เรื่องสั้นที่แล้ว เล่าถึง ตอน มิตรภาพข้ามเวปไซด์ แล้วก็จบภาคตอนมื้อเที่ยงของวันเสาร์ที่ 26 ที่จริง ไคลแมกซ์มันอยู่ตรงภาคนี้ต่างหาก อยากรู้ก็ต้องตามอ่านนะ
. เสื้อสีส้มที่ได้รับมอบจากเวปมาสเตอร์เวป ok อยู่ตะกร้าหน้ารถ พร้อมน้ำหนึ่งขวด .. คาดผ้าเช็ดหน้า สวมแว่นกันแดด .. พร้อมลุย
. แผนที่เส้นทางลัดที่คนพื้นที่กระซิบบอกมา ลัดตั้ง 4 กม. อยู่ในมือแล้ว อัลมิตราชวนเพื่อนอีกหกคนให้ไปทางนั้น แต่เพื่อนในกลุ่มพากันส่ายหัว แถมทำหน้าเหมือนไม่ไว้วางใจ คงกลัวอัลมิตราจะพาไปหลงกระมัง "โห ลัดจริง ๆ นะ เราต้องไปถึงก่อนใครแน่ ๆ เลย ไม่ต้องย้อนอ้อมด้วย" ตะล่อมยังไง ก็ไม่สำเร็จแฮะ ไม่มีใครยอมเป็นแนวร่วมสักราย เฮ้อ !!
. เออ เออ ไม่ไปก็อย่าไป.. ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ กระทั่งอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า อัลมิตราถึงประจักษ์ใจว่า . . ที่ เ ข า ไ ม่ เ ชื่ อ น่ ะ . . ดี แ ล้ ว . .
. ในเมื่อเพื่อนไม่ยอมแอบไปทางเส้นทางลัด อัลมิตราก็เลยดำเนินการกับแผนใหม่ โดยการแจ้งพี่เลี้ยงแล้วบอกเส้นทางใหม่ ยืนยันด้วยคำมั่นเหมาะของคนพื้นที่ ที่อุตส่าห์ไปวาดแผนที่มาใหม่ ได้การล่ะ คราวนี้ 70 คน ฮ่า ฮ่า ฮ่า .. สบายใจวุ๊ย
. ทำเป็นกระหยิ่มยิ้มย่องแบบว่าหัวใจเพิ่งพองโตมาหมาด ๆ (ก็เพิ่งได้เสื้อส้มมา) ตอนออกปั่นก็ลิ่วแล่นนำหน้าใคร ๆ รู้เส้นทางแล้ว ยังไง ตังค์มี ไม่หลงทางแน่นอน เส้นทางตามแผนที่(ฉบับใหม่) ผ่านเส้นทางในหมู่บ้าน คนในชุมชนพากันแตกตื่น บ้างก็ตะโกนถามมา "จากไน้".."กรุงเตป".. ตอบไปเรื่อยตามรายทาง
. กระทั่งหลุดออกมาที่ถนนใหญ่ที่เป็นเส้นทางเชื่อมไปยังปากทะเล ---->หาดเจ้า แต่แดดตอนบ่ายนี่ เป็นอะไรที่เปรี้ยงจริง ๆ ขนาดใส่เสื้อแขนยาวยังรู้สึกผะผ่าว ว่าจะแอบพักสักหน่อย สองข้างทางก็ไม่มีต้นไม้ มีแต่นาเกลือทางซ้ายและขวา แม้แต่หย่อมหญ้าที่จะให้หย่อนก้นนั่งพักก็แทบจะไม่มี นึกถึงปลาแดดเดียวจัง
. ทำเป็น..จอดรถข้างทางแล้ว..ทำที..ดื่มน้ำ ชมวิว ถ่ายรูป (นาเกลือและนาเกลือ) ผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ที่ตอนแรกปิดหน้าเป็นโจร ก็ปลดออกด้วย ไม่ไหวหายใจไม่ทัน แว่นกันแดดก็ถอดแล้วเช่นกัน ทั้งผ้าเช็ดหน้าและแว่นอยู่ตะกร้ารถ จนกระทั่งเพื่อนไล่ปั่นตามมา อัลมิตราก็ปั่นอีกนิด พอเพื่อนพัก อัลมิตราก็พักด้วย
. คราวนี้รู้สึกไม่ค่อยดีแฮะ เหมือนหวิว ๆ อัลมิตราบอกเพื่อนเช่นนั้น แล้วก็นั่งยอง ๆ โดยอาศัยเงาอันน้อยนิดจากเพื่อนที่ตัวเล็กยืนบังแดดให้ ลุกขึ้นครั้งที่ 2 เดินไปเดินมาอีกนิด ก็รู้สึกแย่กว่าเดิม .. เลยบอกเพื่อน เหมือนจะเป็นลมแล้วล่ะ
. พี่เลี้ยงปั่นจักรยานตามมา ก็แวะมาถาม พอทราบเรื่องก็รีบติดต่อให้รถปิคอัพมารับ อัลมิตรายังทำทีว่าเหมือนยังไหว เพราะตอนนั้นไม่ได้เมื่อยล้า เพียงแต่ตาพร่ามัว รู้อาการเลยว่า น่าจะเป็นลมแดด พอครั้งที่ 3 นั่นแหล่ะ ยืนไม่ติดเลย หมดสภาพ เห็นลาง ๆ ว่ามีพี่เลี้ยงอยู่ตรงหน้า ก็เดินเซไปหา ก่อนที่จะเอ่ยว่า .. รู้สึกเหมือนจะเป็นลมค่ะ และตอนนี้ก็ไม่ไหวแล้ว สิ้นคำ อัลมิตราล้มทันที
. พี่เลี้ยงประคองอัลมิตราไปรถเรียบร้อย จัดการให้ดมแอมโมเนียซะจมูกบานเลย อ่า !! .. งานนี้ โดนเพื่อนล้อแน่นอน แย่ แย่ แย่ my dream turn to dust ..
. เหลือบมามองรถจักรยานหมายเลข 92 พยายามส่งกระแสจิตไปบอกมันว่า "โทษที .. ที่ไปเที่ยวด้วยกันไม่ตลอดรอดฝั่ง อย่าเพิ่งงอนจนโซ่หลุดล่ะ"
. มีคนรับช่วงปั่นจักรยานหมายเลข 92 ต่อจากอัลมิตรา ก็บรรดาพี่เลี้ยงนั่นเอง ส่วนอัลมิตราก็มานั่งหน้าซีดตัวเย็นเฉียบในรถปิคอัพ ..เส้นทางยังอีกไกลไหมนะ ใจก็คิดว่า ถ้าพ้นนาเกลือไปแล้ว ก็ว่าจะขอเปลี่ยนตัวมาเป็นผู้ปั่นจักรยานต่อ แต่พอดูแดดแล้ว ก็ไม่อยากฝืนตัวเอง รู้ตัวเลยว่า งานนี้แพ้แดดหมดหนทางสู้
. เพื่อนก็ยังห่วงใย พยายามชี้แจงให้คนขับ ให้ระวังอัลมิตราจะเมารถด้วยนะ โธ่..เมาแดดอย่างเดียวก็จะแย่อยู่แล้ว ยังจะให้เมารถ เมาซ้ำเมาซ้อนอีกแน่ะ.. ให้ตายเหอะโรบิ้น ให้ดับดิ้นเหอะแบทแมน เพื่อนคนนี้หวังดีสุด ๆ ..ฮา
. นับจากนั้น .. อัลมิตราก็ได้ฉายาว่า "ป๊อด" .. มันยังไงกันนะ ชื่อกบ ชื่อเขียด หรือศัพท์ต่างดาวที่ไหน คนหลงรุ่นอย่างอัลมิตราก็เลยไม่เข้าใจ ป๊อด คืออะไร ถ้าบอกว่า แป๊ก ยังพอเข้าใจหน่อย หรือว่า ปอด ก็ยังไม่น่าจะใช่ ใจยังสู้อยู่นะ
. คืนนั้น .. ใครต่อใคร ก็มาขอยาคลายกล้ามเนื้อจากอัลมิตรา รวมถึงยาทาด้วย ส่วนอัลมิตราเอง หลังจากส่งยาคลายกล้ามเนื้อให้เพื่อนไปแล้ว ตัวเองไม่ได้ใช้ ก็เลยนอนระบม พลิกตัวอย่างกะ กลับปลาบนตะแกรง หาจุดลงตัวนอนไม่ได้สักที
. สักพักพอเคลิ้ม ๆๆ ก็จะได้ยินเสียง โอย โอย .. คนนั้นลุกขึ้นมานวดขาตัวเอง อูย อีกหน่อยพอเคลิ้ม เอาอีกแล้ว .. โอย มีพาราไหม ขอพาราหน่อย ใครมีบ้าง โอย เพื่อนที่ร้องขอยาพารา ก็คือ คนที่ตั้งฉายาให้อัลมิตราว่า ป๊อด นั่นแหล่ะ สงสารดีไหมเนี่ย .. จับไข้ล่ะสิ
. เช้าวันอาทิตย์ .. กลุ่ม 7 คนที่อยู่บ้านพักหลังเดียวกัน มีเพียง 2 ที่หาญกล้าปั่นจักรยานต่อ นอกนั้นขอขึ้นรถบัสไปชะอำ และพร้อมใจกันแบกจักรยานขึ้นรถบรรทุก ซึ่งข้ออ้างของแต่ละคนก็ดี ๆ ทั้งนั้น ประมาณว่าสมเหตุสมผลกันทุกคนเชียว แต่ไม่ยักจะมีใครแบ่งเอาฉายา ป๊อด .. ไปบ้าง งานนี้เละคนเดียวเต็ม ๆ ป๊อด ก็ ป๊อด วะ...
. สองเท้าเป็นไปตามนิยามปั่น หัวใจมั่นแต่ทว่ากายล้าแสน ปั่นไม่ถึงจุดหมายแม้นกายแมน ซ้ำสองแขนพลอยเมื่อยแรงเฉื่อยชา พยับแดดแผดเผาจวบกายร้อน หวังลมอ่อนผ่อนให้กายหรรษา ซ้ายก็เกลือขวาก็เกลือเบื่อชายตา แดดแสบจ้าหน้ามืดวืดเป็นลม กลายเป็นป๊อดจอดสนิทคิดแล้วกลุ้ม เพื่อนฝูงรุมฉายาล้อสาสม ฝากไว้ก่อนคราวหน้าท้าให้ชม ยามแดดร่มเปล่าโม้..สุโขทัย หนนี้แย่แพ้พ่ายกายสังขาร เอาเถอะน่ะวันวานย่อมผ่านได้ วันข้างหน้าหากอยู่โปรดดูไป จะปั่นจนล้อไหม้...ฉันไม่โม้ ..
28 กรกฎาคม 2551 21:52 น. - comment id 100757
28 กรกฎาคม 2551 23:59 น. - comment id 100758
เตรียมการดี มีกะตังค์ มุ่งมั่นตั้งใจ แต่...วัยสูง(อายุ)
29 กรกฎาคม 2551 12:46 น. - comment id 100763
ป๊อดดดดดดดแล้วก็ป๊อด
29 กรกฎาคม 2551 20:10 น. - comment id 100767
มาบอกว่าอาการปวดกล้ามเนื้อแขนและขาจากการปั่นจักรยานระยะทางเกือบหกสิบกิโลในระยะเวลาสองวันหายแล้ว ความสุขที่ได้รับมีอยู่เต็มหัวใจ ทั้งปั่นและปลูกป่าชายเลน เป็นการลุยโคลนที่ประทับใจ แม้จะเล็กน้อย แต่ทุกหัวใจเดินทางก็มีความสุข
29 กรกฎาคม 2551 21:29 น. - comment id 100768
คุณแม่มดใจร้าย .. รวมสองวัน 60 กม. เชียวหรือนั่น อัลมิตราก็คิดว่าก่อนวูบไปนั้น น่าจะทำคะแนนได้สัก 10 กม. นะ รวมกับช่วงเช้าก็ได้คะแนนสะสม 16 กม. ตัวเลขใกล้เคียงกันจัง ระหว่าง 16 กับ 60 เนี่ย.. คุณกุ้งก้ามกราม .. เตรียมพร้อมเชียวล่ะ เสื้อก็แขนยาว กางเกงก็ซื้อมาใหม่ รองเท้ารัดส้น ถุงเท้าสั้น ผ้าเช็ดหน้าปิดหน้า สวมแว่นกันแดด สวมหมวกด้วย แต่แล้วก็แพ้แดดจนได้ .. ยังดีนะ ไม่ล้มไถลสิ้นสติตอนรถใหญ่ตามหลังมาน่ะ ไม่งั้น กลายเป็นผีเฝ้าระบบไปแล้วเนี่ย น้องต้นปี .. ขำอะไรนักหนาเนี่ย ..เกิดมาไม่เคยเป็นลมเหรอ ?
30 กรกฎาคม 2551 17:10 น. - comment id 100774
อ่านสนุกดีครับ แต่ถ้าปั่นแบบร้อน ๆ ยังงี้คงไม่ไหว ก็เรามันคนวัยสูงเหมือนกันนี่นา หุหุ
30 กรกฎาคม 2551 22:51 น. - comment id 100779
วันนี้ตอนเที่ยงไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมงาน ก็บอกว่า แดดร้อนกว่านี้นะ ซ้าย-ขวา นาเกลือ เพื่อนบอกว่า เฮ้ย บ้าตาย บรรยากาศนี้เนี่ยนะ ไปขี่จักรยาน ก็ตอบไปว่า เออ แล้วไปไม่ถึงดวงดาว ..555
31 กรกฎาคม 2551 09:02 น. - comment id 100781
ในวันที่อัลมิตรามิได้ไปปั่นจักรยาน บรรยากาศมีมากกว่านาเกลือ ท้องทุ่งนา ต้นไม้สีเขียวที่ตัดกับภูเขาสูงใหญ่ กับภาพท้องฟ้าใสใส เสียดายที่แม่มดมิได้หยุดถ่ายภาพมาให้ชม แต่ภาพบรรยากาศแบบนั้นยังตรึงใจแม่มดอยู่เสมอ
31 กรกฎาคม 2551 19:51 น. - comment id 100784
แหะ แหะ .. นั่งอยู่บนรถบัสก็เห็นบรรยากาศนะ อากาศร่มรื่นเชียวล่ะ ต้นไม้รายทาง แดดยามสายคนละเรื่องกับแดดยามบ่ายเชียวล่ะ แต่ทำไงได้ .. เพราะว่า ป๊อด แล้ว ... ๕๕๕