เหนือพยาบาท
สะพั่งสะท้านไมภพ
หนังสือสีม่วงเล่มนั้นเอง ที่เจ้าของที่เป็นผู้หญิงอายุ ยี่สิบห้าปี กล่าวว่าจะไม่ยอมให้ใครดูเป็นอันขาด เธอได้กล่าวให้สะพั่งสะท้านไมภพฟัง
สะพั่งสะท้านไมภพ มองเธอแล้วก็คิดในใจว่า ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ และจะต้องได้ดูหนังสือสีม่วงนั้นอย่างที่เธอต้องยินยอมเอง
เธอคนนั้นก็มีใบหน้าอย่างชาวบ้านแถบอีสานหน้าอกใหญ่ กินเหล้าเก่ง และมีเสน่ห์ ผมสะพั่งสะท้านไมภพ มีก็แต่ความใจถึง หน้าตาบ้างครั้งก็ดูหล่อบางครั้งก็ดูขี้เหล่ แต่จากการมีเป้าประสงค์ที่เร้นลับ สะพั่งจึงใช้เธอเพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานต่อไป
ด้วยมาดสุดเท่ห์ของสะพั่งก็ทำให้มีหญิงสาวหลายๆรายที่ต้องการจะเข้ามาร่วมมือกับชีวิตของสะพั่ง แต่สะพั่งไม่ได้มีความรัก สะพั่งได้มอบความรักทั้งหมดให้กับเมียสุดที่รักไปหมดแล้ว และเมียสุดที่รักสั่งมาว่ายุ่งได้แต่ห้ามเลี้ยง สะพั่งท่องจำจนขึ้นใจ
ในตอนนั้น ผมต้องไปที่ขอนแก่น ผมได้พาเธอไปด้วย ได้กินเหล้าเมายาและเต้นระบำ ช่างมีความสุขเสียเหลือเกิน
ก่อนหน้านั้น ความใกล้ชิดทำให้อยากจะอยู่ใกล้ชิด และความขุ่นอกขุ่นใจจากทางบ้านที่ไม่ค่อยฟังข้อคิดเห็นของสะพั่ง ก็ทำให้สะพั่งเกิดความเบื่อหน่าย ใจจึงบิดและเบี่ยงเบน
มีอยู่วันหนึ่งสะพั่ง กับสาวเจ้าของสมุดบันทึกสีม่วงเล่มนั้นได้ไปตักบาตรร่วมขันและทำบุญร่วมชาติ
วันนั้นสะพั่งถามเธอแล้วว่าจะอยู่กันอย่างพี่น้องหรืออยู่อย่างผัวเมีย
ชีวิตแบบนั้น สะพั่งไม่เข้าใจว่า ต่างคนก็ต่างรัก แล้วทำไมจะอยู่ร่วมเรือนร่วมเตียงกันไม่ได้
สะพั่งเจรจากับภรรยา
ภรรยาสะพั่งเป็นลมสลบไป
หลังจากออกจากโรงพยาบาล สะพั่งตั้งใจว่าจะดูแลภรรยาของเขาให้ดีที่สุดจะยอมรับความยากลำบากทั้งหลายแหล่ที่จะมาทับถม
หากจะเปรียบเทียบกันแล้วสะพั่งย่อมรักภรรยามากที่สุด
แม่ของสะพั่งได้ให้คำเตือนว่า ต้องใจแข็ง
สะพั่งต้องใจแข็ง ในการที่จะตัดรักจากหญิงคนหนึ่งให้ได้
จนถึงวันนี้ ก็หวังว่าความพยาบาทของหญิงคนนั้น จะมีสักวันหนึ่งที่ผมจะชดใช้ให้เธอได้จนหมดสิ้น
...ท้องฟ้ามิใช่มีแต่ดวงจันทร์เท่านั้น แต่จะต้องมีดวงดาวด้วย....