ภารกิจที่เกาหลีใต้
สะพั่งสะท้านไมภพ
สะพั่ง สะท้านไมภพ จับตาดูนางแบบคนหนึ่งที่โรงแรมแฮมิลตัน เธอมีนัยน์ตากลม และเนื่องจากเธอเป็นนางแบบเธอจึงทำให้คนมองไม่ว่าจะเป็นไทยหรือเกาหลี ล้วนแล้วแต่มองเธอจนลืมกริยา สะพั่ง หยิบมาโบโรไลด์ ขึ้นมา กระแทกซอง จนกระทั่งบุหรี่ตัวหนึ่งโผล่ออกมา เขาควักมันขึ้นมาใส่ปากและกดไฟแช๊คเกาหลี ราคาสี่สิบบาท จุดบุหรี่ พ่นควันออกมาแม้จะมีอากัปกริยาอย่างอื่นแต่สายตาก็ไม่วายจะจ้องมองทุกมุมมอง
ขณะนี้กล้องจิ๋วได้อยู่ในฝ่ามือของเขาแล้ว สะพั่งหันมุมกล้องไปทางเธอแบบที่ได้ถูกฝึกมา ในใจก็บอกให้ถ่ายๆภาพของเธอเก็บไว้ แต่เนื่องจากต้องรอถ่ายผู้ที่พบปะเธอจึงจะถ่าย เพื่อกันมิให้แบตเตอรี่หมดก่อนยามสมควร
สักพัก ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาและนั่งลงตรงโซฟาของโรงแรมและทั้งสองก็พูดกันสักพักก็พากันชวนกันเดินไปขึ้นลิฟท์
ผมวิ่งไปขอเข้าลิฟท์ด้วย ทั้งสองมองหน้าผม แต่ผมพูดเป็นภาษาเกาหลี และการปลอมแปลงผมทรงเกาหลีรวมทั้งองคายพบนใบหน้านิดหน่อยและของใช้เครื่องแต่งกายแบบเกาหลีแค่นี้ก็เหมือนเปี๊ยบเลย
ผมมองดูที่ปุ่มกดชั้น เมื่อทั้งสองกดชั้นห้า ผมก็ไม่กด และก็ยืนดูอยู่ สักพักเมื่อถึงชั้นห้าผมก็แกล้งเดินออกไปก่อน และเดินไล่หาห้อง จนกระทั่งสุดแล้วก็เดินย้อนกลับมา
วันนี้สามารถทราบหมายเลขห้องของเธอแล้ว ในการปฏิบัติการของสายลับนั้นวันละนิดหน่อยก็พอแล้ว ในวันพรุ่งนี้จะต้องสะกดรอยหากเธอต้องออกไปข้างนอก
ผมขอย้ายห้องมาอยู่ชั้นห้าเพื่อความสะดวกในการสืบ
ประมาณเวลา สามทุ่ม มีเสียงเคาะประตูที่หน้าห้อง ผมก็ไปมองทางรูประตู ก็เห็นเธอนั่นเอง ยืนที่หน้าประตู ผมชั่งใจนิดหน่อยแล้วก็เลยเปิดประตู
เธอพูดเป็นภาษาอังกฤษ
ผมก็ตอบเธอเป็นภาษาอังกฤษ
เมื่อเธอเข้ามาในห้องเธอได้สำรวจห้องของผมไปรอบๆแล้วนั่งลงบนเตียง
ผมมองดูเธอ ดูการแต่งกายด้วยเสื้อคลุมชุดนอนที่เพียงแค่ปกคลุมเรือนร่างของเธอแต่ไม่อาจปิดบังทรวดทรงอันโค้งเว้าได้
เธอมองที่ตาของผมเหมือนกับจะทะลุทะลวงเข้าไปภายใน
สักพักเธอก็อ้าขาออก แต่ทันใดนั้นเองเธอก็ล้วงมือเข้าไปชักปืนกระบอกเล็กออกมาแล้วยิ้มเยาะ
บอกมา เธอพูดเป็นภาษาไทย
ผม สะพั่ง สะท้านไมภพ ตกใจ มองหน้าเธอ แล้วกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ
เมื่อเห็นผมไม่พูดภาษาไทยเธอก็เลยพูดเป็นอังกฤษ
เธอเอาปืนจ่อผมแล้วให้ผมหยิบกระเป๋าตังค์ออกมา
เมื่อเธอเปิดดูเธอก็พบว่า ในกระเป๋าตังค์ของผมล้วนแล้วแต่เป็นของเม็ดอินเกาหลีทั้งสิ้น แม้แต่บัตรประจำตัวเกาหลี
เธอมองมาที่ผมแล้วพูดเป็นภาษาไทยว่า หน้าตาคล้ายๆคนไทย แต่กลับไม่ใช่ ดีหละ ว่าแล้วเธอก็ใช้ภาษาใบ้ เป็นทำนองให้ผมนอนลงที่เตียง เสร็จแล้วเธอก็จับมัดมือมัดเท้า
ผมนั่งทบทวนความผิดพลาดที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก
สักพัก เธอกลับแก้ผ้าผมจนล่อนจ้อน ผมก็มองหน้าเธอแต่ยังเดาใจไม่ถูก
สักพัก พอเธอถอดเสื้อคลุมและชุดนอนเธอออก และเริ่มปฏิบัติการอันสุนทรีย์กับผม
ผมแทบจะไม่เชื่อสายตา
ตอนนี้ผมไม่คิดถึงเรื่องงานติดตามเครือข่ายยาเสพติดอีกแล้ว
บางครั้งแม้ความตายรออยู่ข้างหน้า แต่สิ่งที่ได้รับก่อนตายหากคุ้มแล้วก็ไม่เสียดาย เพราะบางครั้งการตายบางครั้งยังไร้ค่าไร้สาระกว่าที่เป็นอยู่นี้มากนัก
เมื่อเธอสำเร็จกิจเธอก็จากไปโดยแก้มัดปล่อยให้ผมนอนหมดแรงบนเตียง
เช้าขึ้นมา ผมก็แต่งตัวไปทานข้าว
เจอเธอเดินลงมาพอดี เธอกลับเดินเข้ามาหาผมและถามผมว่า โกรธไหมเป็นภาษาอังกฤษ ผมยิ้มให้แล้วตอบเธอไปว่านอกจากจะไม่โกรธแล้วยังชอบแบบนี้อีกด้วย
เราทั้งสองคุยกัน
ผมก็เลยเกาะติดเธอแจทั้งวันไปไหนไปด้วย
สายลับก็อย่างนี้แหละครับ เมื่อสามารถเกาะติดเป้าหมายได้อย่างใกล้ชิดแล้วภารกิจต่อไปก็ไม่ยาก
เมื่อเธอต้องเดินทางกลับประเทศไทย ผมก็ไปส่งเธอและโบกมือให้เธอ
แต่ทว่าเมื่อส่งเธอเสร็จ ผมก็ต้องรีบเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่ แปลงโฉมองคายพบนใบ้หน้านิดหน่อย แล้วเอากระเป๋าใบใหม่ จากห้องฝากของที่สนามบินมาแล้วเข้าไปนั่งรอก่อนขึ้นเครื่อง
แล้วผมก็นั่งข้างๆเธอ ๆหันมามองผมบ่อยๆ
แต่ผมก็ทำทีเป็นไม่สนใจ
ภารกิจของผมมันต้องตามเธอไปเรื่อยๆครับ
จนกว่าจะสามารถสืบหาเครือข่ายการติดต่อสื่อสารของขบวนการนี้ได้ และในไทยก็จะมีผู้ช่วยผมอีกหลายคนจึงไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่
และแล้วเธอก็ชวนผมคุยเป็นภาษาไทย