คุกรุ่น
สะพั่งสะท้านไมภพ
ความใคร่ มันคุกรุ่นอยู่ในตัวผมตลอดเวลาเลยผมไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ หรือว่าเอนี่คือเดือนตุลาคมเดือนแห่งสรรพสัตว์สมสู่ตามครรลองของธรรมชาติ ในสังคมของคนที่มีวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามที่กางกั้นการกระทำตามใจคนไว้ได้หรือไม่
สิ่งนี้เองหรือคืออาวุธของธรรมชาติที่ทำให้คนต้องทุรนทุรายและแสวงหา บางคนก็ไม่รู้ตัวว่าตนเองต้องการอะไร และแสวงหาแม้ตายก็ยังไม่รู้เลยว่าจะแสวงหาอะไรที่ทำให้ไม่ต้องแสวงหาอีก
ในยามค่ำคืนเงียบสงบในบ้านแบบโบราณในต่างจังหวัด เสียงหริ่งเรไรดังระงม เสียงฝนตกเปาะแปะ เสียงรถไฟนานๆมาสักที และก็เสียงบึ่งมอเตอร์ไซค์ลากยาวๆจนสุดถนน และเสียงรถหวอไปรับคนป่วยไปโรงพยาบาล ตาของผมลืมโพลงในความมืด และคิดอยากจะทำอะไรหลายๆอย่าง
ผมลุกขึ้นแต่งตัวยามค่ำคืน และขับรถออกจากบ้านไป ที่ไหนก็ได้ที่จะทำให้ลืมความอ้างว้างเปลี่ยวปล่าวได้
วิธีหนึ่งที่ผมชอบใช้เป็นประจำก็คือ เข้าเทค การฟังเพลงเสียงดังกระแทกหู กาดื่มของเหลวที่ชมชอบ และการเชิญชวนผู้แวดล้อม อาทิ เด็กเสริฟ นักร้อง คนดื่มข้างเคียง มาร่วมดื่ม และก็โยกไปด้วย หะแรกก็มัน พอเริ่มสั่งมากขึ้น ความมึนเมาเฮฮาบ้าบอก็เริ่มเกิด
ในความมืดย่อมทำให้สายตาของคนบ้าอย่างผมลืมไปสามอย่าง หนึ่ง ความมืดย่อมปกปิดความจริง สองเครื่องสำอางค์ในความมืดก็ปกปิดความจริง สามเครื่องแต่งกายในความมืดย่อมปกปิดความจริง
แม้ผมจะรู้มานานแล้วก็ตาม แต่ทว่าในวันนี้ วิธีหาเหยื่อของเสือเฒ่าแบบเดิม คือ ฉายเดี่ยว ทำท่าทีไม่สนใจใคร และเฮฮา ซึ่งก็ได้ผลทุกทีไป ในอดีตบางครั้งก็เล่นตัวซะสาวต้องลากไปเสียว และในวันนี้ก็มีสาวติดเบ็ดจนได้
แม้ความพยายามของคนจะออกไปแบบโค้งๆวนๆ แต่ที่จริงแล้วไม่มีอะไรหยุดความใคร่ได้นอกจากการได้ระบายความใคร่ตามที่ทางของมันควรจะเป็น
อีกข้อหนึ่งของการเป็นเพล์บอย ก็คือ หนึ่ง ไม่ควรพาหญิงเข้าบ้านรวมทั้งเกย์ด้วย สองไม่ควรไปนอนในที่ผู้หญิงพาไป ต้องไปนอนในที่ๆเรารู้จัก
แต่ ณ วันนี้ เสือเฒ่าอย่างผมไม่ได้กลัว ไม่ได้กลัวว่าจะรัก เพราะไม่มีรักให้ใครได้ วันนี้มีแต่ความใคร่เต็มๆ
และไม่กลัว ผมต้องบอกกับผู้หญิงที่ยอมมานอนว่า การที่จะรู้ว่ารักหรือไม่ ไม่ใช่มานอนกันแล้วถึงรัก แม้แต่คนที่เป็นคนรักกว่าจะรู้เนี่ยต้องนอนกันเป็นร้อยๆครั้ง
แม้ว่าเธอจะทำงง แต่ผมก็สรุปให้ว่า แบบนี้เรียกว่า กิ๊ก เท่านั้น
แท๊กซี่บางคนเมื่อได้ยินผมคุยในรถแท๊กซี่ ถึงกับดีใจใหญ่
แต่ทว่า สิ่งที่ผ่านมา วันเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน เมื่อความใคร่ถูกระบายออกไปไม่ใช่หมด ปัญญาก็เริ่มเกิดขึ้นนิดๆ และก็ระลึกได้ถึงความจริงในอดีต
ความรัก เป็นธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ มนุษย์ไม่สามารถสู้กับมันได้ สำหรับผมรู้แล้วและยอมแพ้ไปตั้งนานแล้ว ดังนั้นใครก็ตามที่คิดสู้กับธรรมชาติเรื่องนี้ย่อมต้องได้รับความเจ็บปวด
น้ำตาของเธอหลั่งไหล แต่ผมกลับคิดถึงบทเซ็กส์ที่ผ่านมา และปลอบเธอด้วยคำพูดว่า ผมไม่ได้รักเธอ แม้จะเจ็บปวดแต่ก็เหมือนยาขมที่ให้ได้ในเวลาที่เหมาะ และดีต่ออนาคตทางจิตใจของเธอ
ไม่มีใครตอบได้ถึงความพึงพอใจอย่างที่สุด
ดังนั้นในโลกใบนี้จึงต้องมีการแสวงหา
ความพิสดารพันลึกประดาแม้จนกระทั่งไม่คาดคิดว่าจะมีคิดแบบต่างๆขึ้นมาได้
นี่ก็สี่สิบแปดแล้ว
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหมดความใคร่ที่คุกรุ่นสักที อาจบางทีเมื่อสิ้นลมกระมัง
ก็ว่ากันไปเรื่อยๆละกัน