เฮ ฉายาของหนุ่มผมยาววัย 30 เศษ ผู้ที่ผมเคยท้าทายให้ขี่มอเตอร์ไซค์ถอยหลังเมื่อสิบกว่าปีก่อน หน้าตาของเขาแม้จะไม่เหี่ยวโรยแต่ก็มองเห็นร่องรอยที่ผมเรียกว่ารอยบากของชีวิตได้ชัดเข้มขึ้นไม่ยากนัก แผลนั้นแต้มหน้าเพราะเขาพลาดท่าขี่รถเครื่องแบบพิสดารแหกโค้งไปสัมผัสศิลแลงหลากเหลี่ยมริมทาง รอยแผลอาจดูคล้ายลักยิ้มมากหากมันไม่ขีดไว้ที่ข้างขวาของแก้มเพียงข้างเดียว เฮ เป็นนักบิดที่ไม่มีใครในหมู่บ้านที่ไม่แช่ง รถเครื่องที่พ่อของเขาซื้อให้เขาแกะเครื่องประกอบออกจนดูโกร๋น แถมทะลวงไส้ท่อไอเสียให้มันเกิดเสียงดังทะลวงหัวใจชาวบ้านยามเร่งบิดประชดยมบาล รถเครื่องคันนั้นได้ขายเป็นเศษเหล็กไปนานแล้วแต่ตัวเขาก็ยังคงเหลือเป็นเศษชีวิตไว้สำหรับการด่าทอของใครอีกหลายคน เฮ เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง เคยมีเมียเป็นตัวเป็นตน มีสมบัติทุกอย่างที่คนควรจะมี แต่เขาละจากสิ่งเหล่านั้นมาเหมือนไม่ผูกมัด อย่างเช่นบ้าน เขาก็ปล่อยให้มันรกและไม่ปัดกวาด เมีย เขาก็ปล่อยเธอให้อยู่ตามลำพังไม่รู้ว่าอยู่หรือกินอย่างไรแน่ ข้าวของในร้านค้าที่พ่อทำให้ เขาก็ปล่อยให้เมียขายจนสินค้าหมดร้านแต่ไม่ซื้อมาเติม เขาชอบแต่จะถกปรัชญาข้างจอกเมรัยกับใครก็ตามที่เอ่ยถ้อยคำได้ แต่ขอโทษ ถ้าคุณไม่รู้จักปรัชญาเมธีกระเดือ่งนามของโลกมีหลายคนแนะนำว่าอย่าได้สะเออะทุ่มเถียงกับเฮดีกว่าเพราะอาจจะโดนเขาหมิ่นแคลนด้วยนัยระหว่างพยางค์ของคำเอาก็ได้ เมื่อทรัพย์ทั้งมวลที่คนอื่นเตรียมไว้ให้ไม่สามารถทนอยู่กับเฮได้ เขาก็กลายเป็นราวนักพรตพเนจรหากหาชอบรักษาความสะอาดแม้ของหนวดเคราไม่ คนหนุ่มแต่ทรุดโทรมราวเฒ่าชราสวมเสื้อผ้าอยู่ไม่กี่ชุดราวกับนี่คือวัตรอันสำคัญอย่างหนึ่งของผู้แสวงความหลุดพ้นไปจากวิถีแบบผู้ครองเรือน กลิ่นตัวของเฮนั้น เด็กบางคนอธิบายว่าแร้งตายก็มิปาน ถ้าเช่นนั้นถ้ารวมกลิ่นเมรัยกลิ่นควันยาสูบที่เขาละเลียดต่อเนื่องทุกนาทีกับกลิ่นเสื้อผ้าที่ไม่ชอบสัมผัสผงซักหรือน้ำยาปรับผ้าชนิด ๆ ใดจะเป็นกลิ่นที่สัตว์ชนิดใดจะทนได้บ้าง ก็พอที่จะเดาได้ว่าทำไมผู้หญิงที่เขาเรียกว่าเมียจึงตัดสินใจจากไปแม้เขาลั่นวาจาว่าจะยกเรือนบนที่ดินเกือบสองงานให้ก็ตาม เฮ รู้จักดมกาวมาตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะไปกับเพื่อนต่างวัย รู้จักกัญชามาตั้งแต่ยังไม่จบ ป.6 ดี เพราะเขาเป็นคนอาสาไปซื้อให้กับผู้ใหญ่ในกลุ่มด้วย เหล้าและบุหรี่ดูจะเป็นของธรรมดาในกลุ่มของคนวัยเดียวกันที่คบกันอยู่ สิ่งเหล่านี้ไกลจากสายตาของพ่อแม่ของเฮ ที่อาจจะสนใจแต่ทำมาหากินในแบบฉบับของตัวเอง เวลาที่ทุกคนในบ้านรู้ว่าเฮติดกาวก็เป็นเวลาที่เฮชอบเอ่ยถ้อยปรัชญาที่คนธรรมดาฟังไม่ได้เสียแล้วนั่นแล ในวันที่ทุกคนกำลังนับถอยหลังเพื่อเริ่ม พ.ศ.ใหม่ คนในบ้านหลังใหญ่จัดงานเลี้ยงและเตรียมแลกของขวัญ เขาเดินก้มหน้าหงอหงอยเข้าไปในบ้าน ทุกคนมองเขาราวเป็นสัตว์ที่ไม่น่าไว้ใจ ผมมองเห็นเขาแบมือขอเงินจากพ่อได้เงินยิ่สิบบาท ผมมองเห็นแม่ของเขาหยิบของกินจากถาดอาหารบุ๊ฟเฟ่ใส่ถุงหูหิ้วเพื่อให้เขาแยกห่างออกไปกินห่าง ๆ คนอื่น คนในบ้านรังเกียจเขาเพราะเขาเคยทำลายข้าวของในบ้าน เคยแอบหยิบเอาของกินและสิ่งอื่นโดยไม่ขอและอื่น ๆ อีกมากที่แม้แต่พี่สาวของเขาก็เรียกว่ามันเป็นนิสัยและกิริยาอันเหลือรับ ทว่าวันนั้น นาทีนั้น เฮ ไม่หยิบเอาสิ่งใดเลยนอกจากที่แม่ของเขาหยิบและห่อให้ ของกินพวกนั้นเขาเตรียมเอาไปกินต่อที่ทุ่งนาห่างไกลออกไปอีกไกล ผมรู้ว่าเฮมีเรื่องอยากพูดคุยกับผม อาจไม่ใช่เพราะผมเป็นคนเขียนเรื่องราว แต่น่าจะเป็นเพราะว่าผมมีท่าทีรับฟังสิ่งที่เขาพูดมากที่สุดโดยไม่วิพากษ์แม้ซักครั้งว่าเหลวไหลไร้สาระ สิ่งที่ผมต้องการรู้คือ เขาจดจำสิ่งที่ดีงามอันใดได้หรือไม่ในวัยที่เขาเป็นเด็กและอายุห่างจากผมไม่มากนักนั้น ใช่ครับ เช้าพรุ่งนี้ผมจะไปเยี่ยมเขาที่กระท่อมกลางทุ่งโน้น
21 มกราคม 2552 23:02 น. - comment id 98437
สวัสดีคะคุณก่อพงษ์ เข้ามาอ่านผลงานของคุณเมื่อไร ก็มีกำลังใจมากขึ้น
2 มกราคม 2552 08:59 น. - comment id 103124
อีกมุมมองหนึ่งของชีวิตที่เราไม่ค่อยเข้าใจ นำเสนอได้ดีจังเลยค่ะ น่าสนใจดี
2 มกราคม 2552 09:15 น. - comment id 103126
กำลังรอฟังปรัชญาชีวิตของเฮอยู่นะคะ อยากรู้จังว่าเขากำลังแสวงหาอะไร......
2 มกราคม 2552 21:03 น. - comment id 103129
เมื่อคุณไปเยี่ยมเขา ช่วยบอกเขาด้วยนะค่ะว่า การเริ่มต้นไม่มีคำว่าสาย ............................. นำเสนอเรื่องได้น่าสนใจค่ะ
3 มกราคม 2552 10:45 น. - comment id 103132
ขอบคุณครับคุณกันนาเทวี ผมจับตาและมองเห็นชีวิตของผู้คนที่ต่ำต้อยได้ดีไม่น้อยกว่าชีวิตของผู้ที่ยิ่งใหญ่สูงส่งครับ เขาทั้งคู่มีสิ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่เหมือนกัน สิ่งนั้นคือความไม่เหมือนคนอื่นครับ
3 มกราคม 2552 10:49 น. - comment id 103133
ทักทายคุณพี่สาวและคุณปะการังสีฟ้า ด้วยครับ ผมไปถึงกระท่อมของเฮแล้วและถ่ายภาพไว้ด้วยหลากหลายมุม แต่เขาหลับ ผมไม่อยากปลุก แต่ก็ได้คุยกับพ่อของเฮแทน จะทยอยเขียนเล่าให้ฟังครับ และถ้อยคำที่ปะการังสีฟ้า ฝากผมจะนำไปพูดคุยอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณอย่างยิ่งครับผม
4 มกราคม 2552 09:41 น. - comment id 103148
พี่ก่อพงษ์ไปเจอคุณเฮที่กระท่อมกลางทุ่งแล้วเจอกระบอกไม้ไผ่ป่าวคะ อิอิ เอ..เขาเรียกว่าไรน๊า บ้อง....แหะ..แหะ...
4 มกราคม 2552 10:47 น. - comment id 103151
สวัสดีค่ะ พี่ก่อพงษ์ ถ้าทุกคนยอมฟังความคิดของคนอื่น ฟังเหตุฟังผล ทุกๆคนคงไม่มีปัญหานะค่ะ เขาฟังเราเราฟังเขา โลกคงไม่วุ่นวายเป็นแน่ค่ะ ดอกบัวขอให้พี่ก่อพงษ์ และครอบครัว มีแต่ความสุขค่ะ
6 มกราคม 2552 09:45 น. - comment id 103200
อาจเพราะเขาค้นพบตัวเองแล้วก็ได้น่ะ :)
7 มกราคม 2552 15:21 น. - comment id 103235
โห....ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอ ก่อพงษ์ฯ สวัสดีปีใหม่นะคะ....ขอให้มีความสุขมากๆ หวังว่าคงสบายดีนะคะ......ระลึกถึงเสมอ
7 มกราคม 2552 20:15 น. - comment id 103244
สวัสดีครับคุณฉางน้อย ผมไปเยี่ยมเขาแล้วไม่เจอ พ่อเขาบอกว่าไม่รู้ว่าไปไหน ครับ ประตูกระท่อมปิด และทุกอย่างที่นั่นเงียบ เงียบจนกระทั่งแทบจะได้ยินเสียงคลื่นผิวน้ำพลิ้ว เด๊ยวผมจะเล่าเรื่องของเขาจากปากคำของพ่อของเขาแทนครับ ==== สวัสดีครับน้องดอกบัว ขอบคุณมากสำหรับพรอันเลิศที่น้องมอบให้ ขอพรนั้นจงเป็นของน้องเช่นกัน การเปิดใจรับฟังกัน พี่คิดว่าเป็นวัฒนธรรมของหมู่ชนนะ และครอบครัวคือต้นกำเนิดของวัฒนธรรมนี้ ==== สวัสดีครับคุณกุ้งหนามแดง ดีใจที่ได้พูดคุยกันอีกครับ ผมนึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเขาเป็นเช่นนั้น แต่ยังไม่ได้พูดคุยกันอีก เลยไม่รู้แน่ครับว่าใช่หรือไม่ใช่ ===== และสวัสดีครับคุณโคลอน ดีใจมากครับที่ได้ทักทายกันอีก มีความสุขปีใหม่นะครับ ผมและครอบครัวสบายดีทุกคน ยังระลึกเสมอเช่นกัน
23 มกราคม 2552 16:15 น. - comment id 103459
สวัสดีครับคุณรอยทาง ดีใจที่ได้พบกันอีกครับ