จะมีใครบ้างไหมที่ไม่ได้เกิดมาจากท้องของผู้หญิงที่เรียกว่า "แม่" ทุกๆคนเกิด มาจากความรักของพ่อและแม่ และทุกๆคนก็เกิดมาจากท้องของแม่ คงไม่มีใคร สินะที่เกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่ หรือสิ่งอื่นๆ ใครจะรู้บ้างว่า แม่ของเรานั้น เป็น อย่างไร แม่ของเรานั้นรู้สึกอย่างไรกับลูกของตัวเอง วันนี้ผมขอเล่าเรื่องแม่ ของผมให้ทุกๆท่านได้อ่านนะครับ ผมเป็นลูกชาวนา ที่ครอบครัวไม่ถือว่ารวย และก็ไม่จน ครอบครัวหนึ่งใน ชนบทของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในตอนเด็กนั้น ผมเป็นเด็กที่ซนมาก ชอบหนีแม่ไปบ้านคนอื่น โดยที่ไม่มีใครรู้ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมจำได้ดีในตอน ที่ผมยังเป็นเด็กว่า "ผมไปบ้ายยายซึ่งอยู่อีกที่หนึ่ง ซึ่งถัดจากบ้านของผมไปไม่ไกล แล้ววันนั้นแม่กลับมาบ้าน ก็ไม่เจอผม เพราะผมไม่ได้บอกใครไว้เลย และ ผมก็ไม่ได้บอกใครไว้ด้วยว่าผมไปไหน แม่กลับมาเที่ยวถามเพื่อนบ้านว่าเห็น ลูกไหม ลูกหายไปไหน แม่นึกว่าผมตกน้ำ (เพราะบ้านผมติดคลอง) จึงกระโดด ลงไปในน้ำเพื่อควานหาร่างของลูกตัวเอง คนอื่นๆก็ช่วยกันตามหาเป็นเวลานาน จนในที่สุด น้าก็ไปเจอผมที่บ้านยาย แล้วก็พาผมกลับมาบ้าน พอแม่เห็นผมเท่า นั้น คว้าไม้ตีผม แต่ผมก็รู้ว่าท่านตีไปเพราะท่านรักและเป็นห่วงเรามาก ท่านไม่ อยากให้เกิดเรื่องร้ายๆกับเรา เพราะเราเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของท่าน" เรื่องราวต่างๆ ที่แม่ผมได้สอน จนทุกวันนี้ผมก็ยังจำได้คือ แม่มักจะสอนผม เสมอๆว่า "ลูกเอ๋ย แม่ไม่มีอะไรให้ลูกนะ ทรัพย์สมบัติ หรือเงินทอง แม่ก็ไม่มี จะให้หนูเลย หนูต้องตั้งใจเรียน หาวิชาความรู้ เพื่ออนาคตของหนูเองนะ" เพียงคำพูดแค่นี้ ผมก็แทบจะร้องไห้แล้ว เพราะว่าครอบครัวของผมมันจนจริงๆ ไม่ร่ำรวยเหมือนบ้านรอบข้าง แต่แม่ก็พยายามหาเงินส่งผมให้ได้เรียน จนใน ปัจจุบันนี้ ผมเรียนอยู่ปี 4 คณะศึกษาศาสตร์ ก็เพราะคำพูดของแม่ที่คอยพร่ำ สอนผมตลอดเวลา ผมไม่ได้อยู่กับแม่ตลอดทั้งปีตั้งแต่อายุ 12 เพราะว่าผมมาเรียนอีกอำเภอหนึ่ง ซึ่งมันเป็นโรงเรียนกินนอน ไม่ต้องกลับบ้าน นานๆแม่จะมาเยี่ยมสักที แม่มา ครั้งใดผมก็ดีใจ แต่เวลาที่ท่านจะกลับ ผมอยากจะร้องไห้ ผมจำได้ครั้งแรกที่ ผมมาพักอยู่ที่หอ ตอนกลางคืน ผมร้องไห้จนหลับไป เพราะว่าไม่เคยนอนห่าง จากแม่เลย คิดถึงแม่มาก คิดถึงท่านมากที่สุด แม้แต่เวลาที่ผมป่วย ผมก็จะ ร้องไห้ เพราะว่าเวลาป่วย แม่จะคอยดูแล หายามาให้กินอยู่เสมอ แต่นี่ผมไม่ ได้อยู่กับแม่แล้ว และผมก็รู้ว่า วันแรกที่ผมมาพักอยู่ที่หอในโรงเรียน แม่และพ่อต่างคิดถึงผมด้วยกันทั้งคู่ จนบางทีท่านยังนั่งร้องไห้ ตอนนี้แม่ของผมเป็นโรคต้อกระจกตา แต่ท่านได้รับการรักษาแล้ว ผมอยาก จะกลับไปเยี่ยมท่านสักครั้ง แต่ก็ยังไปไม่ได้เลย เพราะว่าผมติดเรียนอย่างหนัก ไม่มีเวลาจะกลับบ้านไปเยี่ยมท่าน แต่ก็โทรศัพท์คุยกัน วันแรกที่แม่บอกผม ว่า ตาขวาของท่านเริ่มจะมองไม่เห็น และตาซ้ายก็เห็นรางๆเท่านั้น เพียงแค่นี้ น้ำตาของผมก็จะไหล เพราะว่าผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า แม่จะป่วยเป็นโรคนี้ แต่ท่านก็ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว และผมก็จะต้องกลับไปเยี่ยมท่านอย่าง แน่นอน สุดท้ายนี้ ผมอยากจะฝากบอกลูกๆทุกคนว่า "ในโลกนี้ ไม่มีใครรักเราจริง เท่ากับแม่ของเรา เพราะว่าท่านทนอุ้มท้องเรามาตั้งเก้าเดือน ต้องทรมานอย่าง หนักตอนที่คลอดเรา และต้องเลี้ยงดูเราจนเติบโต แค่ค่าน้ำนมจากอกแม่ของ เราเพียงหยดเดียว ชาตินี้เราก็ชดใช้ให้ไม่หมดแล้ว องค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า "พระคุณพ่อ พระคุณแม่ ยากจะตอบแทนได้ แม้ว่าลูก จะวางพ่อไว้บนบ่าซ้าย วางแม่ไว้บนบ่าขวา คอยอาบน้ำ ป้อนอาหาร หรือแม้แต่ ให้ท่านถ่ายปัสสาวะ-อุจจาระบนบ่าทั้งสองของเรา ตลอดแสนภัทรกัปป์ ก็ไม่ สามารถทดแทนพระคุณท่านได้ แม้แต่เพียงค่าน้ำนมเพียงหยดเดียว" ลูกๆ ทั้งหลาย เวลานี้เรายังมีพ่อและแม่ให้ดูแล จงดูแลท่าน อย่าปล่อยให้ท่านได้ เหงา หรือคิดถึงเรา เราจงคิดถึงท่าน และตอบแทนท่านอยู่ตลอดเวลา ลูกบางคนโตมาเอาแต่เลี้ยงเมีย ไม่เลี้ยงแม่ มีเงินก็ให้เมีย ไม่ให้แม่ หรือว่าเรา จะรอให้ท่านได้ตายไปก่อน ถึงจะตอบแทนบุญคุณท่าน แม้ว่าเราจะหาโลงไม้สัก อย่างดีมาใส่ร่างท่าน หาอาหารอย่างดีมาให้ท่าน แล้วเคาะข้างโลงเบาๆว่า "แม่จ๋า กินข้าวนะ หนูหามาให้แม่แล้ว" หรือว่าเวลาพระสวด ก็ไปเคาะข้างโลงว่า "แม่จ๋า ฟังพระสวดนะ" ท่านคิดหรือว่าแม่ของเราจะรับรู้การกระทำของเรา ทำไมตอนท่านมีชีวิตอยู่ เราไม่หาที่นอนดีๆ สะอาดๆมาให้ท่านได้นอน ทำไมไม่ หาอาหารดีๆมาให้ท่านได้กิน ทำไมไม่นึกถึงท่านตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ ลูกๆเอ๋ย วันนี้เรายังไม่สายที่จะตอบแทนท่าน ไม่ต้องรอให้ท่านสิ้นลมไปก่อนแล้วจึง จะตอบแทนท่าน จงสำนึกพระคุณของท่านอยู่เสมอ อย่าลืมว่าใครเลี้ยงเรามา ใครรักเรามาก ใครเป็นห่วงเรามาก แม่ไม่ได้หวังอะไรมากจากท่าน แต่ท่านก็ ต้องการความรักจากลูกๆ ลูกๆทั้งหลาย วันนี้ยังไม่สาย จงทำดีกับแม่ของตัวเอง จงตอบแทนพระคุณแม่ก่อนจะสายเกินไป เพราะแม่ก็เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง ที่รักลูกของตัวเองมาก และอยากให้ลูกๆได้รับรู้ถึงความรักของท่าน
9 สิงหาคม 2551 22:46 น. - comment id 100892
เป็นเรื่องดีมากเลย...แต่ตินิดนึงเพราะเราเรียนภาษาไทย(การใช้ภาษา) นายเขียนคำว่า บ้าน(ผิด) ตรงคำว่าบ้ายยายนะ ขอให้เจริญๆๆๆ
10 สิงหาคม 2551 07:00 น. - comment id 100895
ขอบคุณครับที่แนะนำ พอดีว่าผมรีบพิมพ์ ไปหน่อยน่ะครับ เลยไม่ได้ตรวจทาน คราวหลังจะระวังให้มากกว่านี้ครับ
10 สิงหาคม 2551 07:43 น. - comment id 100896
อุ่นใดใดโลกนี้ มิมีเทียบเทียม อุ่นอกอ้อมแขน อ้อมกอดแม่ตระกอง...........
28 สิงหาคม 2551 01:23 น. - comment id 101255
หนูจะให้เนื้อเพลงๆอิ่มอุ่นนะคะเพราะหนูเคยร้อง จะเริ่มหละนะคะ ..........อุ่นไดๆโลกนี้ไม่มีเทียบเทียม อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตระกองรักเจ้าจึงปลูกรักลูกแม่ย่อมห่วงใยไม่อยาดจากไปไกลแม้เพียงครึ่งวัน ให้กายเราใกล้กันให้ดวงตาไกไกล้ตาให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน .............เอาแค่นี้ก่อนนะคะเดี๋ยวจะเอามาเพิ่มอยู่