-โลก -ต่อให้น้ำท่วมหมดทั้งโลกในวันนี้ หรือในอีก 2 พันปีข้างหน้า โลกก็จะยังไม่แตก -หากแต่น้ำจะท่วมแผ่นดินส่วนหนึ่งของโลกในอีก 2 - 5 ปี ข้างหน้า -หากแต่น้ำจะท่วมแผ่นดินส่วนหนึ่งของโลกในอีก 30 ปี ข้างหน้า -อาจเป็นเพียงเรื่องสั้นที่ผู้ทรงอภิญญาและผู้ทรงวิทยาศาสตร์มองเห็น และเป็นจริง -เพราะโลกจะต้องแตกในปี ๕๐๐๐ เท่านั้น -นั่นไม่ใช่เพื่อจะต้องให้เป็นไปตามพุทธทำนาย -หากแต่เป็นเพียงสิ่งที่สมณโคดมพระพุทธเจ้าทรงเห็นและได้ตรัสไว้ ..................................................................................................................... ปกิณกะธรรม สมชาย - ป๊อก มานั่งใกลๆ ผมนี่ ผมมีอะไรจะบอก บิ๊กป๊อก - จะลาออกแหงๆเลย! สมชาย - ผมไม่ลาออก ไม่ยุบสภา! ฮ่า...ฮ่า...แค่หลอกให้มานั่งใกล้ๆ เอง http://manager.co.th/Pjkkuan/ViewNews.aspx?NewsID=9510000124836 บิ๊กป๊อก - ถ้าผมเป็นนายกฯ ผมลาออกไปแล้ว สมชาย - ถ้าผมเป็น ผบ.ทบ. ผมลาออกไปแล้ว http://manager.co.th/Pjkkuan/default.html ................................................................... มีคนบอกว่าพวกเราเหนื่อยเปล่า บางคนปรามาสว่าพวกเราไม่มีทาง ชนะ หลายคนถามว่าเป้าหมายของพวก เราอยู่ที่ใด แล้วในที่สุดความจริงแห่งกรรมก็ปรากฏ .... ..... ไม่เพียงพ่ายแพ้ แก่พวกเรา หากความฉ้อฉลคดโกง ของทรราชเช่นเขา ยังปราชัยอย่าง สิ้นเชิงต่อคุณงามความดี... 2 ปี จะช้าจะเร็วไม่สำคัญ กี่เดือนกี่ปีพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยไม่ย่อท้อหวาดหวั่น เนื่องเพราะผลลัพธ์อันสำคัญเหนือ พรรณนา คือ ........ บก.ผู้จัดกวน : เรียนท่านผู้อ่านเหตุที่กอง บก. ต้องพาดหัวใหญ่ขนาดนี้ก็เพื่อความสะใจ เพราะหลังจากต่อสู้และรอคอยมานาน นี่เป็นครั้งแรกที่ .... ..... ถูกพิพากษาให้ติดคุก เราจึงขออนุญาตผู้อ่านพาดหัวขนาดมโหฬารสักวัน ส่วนเนื้อข่าวกรุณาไปหาอ่านที่หนังสือพิมพ์ฉบับอื่นเอาเอง. คำเตือน ทีมงานผู้จัดกวน...ขอยืนยัน-นั่งยัน-นอนยัน ว่าเนื้อหาทั้งหมดภายในหมวดเป็นเรื่องสมมติขึ้นทั้งสิ้น หากชื่อหรือสถานการณ์ใดๆ ไปพ้องกับใครเข้า เราจะไม่ยอมรับผิดชอบอย่างเด็ดขาด http://manager.co.th/Pjkkuan/ViewNews.aspx?NewsID=9510000125405 ................................................................... มีรถจอดรออยู่ ที่หน้าประตูรัฐสภา รับส่งนักการเมืองชั่วเข้าคุก เต็มออกๆ ไม่อั้น จบปกิณกะธรรม
22 ตุลาคม 2551 16:05 น. - comment id 102099
ถ้าหากคนเราทำความดีต่อให้มีชีวิตเหลืออีกแค่นาทีก็มีคุณค่าค่ะ
24 ตุลาคม 2551 17:23 น. - comment id 102127
3 สิงหาคม 2553 04:46 น. - comment id 118377
เนโกะ neko chan รักพ่อหลวง วัฏจักร และ จุดจบของโลก ในทรรศนะของพระพุทธศาสนา Share Friday, July 23, 2010 at 11:55am วัฏจักร และ จุดจบของโลก ในทรรศนะของพระพุทธศาสนา วัฏจักร และ จุดจบของโลก ในทรรศนะของพระพุทธศาสนา ขอตั้งสมมติฐานว่า จุดจบของโลกอยู่ที่ ๖๐๐๐ ล้านปี และ จุดจบของโลก กับ จุดจบของสัตว์ที่มีวิญญาณครองต่างกัน โดยมีเหตุผลและอรรถาธิบาย ยกหลักฐานจากพระคัมภีร์ มาประกอบดังนี้ - ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์บอกว่า โลกใบนี้เกิดมาแล้ว ประมาณ ๔๕๐๐ ล้านปี - พระพุทธเจ้าตรัส ว่า ในภัทรกัปนี้ โลกใบนี้เคยมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติแล้ว ๔ พระองค์ คือ ๑. พระกกุสันธะ ๒. พระโกนาคมนะ ๓. พระกัสสปะ ๔. พระโคดม(พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน)[14] นั่นก็เท่ากับว่า ประมาณ ๑,๑๕๐ ล้านปีมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ ๑ พระองค์ หลัง จากนั้น โลก จะ ล้าง เพราะนํ้าท่วม,ไฟใหม้ (ภูเขาไฟระเบิด)เป็นยุค ๆไป[15] (แต่โลกยังไม่แตก) ขณะที่โลกถูกไฟไหม้ และนํ้าท่วมนั้น มนุษย์ส่วนมากจะไปเกิดในชั้นอาภัสสรพรหม(ไปอยู่กับพระเจ้า) เมื่อภูมิ อากาศและผืนดินอุบัติขึ้นใหม่ ก็จะกลับมาเกิดในโลกอีก[16] พระพุทธเจ้าตรัสบอกอีกว่า ในกัปของโลกนี้ จะมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติเพียง 5 พระองค์[17] แล้วโลกก็จะแตกพินาศไป เพราะไฟ ( ดวงอาทิตย์เรียงกัน ๗ ดวง[18] ) นั่นก็แสดงว่า อีกประมาณ ๑๕๐๐ ล้านปีข้างหน้าโลกจะแตกพินาศ หลังจากพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ คือ พระศรีอริยเมตตรัย อุบัติแล้ว ๑๐๐๐ ล้านปี แต่ สรรพสัตว์มิได้มีจุดจบอยู่แค่นั้น หลังจากโลกพินาศแล้ว สัตว์ส่วนมากจะไปเกิดในชั้นอาภัสสรพรหม เมื่อโลกอุบัติขึ้นใหม่ ก็จะกลับมาเกิดเป็นสรรพสัตว์ในโลกอีก ดูรายละเอียดได้ใน อัคคัญญสูตรพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๐ โลกล้าง กับโลกแตกแตกต่างกัน อีก ประมาณ ๕๐๐ ล้านปีโลกจะล้าง เพราะนํ้าท่วม และไฟไหม้จนมนุษย์ตายหมดโลก ....แต่โลกยังไม่แตก หลังจากนั้น..ภูมิอากาศของโลกก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง ..มนุษย์ที่ตาย ไปเกิดในอาภัสสพรหม..(ไปอยู่กับพระเจ้า..) ก็จะกลับมาเกิดในโลกอีกครั้ง..แล้วจะเข้าสู่ยุคอยู่พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ คือ พระศรีอริยเมตตรัย.... หลังจากยุคพระศรีอริยเมตตรัย..ประมาณ ๑๐๐๐ ปี โลกจึงจะแตก... เมื่อโลกแตก....สัตว์มี วิญญาณทั้งหลายก็จะเกิดโลกดวงใหม่ต่อไปอีก....สรรพสัตว์ก็จะกลับมาเกิดในโลก ดวงใหม่ต่อไปอีก... เป็นอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ใน เมื่อธรรมชาติเป็นเช่นนี้ การได้ไปอยู่บนสรรค์กับพระเจ้า..ก็ยังมิใช่ที่ปลอดภัย...เพราะ..??? เพราะเมื่อหมดบุญแล้วก็ต้องกลับไปเกิดในอบายภูมิเป็นส่วนมาก ปรากฏความในพระคัมภีร์ว่า ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงใช้ปลายพระนขา(เล็บ)ช้อนฝุ่นขึ้นมาเล็กน้อย แล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า ..ภิกษุทั้งหลาย เธอเข้าใจความข้อนี้อย่างไร ฝุ่นที่เราใช้ปลายเล็บช้อนขึ้นมากับแผ่นดินใหญ่นี้อย่างไหนจะมากกว่ากัน ภิกษุ ทูลตอบว่า ....ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แผ่นดินใหญ่นี้แลมากกว่า ฝุ่นที่ปลายพระนขามีเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับแผ่นดินใหญ่แล้ว คำนวนไม่ได้ เทียบกัน ไม่ได้ หรือไม่ถึงส่วนเสี้ยว ภิกษุ ทั้งหลาย ข้อนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน สัตว์ที่จุติเทวดามาเกิดในเทวดามีจำนวนน้อย ส่วนเทวดาที่เคลื่อนจากสวรรค์แล้วไปเกิดในนรก ไปเป็นเปรตมีจำนวนมากกว่า พวกเทพชั้น เวหัปผลาที่ไม่ได้สดับพุทธธรรมมีอายุประมาณ ๕๐๐ กัป เมื่อสิ้นอายุให้ระยะเวลาที่เป็นกำหนดอายุหมดไปแล้ว ไปสู่นรกบ้าง ไปสู่แดนเปรตบ้าง[19] พระองค์ตรัส เปรียบเทียบให้พระภิกษุฟังว่า.... เมื่อพรหมเคลื่อนจากภพของตนแล้ว ที่จะได้กลับไปเกิดเป็นพรหมอีกหรือไปเกิดในภูมิที่ตํ่าลงมามีจำนวนน้อยแต่ เทวดาที่ต้องไปตกนรกมีจำนวนมาก... เทียบได้กับจำนวนฝุ่นที่ปลายเล็บกับผืนดินทั้งปฐพี ฉะนั้น สรุป ว่า ถ้ายังไม่บรรลุอรหันต์เข้าถึงพระนิพพาน ก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ร่าไป โดยไม่ขึ้นกับศาสนา หรือศาสดาองค์ใด เพราะนี่คือกฎธรรมชาติ ถึงไม่มีใครเชื่อก็ยังคงเป็นอย่างนี้ เพราะนี้คือ กฎธรรมชาติ ------------ ที่มา: http://www.watklaikangwon.org/index....cle&Id=5378092Updated about a week ago · Report Note เนโกะ neko chan รักพ่อหลวง กฏธรรมชาตินั้นมีอยู่แล้ว และดำรงอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าพระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นมาหรือไม่ก็ตาม นี่คือธรรมชาติ และนี่ก็คือกฏของธรรมชาติ สาธุ July 23 at 11:58am · In this note http://www.facebook.com/note.php?note_id=137377976292692&id=100001051819841 ♥