ป๊อกเด้ง

ลิลิต

( 1 )                                                
                                                                 
        ผู้เขียนมีความปรารถนาอย่างแรงกล้ามาตั้งแต่ครั้งสมัยเรียนหนังสือแล้วว่า อยากจะเป็นนักเขียนทีมีชื่อเสียง ประเภท   นวนิยาย หรือเรื่องสั้น  แต่มันก็เป็นแค่ความฝัน เพราะผู้เขียนไม่เคยได้เริ่มลงมือเขียนเรื่องอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซักที ความใฝ่ฝันสมัยนั้น อยากเป็นนักเขียนชื่อดัง ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก มีคนอ่านเรื่องราวที่เราเขียนมากมายมหาศาล แต่ความฝันนั้นก็คงจะเป็นความจริงไปไม่ได้ เพราะผู้เขียนไม่เคยได้เริ่มต้นฝึกปรือ เพื่อพัฒนาฝีมือในการการเขียนแต่อย่างใด ส่วนพรสวรรค์ในการเขียนของผู้เขียนนั้น มันก็คงจะมีไม่มากนัก
ต่อมาเมื่อล่วงพ้นมาถึงวัยทำงาน ความคิดฝันดังกล่าวพลันก็ปรากฏขึ้นในห้วงความคิดมาอีกครั้ง อยากจะเขียนเรื่องราว ต่าง ๆ ทีได้ประสบพบพานมาในชีวิต ลงเป็นตัวอักษร ให้โลดแล่นเพื่อผู้อ่านจะได้อ่านและได้รับรู้เรื่องราวนั้น  ๆ ที่ผู้เขียนถ่ายทอดไป ด้วยความประทับใจ
        แล้วจะเขียนเรื่องอะไรดีล่ะ นี่คือปัญหาใหญ่ และเป็นปัญหาหนักอก ของ     ผู้เขียน หรือน่าจะเป็นของนักเขียนมือใหม่ทุกคน  จากการอ่านตำหรับตำรา และศึกษาประวัติชีวิตของนักเขียนหลาย ๆ ท่านแล้ว ส่วนมากพวกเขาก็จะแนะนำนักเขียนรุ่นใหม่ ๆ ว่า ถ้าริอ่านจะเป็นนักเขียน จะเขียนเรื่องราวประเภทไหนก็แล้วแต่ เรื่องแรก ๆ นั้น ให้เขียนเรื่องที่ตัวเองรู้ดีที่สุด คือเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของผู้เขียนนั่นเอง 
  
เรื่องใกล้ตัว..ผู้เขียนกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้อง อันรกรุงรัง มีโน้ตบุ๊ค สภาพเก่าถึงเก่ามาก ๑ ตัว ,ตู้หนังสือที่มีหนังสือหลากหลายประเภทวางระเกะระกะอยู่ ,ที่นอน, หมอน,..แต่ไม่มีมุ้ง มีแต่มุ้งลวด ..ไม่มีอะไรใกล้ตัว ที่จะเป็นความประทับใจให้ผู้เขียนนำมาเขียนถึงได้เลย แล้วจะเขียนอะไรดีล่ะ หรือจะเขียนถึงประวัติของตัวเอง..อืม มันก็น่าคิดนะ แต่จะเขียนว่าอย่างไรดีล่ะ ..เพราะดู ๆ แล้ว ชีวิตของผู้เขียน มันก็ไม่มีอะไรน่าประทับใจเลยสักนิด  เป็นชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ใช่คนดังในสังคม ไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่คนเร่าร้อนอะไร มีพรรคพวกเพื่อนฝูงก็ไม่มากนัก  ส่วนเรื่องความหล่อเหลานั้น มองแล้วก็คงพอจะไปวัดไปสำนักสงฆ์ได้บ้าง ( ถ้าได้ถูตะไบตบแต่งสักนิด )  ถึงเขียนไปก็คงจะเป็นเรื่องเป็นราวอะไรไม่ได้หรอก เพราะไม่ใช่คนเด่นคนดังนีนา ครั้นจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ฉันรักเธอ เธอรักฉัน เรารักกัน ซู่ซ่า ซู่ซ่า มันก็คงจะไม่เวิร์ค เพราะบอกตรง ๆ ว่าเรื่องอื่นสมองพอจะมีความคิดปลอดโปร่งได้ แต่สำหรับเรื่องพรรค์นี้ ผู้เขียนมันอ่อนด้อยประสบการณ์เสียจริง ๆ 
       ผู้เขียน นึกขึ้นมาได้ว่าเรื่องใกล้ ๆ ตัวก็ที่ผู้เขียนเห็น ๆ กันอยู่ทุกวัน เห็นมาตั้งแต่เด็กนั้น มันมีเรื่องราว ,มีตัวละคร หลากหลาย ที่พอจะเขียนไปได้หลายบทหลายตอนเลยทีเดียว  ผู้เขียนจึงตัดสินใจเขียนเรื่องราวของบุคคลอาชีพหนึ่ง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มท.๑ คนปัจจุบัน เคยให้สัมภาษณ์ ขณะเมื่อดำรงตำแหน่งผู้นำองค์กรสูงสุดของหน่วยงานนี้มาแล้ว มท.๑ ได้พูดว่า  อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ถูกสาป   .เมื่อเขียนมาถึงตอนนี้ ผู้อ่านบางคนอาจจะร้อง อ๋อ..จำได้แล้ว หรือบางคนอาจจะ สั่นหน้า แล้วบอกว่า ไม่เห็นรู้เรื่องเลย..เอ้า ไม่เป็นไร ผู้เขียนจะบอกให้ว่าอาชีพที่ผู้เขียนจะเขียนถึงนั้น คืออาชีพตำรวจ 
 ..แล้วอาชีพตำรวจนี้ มันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวกับผู้เขียนตรงไหน ..ไม่ต้องงงหรือสงสัย เพราะจะบอกอยู่เดี่ยวนี้ว่า ผู้เขียนนั้นเป็นคนที่ใกล้ชิดกับอาชีพตำรวจมากที่สุด เพราะบ้านเดิมและบ้านปัจจุบันของผู้เขียนนั้น มีรั้วติดกันอยู่หลังโรงพักนั่นเอง  เห็นตำรวจมาตั้งแต่เด็กแล้ว จึงไม่ค่อยกลัวตำรวจเหมือนเด็กคนอื่น ๆ เมื่อร้องไห้ทีไร พ่อแม่ต้องเอาตำรวจมาขู่ถึงจะหยุดร้องงอแง
ผู้เขียนรู้ลึกถึง ตับ ไต ไส้ พุง ม้าม ตับแข็ง ตับอ่อน ฯลฯ ของชีวิตตำรวจมากมาย อย่างละเอียดละออ ก็บอกแล้วว่าบ้านอยู่หลังโรงพัก..โน่นมองเห็นด้านหลัง ลองมองไปที่บริเวณชั้นสอง จะเห็นเป็นช่องหน้าต่าง และมีซี่ลูกกรงเหล็กกั้นอยู่เป็นแถวนั่น   เห็นผู้ชายสองสามคนกำลังปีนป่ายเบียดเสียดเอามือเกาะลูกกรง มองผ่านลอดออกไปมองผู้คนที่อยู่ด้านล่าง ทำยังกับพวกชะนีที่ปีนป่านต้นไม้ร้องโหยหวนยังงัยยังงั้น ..ผู้เขียนเห็นมาจนชินแล้วละจึงได้เรื่องที่จะเขียนแล้ว เรื่องที่ใกล้ตัวที่สุด คือเรื่องตำรวจ..แล้วจะตั้งชื่อเรื่องว่าอย่างไรดี
     เรื่องราวจะเป็นอย่างไร มันก็คิดไม่ค่อยออก จะตั้งชื่อเรื่องว่า  ตำรวจ  มันก็ดูทื่อเกินไป ใครจะมาสนใจอ่านล่ะ ยิ่งอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ถูกสาปด้วยแล้ว คงต้องหลีกเลี่ยง คิดไปคิดมา ก็คิดไม่ออกสักที และแล้วก็คิดได้ว่าอาชีพตำรวจนั้นคู่กับอะไรมากที่สุด ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อกผู้เขียนได้ยินเสียงคนข้าง ๆ ตะโกนตอบมาว่า  คู่กับโจรไง    ..ไม่ใช่ ไม่ใช่ ต้องถามใหม่ซิ..ว่า ตำรวจชอบจับอะไร มากที่สุดถ้าเป็นคำถามแบบนี้ ผู้อ่านร้อยทั้งร้อยต้องตอบคำถามนี้ถูกต้องอย่างแน่นอน ว่า ตำรวจชอบจับไพ่มากที่ซู้ด เพราะถ้ามีใครไปแจ้งความให้ตำรวจช่วยไล่ตามจับโจร คดีจี้ ปล้น ฆ่า ข่มขืน แล้ว ตำรวจจะต้องมีพิธีการ พิถีถันในการแต่งเครื่องแบบอันสง่างาม ใช้เวลาประมาณ   ๑ ชั่วโมง ผูกสายร้องเท้าอีกข้างละ ๑ ชั่วโมง กว่าจะได้เยื้องย่างออกไปขับรถก็ปาเข้าไปอีกครึ่งชั่วโมง เมื่อไปถึงจะติดเครื่องยนต์ รถเจ้ากรรมหมดน้ำมัน  ต้องไปซื้อน้ำมันมาเติม อีก ๑ ชั่วโมง ป่านฉะนั้นจนถึงป่านฉะนี้ พวกคนร้ายมันก็หนีตามไปกับนายระเบียบเรียบร้อยพอดี..แต่ถ้าใครลองไปแจ้งจับคนเล่นไพ่ซิ   ขนาดเป็นไพ่ผ่องไทย คนเล่น ๔ - ๕  คน อายุรวมกันแล้วเกือบ ๆ ๕๐๐ ปี ตำรวจจะรีบกุลีกุจอไปทันที ถึงไปเท้าเปล่าก็ไม่สน ..มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ 
         พอผู้เขียนคิดได้ว่าจะตั้งชื่อเรื่องเกี่ยวกับเรื่องไพ่ ก็คิดว่าจะตั้งชื่อ ไพ่ประเภทไหนดี เพราะผู้เขียนก็ไม่ค่อยถนัดนักกับเรื่องการพนันสักเท่าไหร่..คิด ๆ แล้ว ก็น่าจะตั้งชื่อเรื่องว่า ป๊อกเด้ง  เพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้การพนันไพ่ป๊อกเด้ง เป็นการพนันที่คนไทยนิยมเล่นกันมาก เล่นก็ง่ายจ่ายก็คล่อง ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้หนักหมอง เพราะว่า การพนัน ป๊อกเด้ง นั้น ตำรวจชอบไปจับกัน เพราะมันเป็นการพนันประเภทมีเจ้ามือ ทางกฎหมายพอจะทราบมาบ้างว่า เขาเรียก การพนัน ประเภท ก. ที่บอกว่าตำรวจชอบจับเพราะว่าการพนันอีกประเภทหนึ่งเป็นประเภทไม่มีเจ้ามือ เช่นไพ่ผ่องไทย รัมมี่ เขาเรียกการพนันประเภท ข. มันต่างกันที่ ตำรวจจะได้รางวัลนำจับจากที่ศาลสั่งปรับผู้ต้องหาแล้ว รางวัลนำจับที่ตำรวจจะได้นั้น การพนันประเภท ก.ได้มากว่าการพนันประเภท ข. นั่นเอง ส่วนวิธีการเล่นป๊อกเด้ง นั้น ผู้เขียนก็พอรู้แค่นิด ๆหน่อย ๆ เท่านั้นเอง
 
        การพนัน ป๊อกเด้ง เป็นการพนันที่ มีเจ้ามือคนหนึ่ง ให้ลูกมือ หรือเรียกว่าลูกค้า หรือผู้เล่น ซึ่งแต่ละคนจะวางเดิมพันตามความต้องการ  เจ้ามือนั้นสามารถจะอั้นเดิมพันแค่ไหน เท่าไหร่ ที่เจ้ามือรับได้ก็ได้ 
      วิธีการเล่น  เจ้ามือจะแจกไพ่ป๊อก ไปทางซ้าย หรือทางขวา ทางไหนก่อนก็ได้แล้วอารมณ์ หรือแล้วแต่ถนัด ตำรวจเขาไม่ได้ห้ามไว้   เจ้ามือจะได้ไพ่เป็นคนสุดท้าย ให้แจกเรียงกันไปทีละใบรอบวง คนละสองใบ   
      เมื่อเจ้ามือและผู้เล่นทุกคนดูไพ่ในมือของตัวเองแล้ว กติกาการแพ้ชนะพอสรุปคร่าว ๆ ได้ดังนี้
    ตัวเลขทุกตัวมีค่าตามเลขนั้น ๆ ยกเว้น เลข ๑๐ , ตัวแจ๊ค ( J ) ,แหม่ม  ( Q ) ,คิง  ( K ) มีค่าเท่ากับศูนย์ ส่วนตัว เอ ( A ) มีค่าเท่ากับ ๑ รวมกันเกินสิบ ให้ตัดเลขหลักสิบออก คงเหลือแต่หลักหน่วย
    ถ้าไพ่ในมือใคร รวมแล้วได้ ๘ หรือ ๙ ให้หงายไพ่ออกมา เรียกว่า ได้ป๊อกแปด หรือป๊อกเก้า จะเป็นผู้ชนะ
ถ้าเจ้ามือไม่ได้ป๊อก ผู้เล่นทุกคนมีสิทธิเรียกไพ่เพิ่มอีกคนละ ๑ ใบ จะไม่เรียกก็ได้ 
ถ้าเจ้ามือไม่เรียกเพิ่มก็หงายไพ่ของเจ้ามือออกมา ถ้าเจ้ามือมั่นใจว่าไพ่ของตัวเองมีแต้มเพียงพอจะชนะผู้เล่นรอบวงได้ 
       บางทีผู้เล่นมีไพ่สองใบไม่เรียกเพิ่มก็ได้ ถึงแต้มจะไม่มากนัก ถ้าเจ้ามือเรียกเพิ่มเป็นสามใบ แต้มอาจจะลดลงน้อยกว่าของผู้เล่นที่ไม่เรียกไพ่เพิ่มก็ได้ เป็นการวัดใจกัน กรณีดังกล่าวเรียกว่าผู้เล่น แอบ หรือซ่อน อยู่ ภาษาใต้ จะเรียกว่า  หยบอยู่  คือตัวอย่างเช่นบางคนถือไพ่สองใบ รวมแล้ว มีแค่ ๔ แต้ม แต่เจ้ามือไม่ไว้ใจ   ตัวเองมีแค่ ๕ แต้ม ก็จั่วไพ่มาอีกใบ เป็นเลข ๖ รวมเป็น ๑๑ แต้ม คือ ๑ แต้ม แพ้ ผู้เล่นคนที่ถือไพ่สองใบ มี ๔ แต้ม ดังกล่าว เราจึงเรียกกรณีผู้เล่น ๔ แต้มคน ดังกล่าวว่า  ๔ แต้ม หยบอยู่ ( ซ่อนอยู่ ) 
      ผู้เล่นคนใด แต้มเหนือกว่าเจ้ามือก็ได้เงิน,ถ้าผู้เล่นคนใดแต้มน้อยกว่าเจ้ามือ เจ้ามือก็กินเรียบ ถ้าแต้มเท่ากันก็เจ๊ากันไป และมีอีกกรณีที่เป็นสองเด้ง..สามเด้ง..ไปจนถึงหลายเด้ง ซึ่งถ้าใครชนะก็จะได้รับเงินเพิ่มเป็นทวีคูณ ตามเด้งที่ชนะ เช่นกรณีที่ดอก สี เหมือนกัน,หรือไพ่ตัวใหญ่เหมือนกัน เป็นต้น.. 
    พอจะพูดได้ว่าการพนัน ป๊อกเด้ง ถ้าเล่นกันไม่บันยะบันยัง มันเด้งรุนแรงยิ่งนัก มีสิทธิว่ามันจะเด้งไปกินถึงบ้าน,รถ และโฉนดของผู้เล่นได้ ผู้เขียนขออธิบายวิธีการเล่น     ป๊อกเด้ง เพียงเล็กน้อยแค่นี้  สำหรับผู้อ่านคนใด ที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ หรือที่เขาเรียก ๆ ว่าเซียน แล้ว ผู้เขียนก็ต้องขอโทษด้วย ที่เอามะพร้าวมาขายสวน 
        จริง ๆ แล้วที่ผู้เขียนตั้งชื่อเรื่องว่า  ป๊อกเด้ง  นั้นไม่ได้จะกล่าวถึงเรื่องนี้เป็นหลัก แต่เรื่องราวที่ตั้งใจจะเขียน คือเรื่องราวของชีวิตตำรวจที่ผู้เขียนเคยสัมผัสมา ส่วนป๊อกเด้ง เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งที่มีส่วนสำคัญที่ให้เกิดเรื่องราวเรื่องนี้ขึ้น ถ้าจะเปรียบก็คงจะเป็นเหมือน ออร์เดิฟ,เครื่องเคียง,กับแกล้ม หรือผักที่กินกับขนมจีน ทางใต้ เรียกว่า  ผักเหนาะ  หรือ " ผักเนาะ" เท่านั้นเอง ส่วนอาหารหลักที่ตั้งใจจะให้ได้ชิมลิ้มรสชาติ หรือเรื่องราวที่ต้องการจะสื่อถึงผู้อ่านให้ได้อ่านกันนั้นมันจะปรากฏอยู่ในตอนท้าย ๆ หลังจากนี้หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะไม่เบื่อที่จะติดตามต่อไปนะครับ				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    16 พฤศจิกายน 2551 15:45 น. - comment id 102442

    พี่ลิลิตเชื่อไหมว่า ฉางน้อยอ่านตั้งแต่ย่อหน้าที่ 1 - ย่อหน้าที่ 9 อ่านแล้วก็นั่งอมยิ้ม่ไปนะคะ 
    
    แต่พอมาอ่านตั้งแต่ย่อหน้าที่ 10 ที่กล่าวถึงเรื่องราวป๊อกเด้งอย่างแท้จริงแล้ว ฉางน้อยอ่านแล้วก็ งง ๆค่ะ พูดจริงๆ
    
    เพราะในชีวิตไม่เคยได้สัมผัสป๊อกเด้งเลย จริงๆ เขาเรียกว่า อะไรนะคะ แผ่นไพ่ หรือ ใบไพ่คะ ไม่แน่ใจ
    
    ไม่ใช่ว่าพี่ลิลิตเขียนไม่รู้เรื่องนะ แต่ฉางน้อยอ่านแล้วไม่เข้าใจเองต่างหาก ไม่เคยได้แตะต้องของพวกนี้เลยจริงๆค่ะ  ไม่รุ้ว่าเขาเล่นอะไรยังไงด้วยซ้ำไป  
    
    ขอบคุณนะคะที่นำมาให้เป็นความรู้เพิ่มขึ้นค่ะ
  • ลิลิต

    16 พฤศจิกายน 2551 17:01 น. - comment id 102443

    ดีใจจัง..ที่ฉางน้อยเข้ามาอ่าน.....การเล่นก็ง่าย ๆ คือรวมตัวเลขในไพ่ ๒ ใบ ใครได้แต้มมากกว่าก็เป็นฝ่ายชนะ ถ้าใครรวมแล้วได้ ๘ หรือ ๙ แต้ม เรียกว่า ป๊อก ก็หงายไพ่ เกมก็จบถือว่าชนะแล้ว..ไม่ต้องหยิบใบที่สาม
    
    ขอลอกข้อมูลเรื่องไพ่มาให้ฉางน้อยได้เข้าใจตามข้างล่างนี้...
    
    
    " ไพ่ป๊อก หรือเรียกกันทั่วไปว่า ไพ่ ทำจาก
    แผ่นพลาสติกหรือกระดาษแข็งขนาดประมาณฝ่ามือใช้เพื่อการเล่นเกมไพ่ 
    
    ไพ่หนึ่งสำรับ มี 52 ใบ 
    ไพ่ป๊อก ประกอบด้วย ไพ่ 4 ชุด ชุดละ 13 ใบ แต่ละชุดจะมีสัญลักษณ์ ได้แก่ โพดำ โพแดง ข้าวหลามตัด และ ดอกจิก ในชุด 13 ใบประกอบด้วยตัวเลข 2 ถึง 10 และมี J (แจ๊ค) Q (แหม่ม) K (คิง) A (เอซ)  "
  • ฉางน้อย

    16 พฤศจิกายน 2551 18:26 น. - comment id 102446

    2.......ฮ่าย น้องนุ้ย อ่านเพแหละ เขียนมาต๊ะ
    
    นุ้ยหยบอ่านมั้ง อ่านตรงๆมั่ง แล้วแต่เวลาว่างๆ อิอิ 
    
    อย่าแหลงเหลย พี่บาวลิลิตเหอ เรื่องไพ่ เรื่องอบายมุขทุกอย่างน้องนุ้ยไม่เคยรู้เรื่องหรั๋ยกะใครๆนิ 
    
    พี่บาวบายดีม่ายนิ  ที่ใต้ฝนตกมั่งม่ายนิคะ 
    
    ที่ กุงเตป ฝนกำลังตกพรำๆ อากาศดีนะพี่บาว
    
    น้ำท่วมมั่งม่ายนิ 
    
    ........ นอนหวา ง่วงนอนหล๋าวแหล๋วเด้ 
    
    แหลงใต้มากนักแรง เข็ดลิ้นหล๋าวเด๊ อิอิ 
    
    ปล. ว่างๆน้องนุ้ยจะเขียนภาษาใต้วันละคำ 
    
    ขอความร่วมมือร่วมใจจากพี่บาวด้วนนะคะ   
    
    46.gif65.gif74.gif46.gif
  • ฉางน้อย

    16 พฤศจิกายน 2551 18:28 น. - comment id 102447

    ว่าแล้วนุ้ยเขียนผิด  
    
     แก้ไข คำ พี่บาวด้วน 
    
    แก้ไข เป็น พี่บาวด้วย ....555555
    
    โทษทีพี่บาวเหอะ มือไวนิดฮิดหนึ่งนิ
    
    17.gif46.gif65.gif
  • โคลอน

    17 พฤศจิกายน 2551 11:06 น. - comment id 102467

    เข้ามาศึกษาค่ะ65.gif
    
    โคลอน เล่นเป็นแต่ไพ่คอย
    
    ...ไพ่ตบ...(เจ็บมืออย่าบอกใคร...อิอิ)
    
    .แล้วก็คว่ำหน้าไพ่หมด52ใบ แล้วก็หาคู่ให้เจอถ้าเจอได้โบนัสเปิดเพิ่มได้อีกครั้งใครได้คู่เยอะสุดชนะ สนุกนะคะ ชอบเอาไปเล่นเวลารวมญาติอ่ะค่ะ65.gif
  • แก้วประภัสสร

    17 พฤศจิกายน 2551 16:52 น. - comment id 102481

    เคยเล่นๆกับเพื่อนๆ เวลาไปเที่ยวนะคะ เดนเพื่อนว่าทุกทีอะนะ เพราะไปเปิดไพ่ให้เขาดูเป็นประจำ อิอิ. เล่นเป้นแต่แบม 9 8 ชนะ ค่ะ
    
    36.gif11.gif
  • ลิลิต

    17 พฤศจิกายน 2551 20:41 น. - comment id 102483

    มีคนเล่นเป็นเข้ามาแล้ว หนึ่งคน คือคุณ    แบม..ฝนตก ๆ กำลังขาขาด เอ๊ย ขาดขา อยู่พอดีเลย..อิอิ
    
    แต่ถ้าใครยังเล่นไม่เป็นเดี๋ยวจะหัดให้..ง่ายจะตาย
  • แก้วประภัสสร

    18 พฤศจิกายน 2551 10:59 น. - comment id 102495

    เอาละ ..คุณลิลิต เรียกเพื่อนมาตั้งวงรอได้เยยเจ้าค่ะ ยังขาดอีกขา..
    อ๋อ.. ให้เรียกมาอีกหนึ่ง.. ได้เจ้าค่ะ 
    เด๋วแบมเรียกตำรวจหน้าบ้านมาอีกหนึ่ง ครบขาพอดี คริ..คริ..อะเจ๊ยยย
    36.gif11.gif20.gif
  • ฉางน้อย

    18 พฤศจิกายน 2551 15:55 น. - comment id 102502

    17.gif69.gif....ห๋าๆๆ งานนี้ตำหนวด เอ๊ย ตำรวจมา 
    
    งั้น ขาใครขามันแล้วกันคะพี่แบม 
    
    หลวงพ่อโกย วัดหน้าตั้ง อิอิ 
    
    .....46.gif65.gif74.gif
  • แก้วประภัสสร

    18 พฤศจิกายน 2551 16:15 น. - comment id 102503

    19.gif19.gif20.gif20.gif
    คห 9 พี่แบมขาเคล็ด..แงๆๆๆ ช่วยลาวด้วยยยย...ฉางน้อย..
    วิ่งไม่ทัน เอ้าๆๆ ตำหวดมาทันแย้วว..ตายๆๆๆ โดนเด็ดแม่ตีแน่เยย...
    ไปละ กระเผกๆๆๆ..
  • ศิษย์ยายไพบางบ่อ

    14 มีนาคม 2552 18:04 น. - comment id 104300

    ผมงงเรื่องกินเงิน
    แต้มน้อยกว่าเจ้ามือ เจ้ามือกิน
    แล้วแต้มมากกว่าเจ้ามือ จะกินยังไงครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน