ช้าไป.. หากเเต่ใจต้องการให้

รอยทาง

บ่ายวันหนึ่งในฤดูหนาว  ผู้คนต่างเดินพุกพล่านออกนอกบ้าน   อาคารสำนักงาน  สวมเสื้อผ้าหนาตัวใหญ่  บ้างกำมือขึ้นมาปิดไว้ที่ปาก   บ้างมือล้วงกระเป๋าเสื้อโค้ตเดินห่อตัวด้วยความหนาวเหน็บ  หนุ่มสาวบางคู่เดินจูงมือ  บางคู่เดินกอดกันแนบชิด    อากาศที่หนาวเหน็บจนถึงข้างในเหมือนกับเลือดในกายจะเป็นน้ำแข็ง   ทุกคนเร่งฝีเท้าก้าวไปตามวิถีบาทกำลังแข่งกับรถราที่วิ่งอยู่บนถนน     ต่างคนต่างมีหน้าที่ต่างคนต่างมีจุดหมายที่จะต้องก้าวไป   สำหรับฉันท้องที่กำลังร้องจ๊อกๆ  เพราะยังไม่มีอะไรลงถึงท้องมาตั้งแต่เช้า   สายตาสอดส่ายมองหาร้านอาหารสักแห่งเพื่อท้องที่กำลังร้องเรียกหาอยู่และคลายความหนาวจากอากาศภายนอก 
 
ห้องอาหารกระจกเล็กๆ  ฝั่งตรงขามถนน  ทำให้ฉันตัดสินใจเดินข้ามเข้าไป  ภายในมีโต๊ะนั่งราวสี่ห้าตัวจัดตกแต่งดูดี  ฉันเลือกนั่งมุมหลังสุดและสั่งอาหาร    มีลูกค้าในร้านไม่กี่คน  บ้างนั่งดื่มชาร้อนๆ เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย  ใจที่กำลังจดจ่อกับอาหาร  พร้อมกับแขนสองข้างที่หนีบแนบแน่นกับลำตัวเพราะความหนาว   หูฉันได้ยินเสียงแว่วเจื้อยแจ้วมาจากมุมอีกด้านหนึ่ง   สายตาเหลือบดูเล็กน้อย   เด็กตัวเล็กๆ  สองสามคนอายุราวสามสี่ขวบ  สวมเสื้อผ้าตัวหนาเก่าๆ  บางคนอุ้มกอดตุ๊กตาเก่าๆ   กำลังยืนคุยอะไรกันไม่ทราบกับผู้ชายอีกโต๊ะที่นั่งใกล้ประตูร้าน    ฉันพยายามเดาเหตุการณ์   อ่านเจตนาและฟังภาษาไม่เข้าใจแต่คิดว่าเด็กต้องการอะไรสักอย่าง   หลังจากนั้นพนักงานในร้านเดินมาไล่เด็กๆ  ออกจากร้านไป    
ฉันเองรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยกับภาพเหตุการณ์  หรือว่าเด็กๆ เหล่านั้นคงจะหิว  ถ้าฉันพูดฟังภาษาของพวกเขาได้เข้าใจมากกว่านี้   ฉันอยากจะเดินเข้าไปถามว่าหนูต้องการอะไร  แล้วทำไมเขาถึงไม่เดินมาที่โต๊ะฉันหรือเขามองไม่เห็นแล้วฉันจะคุยกับเขารู้เรื่องมั๊ย   และอีกอย่างก็กลัวว่าเจ้าของร้านจะเอ็ดเอาเพราะเราเป็นคนต่างชาติสำหรับที่นี่  อาจไม่รู้เข้าใจในวัฒนธรรมของเขา  ได้แต่นิ่งและคิด   ฉันเดินลุกไปจ่ายตังค์ที่เค้าเตอร์แต่สายตาก็ยังมองหาเด็กเหล่านั้นอยู่  พวกเขาคงเดินหายไปที่ไหนแล้ว   ถ้าหากเขาหิวละเขาคงทรมานน่าดู  ขณะจ่ายตังค์ใจฉันก็ยังคิดอยู่อยากจะซื้ออาหารแจกให้พวกเขาเสียเดียวนี้เลย   ฉันเดินออกจากร้านอาหารไปในใจและสายตาก็ยังกวาดมองหาพวกเขาแต่แล้วก็ไม่พบเจอ
&&&&&&&&&
วันใหม่ฉันตัดสินใจมานั่งทานอาหารที่ร้านนั้นเวลาเดิม  คราวนี้ฉันเลือกนั่งมุมใกล้ประตูติดหน้าต่างกระจก  จุดประสงค์เพื่อต้องการเห็นเด็กๆ นั่นอีกครั้ง   ทานอาหารไปทั้งใจและสายตาได้แต่พยายามเฝ้ามองว่าเมื่อไรเด็กเหล่านั้นจะมาเสียที  ฉันนั่งทานไปอ่านหนังสือไปเพื่อฆ่าเวลานานพอควรแต่แล้วก็ไม่มีวี่แววแม้แต่น้อย  ฉันจึงเดินไปจ่ายตังค์และตัดสินใจถามเจ้าของร้านเป็นภาษาอังกฤษ  ตามสำเนียงฉบับ  Thailish  คือ ภาษาไทย + อังกฤษ   "จำพวกเด็กๆ  ที่เข้ามายืนหน้าร้านเมื่อวานได้มั๊ย   เจ้าของร้านพูดภาษาอังกฤษได้พอสื่อสารกันเข้าใจ เขาบอกจำได้   ฉันจึงบอกเขาว่า  "ฉันอยากจะซื้ออาหารของคุณให้กับเด็กเหล่านั้น   หากพวกเขามาอีกครั้งช่วยจัดการให้ด้วย"  ฉันยื่นเงินให้เขาคิดว่าน่าจะเพียงพอกับค่าอาหารนั่นซึ่งไม่ได้แพงมากมายพอที่จะจ่ายได้    เจ้าของร้านมองหน้าฉันแบบงงๆ  และรับไว้   เพราะฉันไม่รู้ว่าจะได้หวนกลับมาที่นี่อีกหรือไม่   แต่ฉันเชื่อว่าเด็กเหล่านั้นจะกลับมา  
"ฉันไม่อยากนึกถึงภาพของคนที่กำลังหิว   ท้องที่กำลังร้องขณะที่ฉันกำลังย่างเท้าเข้ามาในร้านอาหารเมื่อวานนี้   ไม่อยากให้ภาพที่เห็นมันค้างคาใจ     แม้จะช้าเกินไปกับการที่พวกเขาจะได้รับหรือไม่ได้รับในการตัดสินใจของฉันครั้งนี้    แต่ฉันก็มีความสุขที่ได้ทำ"				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    11 พฤศจิกายน 2551 21:51 น. - comment id 102357

    41.gif41.gif41.gif....
    
    ขอบคุณแทนเด็กๆเหล่านั้นด้วยนะคะ 
    
    คุณเป็นคนที่มีน้ำใจดีงาม
    
    ขอให้สิ่งที่ดีๆจงย้อนกลับหาตัวคุณเองนะคะ 
    
    36.gif36.gif36.gif
  • รอยทาง

    11 พฤศจิกายน 2551 22:19 น. - comment id 102358

    ขอบคุณคะ  คุณฉางน้อย  ที่เข้ามาทักทาย
    
    คนเราไม่ว่าจะเกิดเป็นคนชาติใด  สิ่งที่เหมือนกันก็คือการดำรงชีวิตอยู่  รู้จัก หิว รู้จักเจ็บปวด  รู้จักเศร้า  ร้องให้  เหมือนกัน  เพียงคิดถึงหัวอกเขาหัวอกเรา อะไรที่หยิบยื่นได้เเม้จะเล็กน้อย อาจทำให้เขามีกำลังใจสู้ต่อไปได้คะ
  • แก้วประภัสสร

    13 พฤศจิกายน 2551 15:05 น. - comment id 102365

    คุณเป็นคนที่มีเมตตา ขอให้คุณมีแต่ความสุข
    สมหวังนะคะ 
    29.gif29.gif
    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
    36.gif36.gif
  • ดอกบัว

    13 พฤศจิกายน 2551 16:53 น. - comment id 102367

    สวัสดีค่ะ พี่รอยทาง
    
    แบ่งปันเป็นธรรมอันประเสริฐค่ะ
    ขอให้พี่รอยทางพบแต่ความสุขสมบูรณ์
    ในชีวิตค่ะ
    57.gif36.gif
  • โคลอน

    13 พฤศจิกายน 2551 17:53 น. - comment id 102368

    41.gif11.gif36.gif11.gif
    
    อยากให้มีคนคิดแบบ รอยทางเยอะๆจังค่ะ โลกนี้คงสวยงามกว่านี้เยอะเลย29.gif
  • nirvanar-t

    14 พฤศจิกายน 2551 10:57 น. - comment id 102382

    อ่านแล้วชุ่มชื่นหัวใจจังค่ะ  ขอชื่มชมสำหรับการเอื้อเฟื้อแบ่งปันนะคะ
  • รอยทาง

    19 พฤศจิกายน 2551 00:26 น. - comment id 102509

    สวัสดีคะ คุณเเก้วประภัสสร
    
    ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันคะ   ขอบคุณมากคะสำหรับความสุขที่มอบให้  เเละขอส่งความสุขมอบให้กับคุณเช่นกันคะ
  • รอยทาง

    19 พฤศจิกายน 2551 01:34 น. - comment id 102510

    สวัสดีคะ น้องดอกบัว  ไม่ได้ทักทายกันนาน สบายดีนะคะ
    
    ขอมอบความสุขสมบูรณ์ให้กับน้องเช่นเดียวกันคะ
  • รอยทาง

    19 พฤศจิกายน 2551 01:43 น. - comment id 102511

    สวัสดีคะ คุณโคลอน  ขอบพระคุณคะที่ทักทาย
    
    ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร  นิสัยขี้สงสารเเละชอบคิดตัดสินใจเเทนคนอื่นอยู่เรื่อย  อะไรที่เราพอจะเเบ่งปันได้  โดยที่เราไม่เดือดร้อนเกินไป  ก็มักจะทำอยู่เรื่อยเมื่อมีโอกาส
    
    ขอให้มีความสุขนะคะ
  • รอยทาง

    19 พฤศจิกายน 2551 01:53 น. - comment id 102512

    สวัสดีคะ  nirvanar-t  สำหรับการทักทาย
    
    
    ขอขอบพระคุณมากคะสำหรับบทความนี้  ที่ทำให้คุณได้ชุ่มชื่นหัวใจ  รอยทางก็พลอยชุ่มชื่นมีความสุขไปด้วยคะ
    46.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน