนูสองดอกนี้กลับถูกยิงออกมาจากเครื่องดนตรีของนักดนตรีคนหนึ่ง  
	จากนั้นความชุลมุนก็เกิดขึ้น จินและเจนรีบพาจีจี้วิ่งออกไปทางหลังร้านโดยมีอลิซคอยคุ้มครองจากเหล่าบรรดาโพริ่ง (Poring) แม้โพริ่งจะไม่เก่งแต่ก็มีจำนวนมาก  ทั้งหมดคิดตรงกันเป็นคำถามเดียวว่า 'ใครเล่นไม้ผี (Dead Brand) ในเมืองกันเนี่ย'  ไม้ผีมีความสามารถในการอัญเชิญมอนสเตอร์ออกมาแต่เพราะเป็นไม้ต้องคำสาปจึงไม่มีใครที่สามารถใช้มันได้เต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์  ทำได้แค่เพียงอัญเชิญมอนสเตอร์แบบสุ่มเท่านั้น  มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ที่เรียกออกมาจากจะมีตั้งแต่ไม่โจมตีจนถึงขั้นสูงอย่างพวกออร์คทีเดียว
	บรรดานักเดินทางแบ่งกันออกรับมือกับแองเจิลลิ่งที่เป็นธาตุแสงสว่าง  ทำให้เวทมนต์ไม่สามารถทำอันตรายมันได้  ส่วนลูฟี่หลังจากจัดการกับโกเล็มเคราะห์ร้ายเรียบร้อยแล้ว  ก็พุ่งตรงเข้าไปหาอนูบิส  ฟันขาซ้ายขวาจนมันไม่สามารถทรงตัวได้ล้มลง  ถูกลุงโจนาธานทุบด้วยฆ้อนใหญ่หัวแหลกละเอียดไป  ลูฟี่พุ่งไปยังเป้าหมายต่อไป  ท่ามกลางเสียงคำรามของบัดดี้โลวเด็กหนุ่มรู้สึกได้ว่าความเร็วของตัวเองเพิ่มขึ้นมา  ลูฟี่พุ่งมายังออร์ค ซอมบี้ ใช้กาต้าแทงเข้าที่ลำคอ  เลือดเสียสีดำไหลออกมาราวทำนบแตก  มันทรุดลงคว่ำหน้าตายทันที  ตอนนี้แองเจิลลิ่งเสียทีให้กับบาร์ดคนหนึ่ง  ทักษะดับเบิ้ลสต๊าฟ ถูกใช้ออกอีกครา  ลูกธนูสองดอกพุ่งด้วยความเร็วสูงปักเข้ากลางตัวด้วยแรงยิ่งมหาศาลทำให้มันแตกออก  จากนั้นนักเดินทางทั้งหมดก็หยุดมองลูฟี่อย่างตกใจ  เด็กหนุ่มที่รู้สึกว่าความเร็วของตัวเองเพิ่มเล็กน้อย  แต่ในสายตาคนอื่นราวกับว่าเขากำลังหายตัวไปมาพร้อมกับเสียงคำรามอย่างน่ากลัว  สุดท้ายคือบรรดาเหล่าเมอร์แมนที่มีไม่ต่ำกว่าสิบตัว  พวกมันตัวหนึ่งเดินเข้ามาแทงหอกใส่นักเต้นคนหนึ่ง  เธอเบี่ยงตัวหลบได้ไม่อยากเย็นนัก  ก่อนจะเฆี่ยนมันด้วยแส้สีแดงเลือด  แต่ก็แลกมาด้วยแผลจากหอกที่ถากเธอไป  บาร์ดคนหนึ่งกำลังต่อสู้อยู่กับเมอร์แมนด้วยความยากลำบาก  เพราะกีต้าของเขาถูกหอกของมันแตกละเอียดไปแล้ว  บาร์ดคนนั้นพยายามต่อยเตะมันให้ถอยออกไป  แต่แล้วเขาก็ล้มลง  มันเงื้อหอกเตรียมจะแทง  ฉึก!!! ลูกธนูสองดอกปักอยู่กลางหลังเมอร์แมนเคราะห์ร้ายมันกลายร่างเป็นปลาแล้วหายไป  ตัวที่สามและสี่ถูกลูฟี่พุ่งเอากาต้าแทงกลางท้องแล้วจับหัวมันกระแทกเขาใส่กัน  มันกลายร่างเป็นปลาก่อนจะหายไป  ในเวลาต่อมาหกตัวที่เหลือก็มีสภาพไม่ต่างจากเพื่อน  พวกมันกลายเป็นปลาแล้วก็หายไป  ลุงโจนาธานเป่าลม  มือปาดเหงื่อบนหน้าผาก  เขากำลังจะหันไปหาลูฟี่  แต่เด็กหนุ่มไม่อยู่แล้ว  ตอนนี้เด็กหนุ่มกำลังวิ่งอยู่บนหลังคาเมืองสอดส่องหาผู้ต้องสงสัย  ผู้ที่ใช้ไม้ผี  เขากระโดดมาเรื่อยๆ  จนกระทั่งพบเข้ากับชายคนหนึ่ง  ผมสีขาวปรกตาข้างหนึ่ง  อาภรณ์สีดำแทบจะกลืนเขาให้หายไปในความมืด   ในมิดการ์ดอาภรณ์สีดำถือเป็นเรื่องต้องห้าม  เด็กหนุ่มไม่สนใจ  ใคร่รู้ประวัติความเป็นมาใดๆทั้งสิ้น การใช้ไม้ผีในที่ชุมชนย่อมไม่มีเจตนาดี เขาพุ่งกาต้าเข้าใส่ชายคนนั้นทันที  ชายคนนั้นใช้ฝ่ามือปัดกาต้าออกไปอย่างง่ายดาย  พลางพูดติดตลกว่า 
	"ฟู่ว...  ยังไม่ทันได้กินก็จะได้ออกกำลังกายก่อนแล้วมั้ยล่ะ"  ลูฟี่ชะงักเล็กน้อยกับเสียงที่คุ้นๆเหมือนเคยได้ยินแต่ก็ดึงผ้าปิดปากป้องกันคำสาปขึ้นมาใส่ไว้  อาภรณ์สีดำมืดเมื่ออยู่ที่สูงลมย่อมแรงทำให้ชายผ้าปลิวสไวดูน่ากลัว  และผู้ที่สวมชุดแบบนี้  ลูฟี่คิดว่ามันอาจจะเป็นบรรพชิตมารแต่เขาก็ไม่แน่ใจนัก  ตำนานเกิดขึ้นและจบลงนานมากแล้ว
	"แก..เป็น...ใคร" สามคำสั้นออกจากปากของนักฆ่าหนุ่ม  เขาปาดเลือดให้ชโลมกาต้าทั้งสองข้าง  ยิ่งทำให้เสียงของมันดังก้องไปทั่ว  ชาวบ้านที่กำลังหลับนอนต่างเปิดไฟเพื่อที่จะออกมาดูเหตุการณ์
	"ว้า...แย่ๆๆ  คนตื่นหมดงี้ผมก็ทำอะไรไม่ได้น่ะสิ  เอ๋....หรือว่าทำได้  ฆ่าให้หมดเมืองเลยดีกว่ามั้ย"  หลังจากพูดจบก็ส่งรอยยิ้มกวนแต่โหดมาให้
	"ถ้าทำได้ก็ลองดู"  ลูฟี่พุ่งเข้าใส่กาต้าแทงออกซ้ายขวาแต่ชายคนนั้นก็แค่เบี่ยงตัวหลบอย่างง่ายดาย  วิชาการโจมตีด้วยความเร็วสูงถูกใช้ออก  โซนิคโบล์ว (Sonic blow) กาต้าถูกฟันออกอย่างรวดเร็วแต่แม่นยำ  แต่ชายคนนั้นก็แค่สร้างเกราะขึ้นมา  เมื่อครบกระบวนท่าเกราะก็สลายลง  ลูฟี่ชิงลงมือด้วยการอาบพิษลงบนใบมีด เอ็นชาร์น  เพอร์ซั่น (Enchat posion ) ฟันมันใส่ช่วงเอวของชายปริศนา  คมมีดปาดถากทำให้ผ้าคลุมขาดไปเล็กน้อย
	'ดาร์ก  พรีสทำอะไรใจตามใจชอบอีกแล้วนะ  กลับมาเดี๋ยวนี้เลย' เสียงหนึ่งดังขึ้น  เป็นเสียงที่ถูกส่งผ่านมาทางมโนจิตซึ่งมีเพียงดาร์กพรีสคนเดียวที่ได้ยิน  แต่ลูฟี่ยังโจมตีไม่หยุด  เขาจึงหาวิชาที่จะหยุดลูฟี่
	"ดีเซท อะจิ (Decrease AGI)"  มนต์ลดความเร็วถูกใช้ออก  ตอนนี้ในสายตาของดาร์กพรีส  เห็นลูฟี่เป็นเพียงหอยทากที่กำลังกระโดดไปมาเท่านั้น "เทเลพอร์ต (Teleport) "  แล้วร่างของดาร์กพรีสก็หายไปทิ้งไว้เพียงเส้นแสงเท่านั้น	
	"ชิ...หนีไปจนได้"  เด็กหนุ่มบนเบาๆ  ดึงผ้าปิดปากออกก่อนจะกระโดดลงมาหลังตึก  แต่เขาก็พบเข้ากับนักดนตรีปริศนาที่ดูจะมีเซ้นต์มากกว่าเพื่อน  นักดนตรีคนนั้นกำลังยืนพิงกำแพงในมือมีกีต้า (Guitar) ตัวหนึ่งอยู่เขาบรรเลงมันเบาๆ  นักดนตรีคนนั้นหันมามองลูฟี่ก่อนจะยิ้มโชว์ฟันขาว
	"สู้กับดาร์กพรีส  โดยไม่มีความรู้สึกกลัวเลยช่างกล้าหาญ เสียจริงๆ"  นักดนตรีคนนั้นพูดขึ้น  ทำเอาลูฟี่ชะงัก
	"ถ้าไม่รู้ก็ไม่กลัว  แล้วการที่มาแอบดูคนอื่นต่อสู้กับตัวอันตรายโดยไม่คิดจะช่วย  ไม่เสียมรรยาทไปหน่อยเหรอ"  ลูฟี่พูดบ้างตีหน้าเฉยชา 'หมอนี่เป็นใครกันแน่ทั้งๆที่การต่อสู้เมื่อกี้น่าจะไม่มีใครสามารถเห็นได้แล้วนี่' เด็กหนุ่มคิดในใจระแวดระวังภัย  แต่สีหน้ากลับตีออกอย่างเฉยชา
	"ว้า...  แย่จังไม่รู้หรอกหรือนี่  ไอ้เราก็นึกว่าบ้าดีเดือดกล้าสู้กับดาร์กพรีส ก็เลยไม่อยากขัด  แต่เอ... คนที่มีไอเทมในตำนานอย่างบัดดี้โลวจะกลัวอะไรล่ะ  จริงมั้ย?"  ท่อนหลังบาร์ดคนนั้นถามทำหน้ากวนๆ  แต่เมื่อเห็นสีหน้านักฆ่าหนุ่มที่บ่งบอกถึงอาการ 'ไม่เล่นด้วย' เขาก็ทำหน้าเบ้  "ไม่ตอบก็ได้  ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องอยู่ที่นี่ต่อแล้ว ไปก่อนนะ  แล้วเจอกัน"  พอพูดจบก็กระโดดหายไปในความมืด	 แล้วอลิซก็วิ่งเข้ามา  โดยที่ไม่สังเกตุเห็นกวีปริศนาเมื่อครู่เลยแม้แต่น้อย
	"ลูฟี่ เฮ้อ...หาแทบแย่  มาทำไมอะไรที่นี่  รู้ไหมว่าลุงโจนาธานกับจีจี้ตามหานายกันใหญ่แล้ว  รีบกลับกันเถอะ"  เธอพูดจบก็เดินมาจูงมือเขาเดินมายังกลุ่มของโจนาธานที่กำลังรวมทำท่ากระวนกระวายที่จู่ๆลูฟี่ก็หายตัวไป   พอทุกคนเห็นลูฟี่เดินเข้ามาก็ทำท่าโล่งใจพลางเดินเข้ามาหาลูฟี่  คนแรกที่เข้าถึงตัวลูฟี่ก็คือจีจี้ที่รีบวิ่งมาหาเขา  ดวงตาของเด็กน้อยเต็มไปด้วยคราบน้ำตา  เด็กหญิงวิ่งเข้ามาโอบรอบเอวของลูฟี่
	"พี่ลูฟี่ ฮึก... พี่ลูฟี่หายไปไหนมา  จีจี้กลัว"แล้วเด็กน้อยก็ปล่อยโฮออกมาอีกรอบ  ลูฟี่ลูบหัวเด็กน้อยสองสามทีเพื่อปลอบโยน
	"โอ๋...  ไม่เป็นไรแล้ว  พี่กลับมาแล้ว  พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ให้ปิศาจตัวไหนเข้าใกล้น้องสาวพี่ได้อีกแล้ว"  พอจบประโยคเด็กหญิงก็หยุดร้องไห้แล้วเงยหน้าขึ้นมองแอซซาซินหนุ่ม
	"พี่ลูฟี่สัญญานะ"  เด็กหญิงบอกพร้อมกับยิ้มแล้วยื่นนิ้วก้อยออกมา  ลูฟี่ย่อตัวลงให้ความสูงทำกันแล้วก็ยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวไขว้กัน
	"อืม  พี่สัญญา" 
	"เอาล่ะ... วันนี้ดึกมากแล้ว  พรุ่งนี้จีจี้ต้องเข้าเรียนไม่ใช่เหรอ  จินเจนด้วย"ลุงโจนาธานพูดเสียงดัง  จีจี้หันไปมองแล้วทำแก้มป่อง  แต่ก็ยอมเดินตรงไปยังทางไปบ้าน  พอทั้งหมดมาถึงบ้าน จิน กับเจน ก็เดินขึ้นไปยังห้องของตนตามประสาเด็กไม่พูดมากเหลือเพียงจีจี้ที่ยังนั่งเฝ้าลูฟี่ราวกับว่าถ้าเธอขึ้นไปนอน  ลูฟี่อาจจะหายตัวไปตอนใดตอนหนึ่งก็ได้
	"จีจี้ พ่อบอกให้ขึ้นไปนอนได้แล้วไง" โจนาธานดุเสียงดัง 
	"ก็ได้ค่ะ"  เด็กหญิงตอบอย่างเสียไม่ได้ แล้วหันไปมองอลิซ "พี่อลิซคะ  วันนี้นอนห้องเดียวกับหนูได้รึเปล่าคะ"  อลิซหันมายิ้มให้เด็กหญิงอย่างอ่อนโยน
	"ได้สิ  งั้นไปกันเถอะ  พี่ขอดูห้องของจีจี้หน่อย"  พอได้ยินอลิซตอบตกลง  จีจี้ก็ดีใจกระโดดโลดเต้นแล้วจึงดึงมือนักเวทย์สาววิ่งขึ้นไปชั้นบน
	"เฮ้อ...  ตอนแกไม่อยู่จีจี้ซึมกว่านี้เยอะ แต่จะทำไงได้  แกมันพวกไม่ติดบ้านซะด้วยสิ" พอจีจี้หายขึ้นบันไดไป โจนาธานก็หันมาคุยกับลูฟี่
	"เหรอครับ" ลูฟี่ตอบสั้นๆ
	"แล้วนี่จะออกเดินทางไปไหนอีกล่ะ"  โจนาธานทิ้งตัวลงบนม้านั่งเหนื่อยแล้วหันมาถาม
	"ก็จะไปเกฟเฟ่นน่ะครับ  ว่าจะไปหาไอ้นี่"  พูดจบเขาก็ล้วงเอาอัญมณีสีแดงออกมา  มันเป็นอัญมณีที่เจียระไนไว้อย่างสวยงามด้านบนของมันสลักเป็นรูปแมลงสาบตัวใหญ่ตัวหนึ่ง  พอเขายื่นมันให้โจนาธานดู  ช่างชราก็ทำท่าตาโต
	"เฮ้ย... นั่นมันหินพันธสัญญาไม่ใช่รึไง  นั่นมันของโกลเด้นทีฟบั๊ก (Golden Thife Bug) ที่อยู่ในท่อไม่ใช่รึไง รึว่าแก..."
	"ครับ  ผมได้รับพรจากเกชา  ตอนที่ไปฝึกวิชาน่ะ  ให้พูดภาษาได้ดั่งใจคิด  ไว้ใช้เจรจายามคับขัน  ผมลงไปเจรจากับเจ้าแมลงในท่อน้ำตะวันตกมา"  พอพูดจบโจนาธานก็พยักหน้าเข้าใจ หินพันธะสัญญาแสดงถึงความเป็นพันธมิตรของเจ้าของหินกับผู้ถือ
	"แล้วนี่ไม่ใช่ว่าจะไปเจรจากับเผ่าออร์คหรอกนะ  เข้าไปดีไม่ดีโดนดอกศรเจาะกระโหลกมาเท่านั้น"  โจนาธานพูดดักแล้วโยนหินพันธะสัญญาคืน  ลูฟี่รับแล้วหย่อนมันลงในกระเป๋าลับ
	"อ้อ...  ไม่หรอกครับ  ไม่มีความจำเป็นนี่ครับ  ว่าแต่ว่า...ลุงรู้สึกถึงความผิดปกติในมิดการ์ดรึเปล่าครับ"  ท่อนหลังลูฟี่ลดเสียงให้เบาลง  โจนาธานก็เอนตัวลงนอนอย่างไม่สนใจ
	"ก็เท่าที่เห็นหลักเลยนะ  อากาศร้อนขึ้น  น้ำทะเลลดลงแต่คลื่นกลับแรงขึ้น  บริเวณพาย่อนมีต้นไม้ตายเป็นบริเวณมาก  แล้วก็พลังงานรั่วออกมาจากเกฟเฟ่นทาวเวอร์...หรือว่า"  โจนาธานลืมตาโพลงเหมือนเพิ่งจะสำนึก  ในใจกลับเอาแต่โกรธตัวเองที่ไม่เคยรู้สึกถึงความผิดปกติเหล่านี้
	"ครับ  ผมจะไปสำรวจเกฟเฟ่นทาวเวอร์  ถ้าจำเป็นการเจรจากับนักดาบเงาในตอนนี้อาจจะดีที่สุด..."  พอพูดจบโจนาธานก็สะดุ้งพรวดขึ้น
	"หา... ว่าไงนะ  จะเจรจากับนักดาบเงา  นี่แกบ้าไปแล้วรึไงฉันให้แกนั่งเรือฝ่าพายุไปบิบาลันตอนนี้ยังปลอดภัยกว่า  ไหนจะพวกไนแมร์ (Nightmare) อีก  พวกนั้นมีหวังแบะหัวแกส่งมาให้ฉันแน่"  โจนาธานทำท่าร้อนใจกับความบ้าบิ่นของหลานชาย แต่ก็ต้องถอนหายใจเมื่อเห็นสายตามุ่งมั่น  เป็นอย่างนี้มานานแล้ว  หลานชายคนนี้ เมื่อตั้งใจว่าจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้  เขาจำได้ว่าตอนที่รับมาใหม่ๆ  ลูฟี่เป็นเด็กหนุ่มที่กล้าบ้าบิ่นแค่ไหน  ตอนที่เขารับลูฟี่มาครั้งแรกเด็กหนุ่มยังเป็นพวกโจร  แต่กลับหาญกล้าคิดจะไปเรือล่ม (Sunken Ship)ไม่ว่าโจนาธานจะห้ามยังไง ลูฟี่ก็คงยืนยันว่าจะไปให้ได้ แล้วจู่ๆลูฟี่ก็หายตัวไป  ทำเอาโจนาธานร้อนใจมาก  สามวันต่อมาลูฟี่ก็กลับมาพร้อมผ้าคลุมหัวโจรสลัดผืนใหญ่ ตาของลูฟี่ในตอนนี้กับตอนนั้นในความทรงจำของโจนาธานกำลังทับซ้อนกันอยู่ "จะออกเดินทางวันไหนล่ะ"  โจนาธานถามอย่างอ่อนใจ
	"ถ้าเป็นไปได้ก็อยากไปพรุ่งนี้เช้าเลยครับ  ไม่อยากรบกวนลุงมาก"  ลูฟี่บอก โจนาธานหัวเราะเสียงดัง
	"พูดอย่างกับว่าแก ไม่เคยใช้ที่นี่ซุกหัวนอนตั้งห้าปี"  พอฟังลุงพูดลูฟี่ก็รู้สึกผ่อนคลายจากความเคลียดที่ถาโถมเข้ามาราวกับคลื่น
	"งั้นลุงนอนก่อนดีกว่า  เดี๋ยวพรุ่งนี้แกจะไม่ตื่นซะ" ว่าแล้วโจนาธานก็เอนตัวลงนอนตรงม้านั่งหน้าทางเข้า  ลูฟี่เดินไปยังม้านั่งตรงข้ามแล้วก็เอนตัวนอน
จบบทที่ 5 ประจันหน้าบรรพชิตมาร				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    16 มกราคม 2552 19:15 น. - comment id 103341

    1.gif1.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน